สวัสดีค่ะสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน สาวๆ เคยคิดไหมคะว่า ทำไมพอมีแฟนบางทีก็ชอบมีปัญหากัน บางคนต้องการพื้นที่ส่วนตัว บางคนก็อยากติดเกาะกับเขาแจ ทำไมกันนะ รักเราและเขาถึงไม่เหมือนกันเลย เพราะแบบนี้ Clubsister เลยมีคำตอบให้ มารู้จักความแตกต่างและเรียนรู้ตัวเองกันกับ มาเช็คกัน “คุณเป็นคนรักแบบไหน” จาก Attached Theory บอกเลยว่าหลังจากที่สาวๆ ได้รู้ว่าตนเองเป็นคนแบบไหน หรือคนรักของตนเองเป็นแบบไหน เราจะเข้าใจกันมากขึ้นอย่างแน่นอน
มาเช็คกัน “คุณเป็นคนรักแบบไหน” จาก Attached Theory
ก่อนเริ่มและก่อนที่จะไปเรียนรู้ว่าคุณเป็นคนรักแบบไหนนั้น เรามาลองทำความรู้จัก Attached Theory หรือ ทฤษฎีความผูกพันทางอารมณ์ที่ใช้วิเคราะห์ตนเองและคู่รักกันก่อนดีกว่าค่ะ
Attached Theory เป็นทฤษฎีที่ใช้วิเคราะห์และสังเกตโดยถูกคิดค้นและพัฒนามาจากนักจิตวิทยาอย่าง “John Bowlby” เขาเป็นนักจิตวิทยาและทฤษฎีในเชิงจิตวิทยาชื่อดัง
ซึ่งเขาสังเกตและเริ่มคิดค้นทฤษฎีนี้มาจากการสังเกตเรื่องราวของตนเองสมัยเด็ก เมื่อย้อนเขาเกิดในบ้านและสังคมชั้นสูงของอังกฤษ ซึ่งพ่อแม่ของเขาก็เลี้ยงดูปูเสื้อเขาอย่างดี มีพี่เลี้ยงแม่นมที่โอบอ้อมอารี เลี้ยงดูเขาเรื่อยมา แต่ทว่าในวันหนึ่งพี่เลี้ยงคนนั้นขอลาออก ทำให้ John เสียใจและร้องไห้ยกใหญ่ ประหนึ่งเหมือนโดนพรากของรักไป และนั่นเป็นต้นกำเนิดทฤษฎีนี้ขึ้น
โดย Attached Theory เป็นทฤษฎีที่จะทำให้รู้ว่าคุณเป็นคนรักแบบไหน โดยมีข้อสังเกตจากการเลี้ยงดูในสมัยเรายังเด็ก โดย John แบ่งประเภทของเด็กหรือคนเหล่านี้เป็น 3 กลุ่ม สามารถลองทำ Test ได้ที่นี่ (คลิกเพื่อทำแบบทดสอบ)
กลุ่มที่ 1: Secure
บุคคลกลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความอบอุ่น Balance ระหว่างตนเองและผู้อื่นได้เป็นอย่างดี มองความรักและการเอาใจใส่เป็นเรื่องสวยงาม เข้าใจมุมมองในด้านความรักเสมอ เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่ถูกเลี้ยงดูมาจากความรักและความเอาใจใส่ที่สม่ำเสมอ และเพียงพอต่อความต้องการ นั่นจึงทำให้เขาเป็นคนที่มีความสม่ำเสมอกับตัวเองและผู้อื่นเช่นกัน
แต่ทว่าเวลามีปัญหา สิ่งที่เขาต้องการคือเหตุผลและทางออก ต้องการการพูดกันอย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งเขายังเป็นเชื่อมั่นในตัวเองและผู้อื่น รวมถึงความสัมพันธ์ของเขาอีกด้วย
กลุ่มที่ 2: Avoidant
บุคคลกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวค่อนข้างสูง มีกำแพงและการปิดกั้นตัวเองจากผู้อื่น ไม่ค่อยไว้ใจใคร สบายใจที่จะอยู่กับตัวเองมากกว่า เหตุที่เขาเป็นคนแบบนี้อาจเพราะการเลี้ยงดูในอดีต ที่ไม่ค่อยได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเพียงพอ ไม่สม่ำเสมอ หรืออาจจะห่างไกลจากครอบครัว จนทำให้ในเวลาเด็กเมื่อเขาร้องไห้ หรือ ต้องการความรักและไม่ได้ตามที่ต้องการ สิ่งที่พวกเขาคิด ณ ตอนนั้นคือ พึ่งพาตนเองและอยู่กับตนเองให้ได้
นั่นทำให้คนกลุ่มนี้เมื่อมีเวลามีแฟนนั้น เขาชอบที่จะมีระยะห่างให้ตัวเขาเองได้หายใจ อย่าติดกันแจ ไม่ความการถูกล้ำเส้นหรือล่วงเกินเรื่องส่วนตัว อีกทั้งไม่ค่อยกล้าแสดงออกทางด้านความรักเสียเท่าไร แต่ใช่ว่ากลุ่มนี้จะดูเหมือนไม่มีข้อดี เมื่อใครก็ตามที่กระเทาะกำแพงหนาในใจของเขาได้นั้น บอกเลยว่าคุณจะเป็นที่หนึ่งและหนึ่งเดียวในใจของเขา เมื่อเขาเกิดความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์เขาจะซื่อสัตย์และจะพยายามเข้าใจความสัมพันธ์เหล่านี้เป็นอย่างดี
กลุ่มที่ 3: Anxious
บุคคลกลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่แทบจะเป็นส่วนใหญ่ในสังคมเลยก็ว่าได้ เป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยมั่นใจในความรักความสัมพันธ์ มีความกลัวในการเปิดใจตนเองกับผู้อื่น มีความต้องการความรักและการดูแลเอาใจใส่ มีความโลเล และสับสนในการกระทำต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากในตอนเด็กพวกเขาอาจจะถูกเลี้ยงดูมาแบบพ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาแต่ก็ยังดูแลได้ ทำให้บ่อยครั้งตอนเด็กเขาต้องร้องไห้ หรือเรียกร้องความสนใจเพื่อให้พ่อแม่หันกลับมาดูแลพวกเขา
นั่นทำให้เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจกับท่าทีที่ไม่เสมอต้นเสมอปลาย หรือกังวลกับการเปลี่ยนแปลง แต่ทว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนที่ชอบแสดงออกกับความรัก ขี้อ้อน และหวั่นไหวได้ง่าย สิ่งที่เขาต้องการคือ “ความเอาใจใส่ที่เสมอต้นเสมอปลาย” เท่านั้นเอง
- How to เติมความหวานให้ชีวิตคู่ ต้องหวานยังไงให้แฟนหลง น่ารักแบบนี้ไม่รักได้ไง!
- ฮาวทูมูฟออน! 5 วิธีทำใจให้เข้าใจ มูฟออนยังไงไม่ให้เป็นวงกลม!!
- 10 สัญญาณตกหลุมรัก ถ้ารู้สึกแบบนี้ มีแววว่าจะมีความรักให้เขาแล้วล่ะ!
สาวๆ ได้รู้จักตนเองจากทฤษฎีไปแล้ว คราวนี้เรามาลองดูกันว่าหากเรามีแฟน คุณเป็นคนรักแบบไหนและข้อดีข้อเสียของคนรักในแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง แต่ก่อนอื่นเราต้องมาลองทำ Test กันก่อน สามารถลองทำได้ที่นี่เลย (คลิกเพื่อทำแบบทดสอบ)
คนรักในแบบที่ 1: Relaxed – Engaging (Secure)
คนรักในแบบกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีภูมิคุ้มกันหรือ Self Esteem ในตนเองค่อนข้างดีเลยทีเดียว และนั่นทำให้เขาสบายใจ พร้อมกล้าเปิดใจที่จะแสดงความคิดเห็นหรือพื้นที่ของตนเองให้กับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีข้อกังขาใดๆ อีกทั้งพวกเขายังทำมันได้อย่างธรรมชาติ ไม่เพียงแค่นั้นพวกเขาเป็นคนที่ปากตรงกับใจ คิดอย่างไรพูดอย่างงั้น เมื่อมีปัญหาอะไรก็กล้าที่จะบอกหรือพูดกันตรงๆ ไม่อ้อมค้อม เป็นคนเปิดกว้างใจกว้างกับคนอื่น อีกทั้งสามารถให้คนอื่นเข้าหาตัวตนหรือเปิดเผยตนเองกับผู้อื่นได้ง่าย โดยที่ไม่ได้มีกำแพงอะไรมากมาย เรียกได้ว่าเป็นคนทีชิลๆ เลยทีเดียว
และนอกจากการเข้าอกเข้าใจคนอื่นแล้วนั้น พวกเขาเหล่านี้ยังกล้าและสามารถทำอะไรด้วยตนเองได้ ไม่จำเป็นต้องมีคนรักหรือ Need คนรักตลอดเวลา แต่ถึงเขาจะเป็นแบบนี้เขาก็มีความมั่นใจและมองหาการเชื่อใจ ซื่อสัตย์อย่างตรงไปตรงมาในความสัมพันธ์ ยิ่งหากเขาเจอคนรักที่เขาสามารถมั่นใจเชื่อใจ และไว้ใจได้แล้วนั้น เขาจะชอบและเก็บรักษากลุ่มคนเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีเชียวแหละ แต่หากสาวๆ คนไหนมีแฟนเป็นคนกลุ่มนี้ละก็ บอกก่อนเลยว่าคนกลุ่มนี้เขาไม่ชอบสงครามจิตวิทยาหรือสงครามเย็น การลองใจ ประชดประชันยันความกล้าใดๆ พวกเขาไม่ชอบ เพราะเขาเป็นคนตรงๆ ไม่ชอบความอ้อมค้อม เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เขาจะรู้สึกอึดอัด
คนรักในแบบที่ 2: On Edge – Engaging (Ambivalent)
คนรักในกลุ่มนี้จะเหมือน Mix and Match เอาคนในแบบ Secure และแบบ Anxious เข้าด้วยกัน ซึ่งคนรักในแบบนี้จะเก่งมากกับการดึงดูดความสนใจหรือเรียกคะแนนความสนใจจากคนรอบข้างได้ดีเลยทีเดียว เขาชอบให้คนชื่นชมและชมชอบตนเอง มากไปกว่านั้นคนรักในกลุ่มนี้เป็นคนที่จะทำตัวเป็นเหมือนคนรักที่พึ่งพาเขาได้ และเป็นคนรักที่มากไปด้วยความสามารถและสเน่ห์อันน่าดึงดูดและอยากอยู่ด้วย
ด้วยความสามารถในการดึงดูดและเรียกคะแนนความสนใจของคนรอบข้างได้ดีแล้วนั้น ทำให้เขาเป็นคนรักที่มีความสามารถในด้าน การชักจูงและโน้นมใจคนอื่นได้ดีเยี่ยม เขามองคนอื่นอย่างทะลุปรุโปร่ง เข้าใจหัวอกและความรู้สึกคนอื่นได้ดี แต่ทว่าในความมั่นใจต่างๆ นั้นก็เต็มไปด้วยความอ่อนไหวและ Emotional เสียเหลือเกิน
คนรักในแบบที่ 3: Relaxed – Avoidant (Dismissive)
คนรักในกลุ่มนี้เป็นการ Mix กันระหว่าง Secure + Avoidant (นักเขียนเองเป็นคนรักในแบบนี้ ฮ่าๆ) มองผิวเผินคนรักในแบบนี้อาจดูไม่ดีเสียเท่าไร เพราะภายนอกดูเป็นคนเย็นชา ไม่ค่อยสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เท่าไร เหมือนพวกโนสนโนแคร์ ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน แต่! แท้จริงแล้วไม่ใช่นะ คนรักในกลุ่มนี้เป็นคนที่ค่อยข้างรักษาระยะห่างและพื้นที่กับคนรัก เพราะเขาเชื่อว่าคนทุกคนมีพื้นที่ของตนเอง ความรักไม่ใช่ทุกอย่างบนโลกใบนี้ เพราะนอกจากเราและเรา ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องสนใจไปด้วย อีกทั้งเขาคิดว่าคนทุกคน รวมถึงตนเองนั้นมีจุดที่แตกต่างซึ่งกันและกัน
ไม่เพียงแค่นั้นยิ่งความสัมพันธ์ไหนที่มีความ Emotional เยอะ ต้องคลุกคลีหรือใช้อารมณ์ร่วมกันเยอะๆ (ดราม่าหน่อยๆ) พวกเขามักไม่ชอบ เพราะรู้สึกเสียเวลาและเสียพลังงาน แต่เห็นเขาเป็นคนที่เหมือนมั่นใจในตนเอง ไม่สนใจโลกหรือใดๆ คนรักกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ดูแข็งด้านนอกและเปราะบางด้านในนะ เขามักไม่แสดงออกทางด้านความรู้สึก หรือความคิด โดยเฉพาะความอ่อนแอของตนเอง
สุดท้ายนี้คนรักในแบบนี้เป็นคนที่กล้าที่จะเสี่ยงหรือจัดการความเสี่ยงในความสัมพันธ์ได้ดี หากเขาคิดที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครแล้ว หากผลลัมพธ์ออกมาได้ไม่ดี หรือทำให้เขารู้สึกเสียพลังงาน พวกเขาก็ไม่คิดจะเสียเวลาด้วยเด็ดขาด
คนรักในแบบที่ 4: On Edge – Avoidant (Mistrusting)
และก็มาถึงคนรักในแบบสุดท้าย เหมือนเป็นการ Mix กันระหว่าง Avoidant + Anxious คนรักในกลุ่มนี้เป็นคนรักที่ต้องการการแสดงออกทางด้านความรัก ต้องการการสัมผัสใกล้ชิด สนิทสนม และอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่! หากพอตนเองได้พื้นที่หรือเริ่มสนิทสนมกับใครแล้วนั้น กลับมีความคิดนึงแทรกเข้ามาว่า “ฉันก็อยากได้ Space เหมือนกันแหะ” เพราะด้วยความคิดที่ว่า พอต้องสนิทหรือใกล้ชิดกับใครแล้ว ก็ต้องมีความเยอะแยกต่างๆ เข้ามา พอเป็นแบบนี้ก็กลัวว่าตนเองจะรับไม่ไหว
และนอกจากนี้คนรักในกลุ่มนี้เป็นคนที่เหมือนมีกำแพงและป้องกันตนเองสูง เพราะเขาจะเก่งมากกับการหาเหตุผลหรือมองหาข้อบกพร่องหรือจุดผิด จุดอ่อนของอีกฝ่าย เพื่อนำมาป้องกันตนเองจากความผิดหวังต่างๆ แต่เห็นเหมือนเขาเป็นคนย้อนแย้งแบบนี้ คนรักในกลุ่มนี้เป็นคนที่ค่อนข้างเปราะบางเหมือนกัน ในมุมนึงเขาก็ต้องการความมั่นใจใส่ใจ แต่ก็ต้องการ Space ด้วยเช่นกัน
และนี่คือ Attached Theory หรือ Attachment Style คุณเป็นคนรักแบบไหน สาวๆ เป็นคนรักแบบไหนมาบอกกันได้นะคะ แต่ถึงแม้เราทำ Test ออกมาและพบว่าเราเป็นคนแบบไหน ก็ใช่ว่าเราจะไม่ใช่ว่าเราจะมีความรักที่ดี หรือความสัมพันธ์ที่ดีไม่ได้ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและการปรับตัวซึ่งกันและกันด้วย สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ติดตามและอ่านกันมาจนถึงตรงนี้ค่ะ และพบกันใหม่กับบทความหน้าจะมี Test อะไรมาให้ลองเล่นกันอีก อย่าลืมตามมาดูกันนะคะ บ๊ายบายค่า
Source:
Stay connected