สวัสดีค่ะสาวๆ ชาว Clubsister ที่น่ารักทุกคน อีกไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมงเราจะเข้าใกล้ปีใหม่กันขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะคะ เราเชื่อว่ามีใครต่อหลายคนที่อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในปีใหม่ๆ ใจจะขาด แต่ที่ใจยังไม่พร้อมนั้น มันยากเหลือเกิน โดยเฉพาะเรื่องปัญหาหัวใจ วันนี้ซิสมีอะไรดีๆ มาแนะนำสำหรับใครที่ไม่อยาก Move on เป็นวงกลมหรือจังหวะสามช่า กับ “ฮาวทูมูฟออน! 5 วิธีทำใจให้เข้าใจ มูฟออนยังไงไม่ให้เป็นวงกลม!!” บอกเลยว่า สาวๆ คนไหนที่ลองทำตามวิธีเหล่านี้ ไม่นานจะตัดใจและเป็นสาวโสดที่มีความสุขที่สุดในโลกได้แน่นอน อย่ารอช้าไปเริ่มกันเลย

 

“ฮาวทูมูฟออน! 5 วิธีทำใจให้เข้าใจ มูฟออนยังไงไม่ให้เป็นวงกลม!!”

 

ข้อที่ 1 : รู้ระบบความคิดกลไกความเจ็บปวดและความผิดหวัง

ฮาวทูมูฟออน

ฮาวทูมูฟออนข้อแรกที่อยากจะแนะนำเลยนั่นคือ การเข้าใจและเรียนรู้ระบบกลไกทางวิทยาศาสตร์ของความคิด, จิตใจ และสมองของเราก่อน (ดูเป็นวิชาการ แต่มันคือเรื่องจริง) โดยสิ่งที่เราอยากให้สาวๆ ได้เรียนรู้เลยนั้น มีทฤษฎีและกฏเกณฑ์อยู่ 2 เรื่อง

เรื่องแรกคือ ระดับสารเคมีในสมองของมนุษย์เราเวลามีความรัก จะหลั่งสารตัวเดียวกับคนที่เสพยาเสพติด อ้าว!! ทำเป็นเล่นไป แต่มันคือเรื่องจริงค่ะ โดยทฤษฎีนี้มาจาก Helen Fisher เคยพูดเอาไว้ใน TED TALK กับหัวข้อที่ว่า “The Brain In Love” (แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า สมองของเราเวลามีความรัก) โดยคุณ Helen นั้นเป็นนักมนุษวิทยาที่ทำการศึกษาระบบสารเคมีในสมอง, ประสาท ของเราเวลาที่เรามีความรัก

ซึ่งเธอค้นพบว่าในเวลาที่เราตกหลุมรักหรือมีความรักนั้น ส่วนสมองที่เรียกว่า “Ventral Tegmental Area” คือส่วนสมองที่ผลิตสารต่างๆ เวลาที่เราดีใจหรือได้รับรางวัล อีกทั้งเซลล์ต่างๆ ในสมองจะผลิตสารตัวหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นในเราเกิดความสุขและคลายความทุกข์ได้อย่าง โดปามีน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากพอๆ กับการเสพโคเคนเลยก็ว่าได้

ฮาวทูมูฟออน

นั่นเลยไม่แปลกใจว่าทำไมเรามีความรัก เราถึงเสพติดความสุขและความหอมหวานของมันเหลือเกิน กลับกันเมื่อเวลาเราอกหัก อาการของเราก็ไม่ต่างอะไรกับคนลงแดงสารเสพติดที่เคยมี คุณ Helen ได้อธิบายว่า สารในสมองของคนที่อกหักนั้น เป็นสารตัวเดียวกันกับคนที่พยายามจะเลิกยาเสพติดที่อยู่ในขั้นอยากยา

นอกจากทฤษฎีสารในสมองเพื่อให้สาวๆ เข้าใจฮาวทูมูฟออนได้ง่ายมากขึ้นแล้วนั้น สิ่งที่เราควรเข้าใจอีกทฤษฎีนึงคือ 5 ขั้นตอนทางจิตวิทยาของความเสียใจ มนุษย์เรานั้นในทุกครั้งที่เวลาสูญเสียหรือเสียใจกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่กระทบต่อจิตใจนั้น กว่าจะเข้าใจอะไรได้ง่ายมันต้องผ่านกระบวนการทางจิตโดยแบ่งออกเป็น 5 ขั้นดังนี้

ขั้นที่ 1 ปฏิเสธ (Denial) ในขั้นแรกคือขั้นที่เพิ่งเกิดเรื่องเวลาเราเจอเรื่องสูญเสียมา สิ่งแรกที่สมองเราสั่งการเลยคือ ปฏิเสธหรือต่อต้านสิ่งที่รับมา เป็นกระบวนการการป้องกันตนเองในรูปแบบหนึ่ง นั่นถึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมตัวละครในหนังหลายๆ เรื่องพอเจอเรื่องแบบนี้และจะพูดคำว่า “ไม่จริง ไม่!” กันอยู่บ่อยๆ ขั้นที่ 2 โกรธ (Anger) ขั้นนี้เป็นก่อนที่สองก่อนที่สมองและจิตเราจะเริ่มเข้าใจมาทีละนิด กลไลทางความรู้สึกหรือทางจิตจะเริ่มปกป้องตัวเอง

หรือแสดงจุดยืนของตนเองขึ้นมา ผ่านอารมณ์และความรู้สึก บ่อยครั้งที่เราจะตั้งคำถามว่าทำไมต้องทิ้งเราไป ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องมีคนอื่น ทำไม ทำไม ต่างๆ นาๆ เอาจริงๆ ไม่ว่าเหตุผลอะไรมาพูดตอนนี้ เราก็ไม่ฟังมันง่ายๆ หรอก

ฮาวทูมูฟออน

ขั้นที่ 3 ต่อรอง (Bargaining) ก่อนที่จะฮาวทูมูฟออนไปข้ออื่นเราเชื่อว่าจะต้องมีสาวๆ ตกอยู่ในอาการระเบิดอารมณ์มาก่อน ซึ่งเป็นกลไกการปกป้องตนเองจบลงแล้วนั้น สิ่งที่จิตจะกระตุ้นในเราทำคือ การต่อรอง เพราะโดยปกติแล้วพื้นฐานของมนุษย์พอเมื่อรู้ว่าเราจะสูญเสียสิ่งที่รักหรือสิ่งที่เราครอบครองไปแล้วนั้น เราจะเกิดการเสียอำนาจการควบคุม จึงไม่แปลกว่าทำไม เราถึงพยายามง้อแฟนหรือ ต่อรองเพื่อให้เขากลับมาอยู่ในจุดเดิม

ข้อที่ 4 เศร้าเสียใจ (Depression) หากคุณมาจนถึงขั้นนี้ เราก็ขอยินดีด้วยค่ะ คุณใกล้เข้าถึงขั้นตอนสุดท้ายทางจิตและกลไลของความรู้สึกแล้ว ในเมื่อผ่านสามขั้นตอนแรกมาแล้วนั้น เหมือนร่างกายและจิตใจของเรามันเริ่มเหนื่อยแล้ว เราก็จะรับรู้ได้ว่าเราสูญเสียของรักและไม่ได้ครอบครองมันอีกต่อไป จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเราถึงได้ร้องไห้ได้เป็นวักเป็นเวร ฟังเพลงเศร้าก็มีเขาอยู่ในนั้นได้ตลอดเวลา ซึ่งขั้นนี้เป็นขั้นที่นานหน่อยและเป็นขั้นพึงระวังมากที่สุด

ขั้นสุดท้าย ยอมรับความจริง (Acceptance) หากคุณเลยจุดที่น้ำตาไหล และ ร่างกายเริ่มเหนื่อยแล้วนั้น เรายินดีด้วยค่ะ คุณเข้าสู่โหมดยอมรับความจริงได้แล้ว ขั้นนี้คุณจะเริ่มเข้าว่าสิ่งต่างๆ ที่คุณเจอมันมีเหตุผลเดียวคือเราไม่รักกันแล้ว หรือเขาไม่รักเราแล้ว โน้นนี่ และคุณจะเลิกตั้งคำถามกับมันเสียที

 

ข้อที่ 2 : กำจัดสิ่งเร้าและสิ่งกระตุ้นต่างๆ

ฮาวทูมูฟออน

และฮาวทูมูฟออนข้อต่อไป บอกเลยว่าใครใจไม่แข็งพอ อาจจะข้ามข้อนี้ไปได้ยาก แต่เราอยากให้สาวๆ ทุกคนใจแข็งและมูฟออนไปเจอสิ่งที่ดีกว่าพร้อมๆ กัน โดยฮาวทูมูฟออนข้อนี้คือ “กำจัดสิ้งเร้าและสิ่งกระตุ้นต่างๆ” ซึ่งข้อนี้คือการตัดวงจรหรือทิ้งทุกอย่างที่จะกระตุ้นให้เราจำหรือนึกถึง (ถึงแม้ว่าน้องอิ้งจะบอกว่า ลบไม่ได้ช่วยให้ลืมก็เถอะ) แต่เชื่อเราซิ เราผ่านจุดนั้นมาก่อน มันช่วยได้มากๆ

โดยการกำจัดสิ่งเร้านั้นอย่างแรกเลยคือ ทิ้งค่ะ! เหมือนคนจะเลิกยานั่นแหละ จะเลิกยาก็ต้องทิ้งและเลิกซื้อ เลิกติดต่อกับคนขายก่อน เช่นเดียวกัน ทิ้งทุกอย่างที่เป็นของของเขา ตุ๊กตา เสื้อผ้า การ์ด รูปถ่าย ใดๆ ล้วนที่เป็นของๆ เขา หรือเกี่ยวข้องกับเขา หรือจะเชื่อมโยงถึงเขา ทิ้งใส่ถุงดำให้หมดทุกอย่าง อย่าไปเสียดายค่ะ

ไม่เพียงแค่นั้นช่องทางการติดต่อหรือที่คิดว่าเราจะติดต่อเขาได้ เขาจะติดต่อเราได้ Block และ ลบทิ้งค่ะ Facebook, Twitter, IG, เบอร์โทรศัพท์ เบอร์เพื่อนใดๆ ถ้าไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกัน Block และ ลบค่ะ อย่าเก็บเอาไว้เด็ดขาด แต่หากใครที่จำเป็นต้องมีความเกี่ยวข้องกันทางธุรกิจหรือใดๆ เหลือไว้แค่ Line หรือ เบอร์โทรอย่างใดอย่างหนึ่งก็น่าจะพอค่ะ แต่ต้องใจแข็งและจำไว้ว่าแค่เรื่องธุระเท่านั้น!

 

ข้อที่ 3 : เข้าใจกฏของธรรมชาติ และยอมรับมัน

ฮาวทูมูฟออน

ฮาวทูมูฟออนข้อต่อไปนี้ อาจจะฟังดูเข้าหลักธรรมะเล็กน้อย แต่มันคือพื้นฐานของการยอมรับและเข้าธรรมชาติของวิถีมนุษย์ (ซึ่งแตกต่างจากข้อที่ 1) ซึ่งข้อนี้อาจจะเหมาะกับสาวๆ คนไหนที่ผ่านขั้นตอนการเสียใจมาจนถึงข้อที่ 5 แล้ว โดยสาวๆ ต้องเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติของมนุษย์ว่า คนเราทุกคนล้วนแต่เกิดมาคนเดียว ตายคนเดียว มีพบก็มีจากเป็นเรื่องธรรมดา เพราะทุกอย่างไม่มีความแน่นอน

ในวันนี้ที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันมีแค่เหตุผลเดียวเลยคือ เราหรือเขาอาจจะไม่ใช่ความสุขซึ่งกันและกันแล้วเท่านั้นเอง หรือ ง่ายๆ สั้นๆ เขาหรือเราไม่ได้รักกันแล้วแค่นั้น เมื่อเราไม่มีความรัก ความห่วงใย ใดๆ ซึ่งกันและกัน ก็ไม่แปลกที่จะจากกันไป มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องรู้
แต่อีกสิ่งที่น่าสนใจ เราเคยได้ยินประโยคหนึ่งจากนักเขียนท่านหนึ่ง (ซึ่งจำไม่ได้แล้ว ขออภัยด้วยค่ะ) เคยบอกไว้ว่า “การที่เราสูญเสียเขาไปนั้น ข้อดีอีกอย่างนึงเลยคือ เราได้ตัวตนของเรากลับมา” เราคิดว่าข้อนี้เป็นข้อที่จริงที่สุด

ในวันที่มีเขาบางครั้งเราแชร์โลกหรือมุมมองด้านหนึ่งให้กับเขา บางคนแทบจะให้เขาเป็นโลกทั้งใบเสียเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นในวันที่ไม่มีกัน เราก็แค่ได้โลกหรือมุมส่วนนั้นของเรากลับคืนมาเท่านั้นเอง ขนาดเกิดเราเกิดมาคนเดียวเลย เวลาจากเขาหรือเรายังไงก็ต้องจากไปและเหลือตัวเราไว้แค่คนเดียวอยู่ดี ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย นอกจากการยอมรับและเข้าใจในเรื่องการจากลาแล้ว

ฮาวทูมูฟออน

อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องลองทำเลยสำหรับฮาวทูมูฟออนคือ “การปล่อยวาง” เป็นคำพูดที่ดูเหมือนง่าย แต่บอกเลยว่า “ยากพอตัว” การปล่อยวางคืออะไร การปล่อยวางคือการทีจิตใจของเราไม่ยึดถึง หรือ ถือตั้งกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือสิ่งที่กระตุ้นหรือรบกวนจิตใจ ให้เราแค่มีสมาธิกับสิ่งและหน้าที่ที่ทำอยู่ตรงหน้าก็เพียงพอ เพราะการที่เรามีเสียงกร่นด่า เสียงบ่น เสียงน่าเวทนาในใจแล้วนั้น คนที่ร้อนที่สุดก็คือเรา คนที่ทุกข์ก็คือเรา ฝั่งตรงข้ามเขาไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าเราคิดอะไร คิดยังไง และให้เข้าใจเสมอว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีความแน่นอน” 

 

ข้อที่ 4 : หาจุดโฟกัสอื่นๆ หรือ กิจกรรมอื่นๆ ทำ

ฮาวทูมูฟออน

เราเริ่มเข้าใกล้ ฮาวทูมูฟออนข้อสุดท้ายแล้ว และฮาวทูมูฟออนข้อนี้คือ “หาจุดโฟกัสและ Activity อื่นๆ ทำ” ในเมื่อเราได้โลกหรือมุมของเราคืนมาแล้วนั้น อีกทั้งชีวิตคนเรามันสั้นเกินไปกว่าที่จะมานั่งทุกข์ ดังนั้นเริ่มทำในสิ่งที่ที่เรายังไม่ได้ทำกันเสียที

ไม่ว่าจะเป็นการกลับไปหาเพื่อน พบปะเพื่อนๆ ที่ห่างหายกันไป หาเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น หาเวลาให้กับงานอดิเรก หรือ งานมากขึ้น มีเวลาดูแลตัวเอง ไปออกกำลังกาย นวด สปา หรือหาจุดโฟกัสในรูปแบบอื่นๆ เชื่อเราเถอะว่า หากเราหา Activity เหล่านี้ได้แล้วนะ นอกนั้นก็สบาย

 

ข้อที่ 5 : เรียนรู้ที่จะหาความสุขด้วยตัวของเราเอง

ฮาวทูมูฟออน

และเราก็มาถึงฮาวทูมูฟออนข้อสุดท้ายกันแล้วค่า และข้อนี้จะเกี่ยวเนื่องกับข้อ 4 ในกรณีที่ Activity เหล่านั้นของคุณเกี่ยวข้องกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว แน่นอนมนุษย์เรามีความแตกต่างและหลากหลาย เพื่อนบางคนหรือสมาชิดในครอบครัวของเราบางคนก็ว่างให้เราตลอด แต่ถ้าในกรณีที่พวกเขาไม่ว่างกันละเราจะทำยังไง

แน่นอนให้เราเริ่มเรียนรู้ที่จะมีความสุขได้ด้วยตัวของเราเอง หรือเรียกง่ายๆ ว่า “โฟกัสและรักตัวเองให้มากๆ” จริงๆ คำนี้อาจจะง่าย แต่มันยากนะ เพราะหลายต่อหลายคนจะเข้าใจผิดระหว่างคำว่า รักตัวเอง กับ เห็นแก่ตัว จริงๆ แล้ว 2 คำนี้แตกต่างกัน

“รักและโฟกัสตนเอง” นั้นจะไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อนไม่ว่าจะทางกาย วาจา หรือใจ ไม่เบียดเบียนใคร อย่างเช่น ความสุขของเราคือการเปิดหนังดู NETFLIX ในก้องนอนคนเดียว, อ่านหนังสือที่ซื้อมา หรือ ปัดกวาดแต่งห้องนอนของเรา เป็นต้น “แต่การเห็นแก่ตัว” นั้น จะกระทบต่อคนอื่นๆ เบียดเบียนความรู้สึกหรือร่างกายผู้อื่นด้วยเช่นกัน

 

และนี่คือทั้งหมดของ ฮาวทูมูฟออน ทั้ง 5 ข้อ เอาละค่ะ เราอยากให้สาวๆ ค่อยๆ เรียนรู้กับมันไปทีละข้อ และที่สำคัญอย่างสุดท้ายคือ “อย่าเร่งเวลา” ทุกอย่างบนโลกนี้ต้องใช้จังหวะและเวลา เราเชื่อว่าเวลาจะช่วยให้อะไรหลายๆ อย่างดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนหรือความพยายามที่จะก้าวไปข้างหน้าของเรา หรือแม้กระทั่วเวลาที่จะทำให้เราเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้น มันถูก มันดีหรือไม่

และสุดท้ายก่อนจากกันไปกับปี 2020 เราขอเป็นกำลังใจให้กับสาวๆ ทุกคนที่อยากจะเริ่มต้นใหม่ รู้นะว่ามันยาก แต่เราเชื่อว่าสาวๆ ทำได้ สู้! ฮึบ! สาวๆ Clubsister เก่งอยู่แล้ว เจอกันใหม่บทความหน้า ในปีหน้า 2021 ที่ผ่านมาขอบคุณมากๆ เลยค่า บ๊ายบาย

 

Source:

Photo Credit: pexels

Comments

comments