เรื่องอายุเป็นสิ่งที่เราหยุด หรือชะลอไม่ได้ ตัวเลขที่มากขึ้นแต่ละปีก็ส่งผลให้ร่างกาย และผิวพรรณของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทั้งเรื่องริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ฝ้า กระ และจุดด่างดำที่เกิดขึ้นมาตามวัย สาว ๆ หลายคนกังวลในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ครั้งนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ทริคแต่งหน้าย้อนวัย แต่งหน้ายังไงให้ดูเด็ก ในงบที่ใช้ของชิ้นละไม่เกิน 1,000 บาทให้ดูกันค่ะ ให้โกงอายุไปอย่างน้อยสัก 5 ปีก็ยังดีนะ 5555 แต่จะแต่งยังไงให้ดูอ่อนเยาว์ลงนั้น ส่วนแรกต้องแก้กันที่ปัญหาผิวก่อน เราขอมาเริ่มตั้งแต่การเตรียม + บำรุงผิว เพื่อเตรียมพร้อมก่อนจะไปเมคอัพเลยก็แล้วกัน
” แต่งหน้ายังไงให้ดูเด็ก ในงบ 1,000 บาท!! “
SISTAR Watermelon Brightening & Refreshing Soap
ใน 1 ซองมีสบู่ 2 ก้อนค่ะ
อันดับแรกมาเริ่มที่การล้างหน้ากันก่อนเลยค่ะ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเราถึงเลือกใช้สบู่ก้อน ก็เพราะว่าสบู่แตงโมของ SISTAR เนี่ยเขาทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกจริง ๆ ล้างเครื่องสำอางได้ แถมล้างเสร็จแล้วก็ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงด้วย ความน่าสนใจของเขาอยู่ที่ส่วนผสมต่าง ๆ ซึ่งมีดังนี้ค่ะ
- Watermelon : ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่แห้งกร้าน ขาดน้ำ ให้กลับมาคงความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ สุขภาพดี
- Vitamin C : ทำให้ผิวกระจ่างใส และฟื้นบำรุงผิวที่หมองคล้ำให้กลับมาสม่ำเสมอกันมากขึ้น
- Collagen : ทำให้ผิวเนียนกระชับ
- Aloe Vera : ช่วยฟื้นฟูผิวหลังออกแดด และเจอมลภาวะ เติมน้ำให้ผิว และลดรอยสิวไปในตัว
- Yogurt : ทำให้ผิวละเอียด และมีความเนียนนุ่มน่าสัมผัส
สามารถนำตาข่ายมาตีให้เกิดฟองโฟมได้ เพื่อเลี่ยงมือสัมผัสกับใบหน้าโดยตรง
SISTAR Radish Extra Melasma Serum
บำรุงผิวในขั้นตอนถัดมา ด้วยเซรั่มฝ้าไชเท้าจาก SISTAR อีกเช่นกัน เนื่องจากเราเป็นคนมีจุดด่างดำอยู่ตามโหนกแก้ม ได้ลองใช้เซรั่มตัวนี้แล้วชอบ อย่างแรกที่ประทับใจคือกลิ่นหอมละมุน เนื้อเซรั่มเกลี่ยง่าย และซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ ที่สำคัญคือลองใช้มาเรื่อย ๆ รู้สึกว่าจุดด่างดำดูจางลงด้วย ตรงนี้คือปลื้มที่สุด ซองนึงถูกมากแค่ 39 บาท เดินเข้าเซเว่นไปก็เจอแล้ว
นอกจาก Radish (สารสกัดจากหัวไชเท้า) ที่ช่วยลดเลือนฝ้า กระแดด และจุดด่างดำแล้ว เขายังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่สำคัญอีก ได้แก่
- Arbutin : ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ
- Hyaluronic Acid : และช่วยฟื้นบำรุงผิวที่แห้งกร้าน ทำให้ผิวกลับมามีความชุ่มชื้น
- Collagen : ทำให้ผิวนุ่มลื่น เรียบเนียน น่าสัมผัส
เนื้อเซรั่มซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ทิ้งความเนียวเหนอะหนะให้รำคาญใจ
หลังจากล้างหน้า และบำรุงผิวเรียบร้อยแล้ว เราก็มาเข้าสู่ขั้นตอนของงานผิวกันก่อนเลยค่ะ
BASE MAKEUP
- เริ่มจากการใช้เบสสีเขียวเล็กน้อย (ขอเน้นว่าปริมาณต้องน้อยจริง ๆ นะคะ เท่าเม็ดถั่วเขียวนั่นแหละ) ทาให้ทั่วใบหน้า เพื่อเป็นการปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส และพรางรอยแดงต่าง ๆ บนใบหน้า
- ลงคอนซีลเลอร์ตรงใต้ตา ร่องจมูก มุมปาก และตามบริเวณต่าง ๆ ที่อยากจะปกปิด
- ลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้า แต่เนื่องจากเราเป็นคนไม่ใช้รองพื้น เราใช้ CC Cream แทน ตัวนี้เป็นเนื้อเหลวได้ความบางเบามากกว่าค่ะ
- เซตผิวด้วยแป้งฝุ่นเบา ๆ ไม่ต้องหนามาก เพราะจะทำให้หน้าดูแห้งและเป็นการเน้นริ้วรอยให้ชัดกว่าเดิมได้
ในการแต่งหน้าลุคนี้ งานผิวถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างต้องใช้ในปริมาณที่พอดี ไม่มากเกินไปนะคะ เสร็จแล้วเราก็ไม่ที่งานตาและคิ้วกันต่อได้เลย
EYES & EYEBROWS
งานคิ้วและดวงตาสำหรับลุคนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนมากเลยค่ะ เน้นใช้ที่เขียนคิ้วเนื้อฝุ่นลงเบา ๆ ตามรูปคิ้ว โดยเน้นให้หางคิ้วเข้มขึ้นมาเล็กน้อย และให้หัวคิ้วดูจาง ๆ เข้าไว้ ถ้าไม่เขียนคิ้วเลย หรือเขียนเข้มเกินไป ก็จะทำให้ดูสูงวัยไปกันใหญ่ ฉะนั้นตรงนี้ก็ควรทำให้มันพอดี ๆ ค่ะ
ส่วนการแต่งตาก็ไม่มีอะไรยากมากค่ะ สาว ๆ บางคนคิดว่าจะแต่งตาให้ดูสวยก็ต้องใช้วิธีการ “คัดเบ้า” เพื่อเน้นรูปตาให้ชัดขึ้น แต่นั่นคือความเชื่อที่ผิดค่ะ เพราะการคัดเบ้าไม่ได้เหมาะสำหรับรูปทรงตาทุกแบบ ยิ่งขับเน้นให้เบ้าตาชัดขึ้นเท่าไหร่ ก็เหมือนเน้นโครงสร้างใบหน้า ทำให้ดูแก่ลงกว่าเดิมเท่านั้น! เราใช้วิธีไล่สี ซึ่งมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
- เริ่มจากลงอายแชโดว์สีอ่อนให้ทั่วเปลือกตา
- ตามด้วยสีกลาง ไล่จากโคนขนตาขึ้นไป เบลนด์ให้กลืนกับสีแรก
- สีเข้ม ไล่จากโคนขนตา ให้กลืนไปกับสีที่ 2 โดยที่เราสามารถใช้สีเข้มอันนี้มาวิงก์หางออกเสมือนแทนอายไลเนอร์ก็ได้
และเนื่องจากว่าเราเป็นคนไม่ชอบกรีดอายไลเนอร์มากนัก เราจึงใช้แค่ดินสอเขียนขอบตาเน้นตรงที่เป็นวอเตอร์ไลน์เท่านั้น จากนั้นก็ตามสเต็ปที่รู้กันคือดัดขนตา และปัดมาสคาร่า เป็นอันเสร็จ
เสร็จจากการแต่งตาแล้ว เราก็ไปที่การปัดแก้มและทาปากกันเลยค่ะ
CHEEKS & LIPS
- เช่นกันกับที่ทำมาทั้งหมด สำหรับการคอนทัวร์ใบหน้า พยายามปัดแต่พอดี อย่าให้หน้าดูไหม้หรือตอบเกินไป เน้นช่วงกรอบหน้า ตรงขากรรไกร
- ปัดแก้มเบา ๆ โดยอย่าปัดลงจนเลยปลายจมูก เพราะจะทำให้แก้มดูย้อย และยิ่งหากกังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยด้วย ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษเลย
- ไฮไลท์เล็กน้อย ห้ามฟาด เพราะชิมเมอร์จะเป็นตัวเน้นให้ริ้วรอยดูชัดขึ้น!
- ปิดท้ายด้วยการทาลิปสติกสีที่ชอบ จะเป็นสีนู้ด สีชมพู หรือสีพีชก็ได้ เน้นสีหวาน ๆ ดูสดใสเข้าไว้ เพื่อให้เข้าธีมของการแต่งหน้าย้อนวัยค่ะ
และนี่ก็คือ FINISH LOOK ที่ขอนำมาโชว์ให้ดูกัน!
ยังคงย้ำอีกครั้งว่า ของที่เราใช้สำหรับลุคนี้ แต่ละชิ้นราคาไม่ถึง 1,000 บาท บางชิ้นราคาไม่ถึงร้อยด้วย จัดเป็นของ “ถูกและดี” ที่ช่วยสร้างลุคแพง ๆ ดูเลอค่าน่ามองได้จริง ๆ สุดท้ายนี้ลองไปแต่งตามกันได้ เราใส่ทริคที่เราพอจะรู้ไปหมดแล้ว หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับทุกคนที่รักการแต่งหน้าเหมือนกันนะคะ 🙂
Stay connected