ถอยห่างอีกนิด อีกนิดนั่นแหละ!! ช่วงนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนพยายามป้องกันตัวเอง กันสุดฤทธิ์ เลยใช่ไหมล่ะคะ เพราะเจ้าโรค COVID-19 ในไทยตอนนี้ ยอดผู้ติดเชื้อ กำลังอยู่ในอัตราการเร่งตัว ฟังข่าวที ยอดไม่ต่ำกว่าหลักร้อยแล้ว น่ากลัวจริง ๆ >///< ทำให้ตอนนี้คำว่า ‘Social Distancing’ กำลังมาแรงสุด ใคร ๆ ต่างก็พากันพูดถึง เพราะถือเป็นหนึ่งใน วิธีลดความเสี่ยง COVID-19 มาตรการของทาง กระทรวงสาธารณสุข ที่ประกาศออกมา ซึ่งวิธีนี้ จะหนึ่งในวิธี ที่ช่วยลดการแพร่เชื้อ COVID-19 ได้เป็นอย่างดีค่ะ
‘Social Distancing’ภาษาไทยก็คือ ‘การเว้นระยะห่างทางสังคม’ ฟังดูแล้วห่างเหินใช่ไหมล่ะคะ แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ควรทำในช่วงนี้ ไม่ว่าจะกับครอบครัวเราเอง กับเพื่อน แฟน ญาติ หรือคนรู้จัก เราก็ควรจะมีระยะห่างกันอยู่สักหน่อย จะคุยจะอะไร ก็ต้องห่างกันอีกสักนิดค่ะ
ห่างกันสักพัก! 6 วิธีเว้นระยะห่างทางสังคม ลดความเสี่ยง COVID-19
วันนี้เราเอามาฝากเพื่อน ๆ กัน ว่าจริง ๆ แล้ว ‘Social Distancing’ มันมีอะไรบ้าง
ว่าแล้วเรามาดูกันให้ชัด ให้เคลียร์กันไปเลย!
1. ยืน – นั่ง ห่างกัน 5-2 เมตร
อันนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเห็นใน Social เต็มไปด้วย เรื่องการเว้นระยะห่าง ไม่ว่าจะเป็นการยืนคุย นั่งคุย หรือแม้แต่อยู่เฉย ๆ ก็ควรที่จะมีการเว้นระยะห่าง กับบุคคลอื่น อย่างน้อย 1.5 ถึง 2 เมตรค่ะ โดยเฉพาะกับ คนที่มีอาการไอ หรือจาม เพราะว่าไวรัสนั้น สามารถติดต่อได้ผ่าน ละอองขนาดเล็ก ที่มาจากการไอ หรือจามได้ ถ้าเราอยู่ใกล้ชิดเกินไป เราก็อาจจะ สูดเอาไวรัสเข้าร่างกายได้นั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ ทางร้านค้าต่าง ๆ ก็ได้มีการปรับตัว โดยจะมีการจัดโซน ที่นั่งสำหรับพี่ LINEMAN หรือ GRAB เป็นต้น ให้บริเวณจุดที่นั่งรออาหาร มีความห่างกันอยู่ที่ 1 เมตร ให้อารมณ์เหมือนนั่ง ทำข้อสอบไฟนอลกันเลยแหละ หรือ ไม่ก็เวลายืนต่อคิว ก็จะมีเส้นเพื่อให้ยืนเว้นระยะห่างกันเข้าไว้ จะได้ปลอดภัยนั่นเองค่ะ
2. งดการรวมตัวกัน
งดการรวมตัวกันในที่นี้ หมายถึง การรวมตัวกัน ในสถานศึกษา ที่ทำงาน ร้านอาหาร สถานที่ประกอบ พิธีกรรมทางศาสนา หรือสถานบันเทิงต่าง ๆ เพราะการที่เรารวมตัวกัน กับคนหมู่มาก เราไม่มีทางรู้เลยค่ะว่า แต่ละคนสภาพร่างกายเขายังโอเคไหม หรือเขาไปสัมผัสใครมา หรือไปจับอะไรมา
ซึ่งตอนนี้ ในประเทศของเรา ก็ให้ความร่วมมือกันอย่างดี เช่น มาตราการ ‘Work From Home’ (WFH) และให้กักตัวอยู่บ้านนั่นเองค่ะ ช่วงนี้เพื่อน ๆ หลายคน เลยมีเวลาอยู่บ้าน อย่างเต็มที่ นอกจากจะเคลียร์งานตัวเองแล้ว ดู NETFLIXที่ลิสต์เอาไว้แล้ว ก็ยังมีเวลาเล่นกับสัตว์เลี้ยงของเราได้อย่างเต็มที่เลยล่ะค่ะ และอย่าลืมรักษาความสะอาดโดยเฉพาะการล้างมือบ่อย ๆ นั่นเองค่ะ ช่วยได้ดีสุด ๆ
3. รับประทานอาหารที่เป็นชุดสำหรับกินคนเดียว
กลางวันนี้ อยากกินอะไรดี?! เรื่องกินนี่เป็นเรื่องใหญ่เลยนะคะ เข้าใจว่าการกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราจะได้กินไปคุยไปสนุกสุด ๆ แต่ถ้าเป็นช่วงนี้ก็อยากให้เพื่อนๆ พักก่อน…พักการกินร่วมกันไว้ก่อนนั่นเองค่ะ เพราะถึงแม้ว่า เราจะกินร่วมกันแล้วมีช้อนกลางก็จริง แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดีเพราะบางคนอาจจะเผลอใช้ช้อนตัวเองบ้าง หรือเผลอเอาช้อนกลางมาโดนช้อนตัวเองบ้าง หรือเวลาคุยกันน้ำลายกระเด็นใส่จานอาหารบ้าง ซึ่งเจ้าโรคนี้มันสามารถติดต่อกันผ่านสารคัดหลั่งได้ค่ะ ดังนั้นวิธีที่ปลอดภัยสุดตอนนี้คือแยกกินของใครของมัน ภาชนะแยกกันนั่นเองค่ะ ใครอยากกินอะไรก็สั่งเลย แถมตอนนี้ร้านค้าต่าง ๆ ก็มีโปรโมชั่นเพียบ หรือถ้าใครทำอาหารได้ก็สามารถทำกินเองได้เลยค่ะ กักตัวเสร็จน้ำหนักไม่ขึ้นให้มันรู้ไป ><
4. ทำธุรกิจ โดยพึ่งเทคโนโลยี
สำหรับพ่อค้า แม่ขาย เชื่อว่าตอนนี้หน้าร้านเงียบเหงาสุด ๆ เพราะหลาย ๆ คนมีการกักตัวอยู่บ้านไปแล้ว ดังนั้นสำหรับคนที่ทำธุรกิจก็สามารถปรับตัว การทำธุรกิจ จากเดิมที่ขายผ่านหน้าร้าน ก็สามารถเปิดช่องทาง การขายผ่านออนไลน์ เพิ่มได้นะคะ ถือเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และใช้โทรศัพท์มือถือ ไว้สื่อสาร เป็นหลัก ซึ่งการ ขายของออนไลน์ สามารถทำให้เราสามารถขายได้ทุกเวลา เป็นการปรับเวลาการทำงานให้มีความยืดหยุ่นได้มากยิ่งขึ้น ถือเป็นเป็นการเพิ่มขีดความสามารถ ทางด้านเทคโนโลยีของเรา และลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้อีกทางเลยค่ะ
5. หลีกเลี่ยงการจัดประชุมใหญ่
เชื่อว่าเป็นปัญหาหนึ่ง ในองค์กรที่อาจจะ มีแพลนประชุมกันหลายฝ่าย ๆ รวมถึงนิสิต นักศึกษาที่จะมี การทำงานกลุ่มเพื่อปรึกษา รวมถึงถกปัญหาต่าง ๆ แนะนำว่าให้ยกเลิกแพลนเหล่านั้นทิ้ง และลองปรับมาเป็น การใช้งานออนไลน์ดูนะคะ เดี๋ยวนี้มีแอพพลิเคชั่น เพื่อรองรับการประชุม ที่สามารถมองเห็นหน้า และแชร์หน้าจอให้คนอื่นสามารถเห็นได้
ซึ่งตอนนี้ มีหลายแอพพลิเคชั่นมาก ๆ เช่น Skype, ZOOM, LINE, HANGOUT, FACEBOOK และ TEAM เป็นต้น โหลดฟรีไม่ต้องเสียเงิน แถมสามารถประชุม หรือเรียนกันได้ทุกที่ทุกเวลา แต่อาจจะต้อง เปลืองอินเตอร์เน็ตกันสักนิด แต่ก็ยังดีกว่า ที่เราต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงข้างนอกนะคะ ลองหาแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ มาใช้กันดูค่ะ รับรองว่าจะติดใจ
6. ลดความหนาแน่นในลิฟต์
ลิฟต์ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีความเสี่ยงอย่างมากเลยค่ะ ด้วยพื้นที่ที่จำกัด กับความหนาแน่นในช่วง Rush Hours และยังไม่รวมเวลาที่เราต้องใช้นิ้วเราไปสัมผัสกับปุ่มในลิฟต์อีก น่ากลัวสุด! ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมาทำงานได้และยังต้องใช้ลิฟต์ แนะนำว่าให้ลองมาเช้าขึ้นสักนิด จำนวนคนในลิฟต์จะได้ไม่แออัด และถ้าจำเป็นต้องกดลิฟต์เองโดยใช้มือ เมื่อกดแล้วให้รีบไปล้างมือทำความสะอาดให้เรียบร้อย หรือถ้าชั้นที่จะไปไม่สูงมาก ให้ลองเปลี่ยนไปขึ้นบันไดแทนค่ะ ได้ออกกำลังกายด้วย ห่างไกลจากโรค COVID-19 ด้วย เริ่ดสุดค่ะ
จบไปแล้วค่ะกับ ‘ห่างกันสักพัก! 6 เว้นระยะห่างทางสังคม วิธีลดความเสี่ยง COVID-19’ เอาจริงๆ มองว่าไม่ได้ยากมาก ยิ่งถ้าเพื่อน ๆ คนไหนได้กักตัวอยู่บ้านอยู่แล้ว อันนี้ก็ถือว่า ดีมากเลยค่ะ แต่อาจจะต้องปรับพฤติกรรม กันนิดหน่อยเวลาคุย หรือรับประทานอาหาร กับคนในครอบครัว เท่านี้ก็ถือว่าปลอดภัยทั้งกับตัวเรา และคนรอบข้างแล้วค่ะ
ส่วนเพื่อนๆ คนไหน ที่ยังต้องออกไปทำธุระด้านนอก ก็ขอให้ยึดมั่นสิ่งเหล่านี้เอาไว้ และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ แต่ถ้าไม่มีที่ล้างมือ ให้ใช้พวกเจลแอลกอฮอล์ แทนไปก่อนนะคะ พยายามทำตัวเอง ให้แข็งแรงเข้าไว้ค่ะ และเราจะผ่านมันไปด้วยกัน
วันนี้ไปก่อนนะคะ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะเพื่อน ๆ บ๊ายบาย
Stay connected