อร่อยแบบ Low fat! กับ 5 ของกินไม่อ้วนใน Top Supermarket

หลาย ๆ คนคงจะชอบการออกไปซื้อของที่ Super market ใช่มั้ยคะ วันนี้เรามาเลือกดู ของกินไม่อ้วนใน Top Supermarket ว่ามีอะไรที่ เราแนะนำให้ซื้อติดบ้านไว้ ไม่เพิ่มพุง ไม่เพิ่มขาย้วย ๆ เพราะการรักสุขภาพต้องเริ่มที่อาหารก่อน เป็นอย่างแรก ไปอ่านกันเลยค่า

อร่อยแบบ Low fat! ของกินไม่อ้วนใน Top Supermarket

1. Salad bar Top super market

สำหรับคนที่ไปซื้อของที่ Top supermarket บ่อย ๆ นั้น ก็จะรู้ว่าเค้ามี Salad bar ที่เป็นผัก Organic ล้วน ๆ จำหน่ายด้วย เป็นแบบที่เราสามารถตักใส่ ถ้วย หรือ ถุง กลับไปทานต่อที่บ้านได้ และมีผักหลากหลายมากมาย เช่น มะเขือเทศ ข้าวโพดต้ม ผักใบเขียว เยลลี่ ไข่ต้ม แฮม และบางที่อาจจะมีผลไม้รวมอยู่ด้วย เช่น Strawberry Apple และ สัปปะรด ค่ะ

ประโยชน์ของสลัดผัก

• ควบคุมน้ำหนัก
  เมนูยอดฮิตของคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะผักและผลไม้เป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไขมันต่ำ แล้วยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์ทำให้อิ่มท้องได้นาน จึงทำให้ไม่รู้สึกมีอาการหิวโหย ร่างกายไม่อ่อนเพลีย ที่สำคัญมื้อเย็นเราไม่จำเป็นต้องอดอาหารก็สามารถลดน้ำหนักลงได้เห็นผลหากกินสลัดเป็นประจำเพราะแคลอรี่ต่ำมาก เพียงแค่ต้องเลือกน้ำสลัดไขมันต่ำ อย่าง น้ำสลัดงาญี่ปุ่น น้ำสลัดใส น้ำสลัดครีมไขมันต่ำ หรือ น้ำสลัดโยเกิร์ต
• ระบบขับถ่ายดีขึ้น
  สลัดผักมีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่ายให้ทำงานดียิ่งขึ้น ใยอาหารจะเกาะตัวกันเป็นกลุ่มก้อนผ่านไปยังกระเพาะอาหารและลำไส้ เพื่อดักจับไขมัน น้ำตาล สารพิษที่ตกค้างทั้งหลาย เส้นใยจะช่วยกวาดล้างของเสียออกจากร่างกายได้โดยง่าย แล้วจึงช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวได้เป็นอย่างดี  ทั้งยังช่วยป้องกันท้องผูกได้อีกด้วย
• ลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
  ผักผลไม้มีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ Antioxydants จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งหลายชนิด โรคหัวใจ ช่วยชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ทำให้เกิดความเสียหายช้าลง สารต้านอนุมูลอิสระจะมีอยู่ในผักต่างๆ ทั้งวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน ลูทีน สังกะสี นอกจากนี้ใยอาหารในผักยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย ดังนั้นทุกคนควรได้รับสารต้านอนุมูลอิสระให้พอเพียงต่อความต้องการในแต่ละวันเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
• ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
  เพราะผักหลายชนิดต่างอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวพรรณดูสดใสเปล่งปลั่งขึ้น เพราะอนุมูลอิสระเป็นตัวการที่ทำให้ผิวหนังเหี่ยว แก่ก่อนวัย สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ทั้งยังเป็นสารที่สามารถกระตุ้นภูมิต้านทานในร่างกาย
• ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
  ผักผลไม้มีใยอาหารชนิดละลายน้ำที่จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี โดยขับถ่ายออกมาเป็นของเสียทางร่างกายจึงทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง ช่วยป้องกันโรคคอเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และความดันโลหิตสูง และยังดีต่อผู้ที่เป็นโรคเบาหวานอีกด้วย ผักผลไม้ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ อย่างเช่น มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ ถั่วเหลือง แอปเปิ้ล

สำหรับใครที่ไม่ชอบทานสลัดผักลองเลือกผักที่ไม่มีกลิ่นฉุน อย่าง ผักคอสทานคู่กับน้ำสลัดงาญี่ปุ่น รับรองติดใจแน่นอน แถมแคลอรี่ต่ำ แล้วยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วย ที่สำคัญควรล้างผักให้สะอาดด้วยการแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ก็จะช่วยล้างสารพิษได้ หรือใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าแล้วแช่ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าอีกครั้งก็จะช่วยลดสารพิษได้ถึง 80% เลยทีเดียว

Credit : https://health.mthai.com/

 

2. Diamond Grains or granola

ของกินไม่อ้วนใน Top Supermarket อีกตัวที่มีความนิยมอย่างมาก สำหรับคนที่ชอบทานอะไรง่าย ๆ อร่อย และ ไม่อ้วน ทั้งยังมีรสชาติหลากหลายให้เลือกทานอีกด้วยค่ะ 

ซึ่งประโยชน์ของ Granola นั้นก็มีมากมายเช่นกัน

กราโนล่าเป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยธัญพืชและผลไม้อบแห้งที่หลากหลาย ในบางครั้งก็มีส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ ความน่ารับประทาน และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อเพิ่มความสะดวกต่อการรับประทาน

 ดังนั้น คุณสมบัติและคุณประโยชน์ของกราโนล่าจึงขึ้นอยู่กับส่วนผสมและปริมาณของส่วนผสมต่าง ๆ ในกราโนล่าแต่ละชนิดและผลิตภัณฑ์ด้วย

เมื่อไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัดในการกำหนดปริมาณและประสิทธิผลของกราโนล่า ผู้บริโภคจึงควรสังเกตและศึกษาข้อมูลทางโภชนาการด้านสารอาหาร ปริมาณ และส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์นั้นจากฉลากบนบรรจุภัณฑ์ และรับประทานกราโนล่าในปริมาณที่พอดี เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงจากการบริโภคกราโนล่ามากเกินไป โดยไม่ควรบริโภคเกินปริมาณที่แนะนำให้บริโภค/วัน ดังต่อไปนี้

• 220-230 แคลอรี่/หนึ่งหน่วยบริโภค
• ควรมีเส้นใยอาหาร 3-5 กรัม/หนึ่งหน่วยบริโภค
• ควรมีโปรตีน 10-15 กรัม/หนึ่งหน่วยบริโภค
• ควรมีไขมันไม่เกิน 5 กรัม/หนึ่งหน่วยบริโภค
• ควรบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินและเกลือแร่เสริม ในปริมาณ 1 ใน 3 ของอาหารที่บริโภคทั้งหมด/วัน

แม้จะมีส่วนประกอบของธัญพืชและผลไม้ที่อาจมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย แต่ผู้บริโภคควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารประเภทพืชผักผลไม้ในปริมาณที่เพียงพอด้วยเช่นกัน

 เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากสารอาหารต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใย อันจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และเสริมสร้างสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ

Credit : https://www.pobpad.com/

3. Greenday Crispy strawberry

  ในการลดน้ำหนัก ผลไม้สดมีประโยชน์มากกว่าผลไม้อบแห้ง โดยอันที่จริงแล้วทั้งผลไม้สดและผลไม้อบแห้งล้วนมีประโยชน์ แต่แตกต่างกันตรงปริมาณน้ำตาล และแคลอรีที่ได้รับในหนึ่งหน่วยบริโภค และที่ผลไม้สดมีประโยชน์เพราะมีน้ำเป็นส่วนประกอบให้ประโยชน์ต่อร่างกายด้วยวิตามินเอ และซี

          แต่ผลไม้อบแห้ง คือผลไม้สดที่ผ่านกระบวนการรีดน้ำออกด้วยความร้อนสูง จึงทำให้สูญเสียวิตามินซีและเอ มีการแต่งรสชาติด้วยน้ำตาล ทำให้ปริมาณน้ำตาลสูง แคลอรีสูง แต่กลับอุดมด้วย “ใยอาหาร” หรือ ไฟเบอร์ที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี และปราศจากไขมันสะสมในร่างกาย

ประโยชน์ของผลไม้อบแห้ง ได้แก่

• เป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นดี
• มีโพแทสเซียมช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ ป้องกันการชักกระตุกและยังลดความเครียด
• สร้างออกซิเจนให้ร่างกาย ป้องกันภาวะโลหิตจาง
• เป็นแหล่งแคลเซียม แมงกานีส วิตามินเอ วิตามินคอมเพล็กซ์ และวิตามินซี

Credit : https://health.kapook.com/

 

• สูตรลดน้ำหนัก low carb ผอมได้ใน 14 วัน ไม่เชื่อลองดู!
• ออกกําลังกายที่บ้าน กับ 5 วิธี Workout เบิร์นไขมันง่ายๆ ได้เผาผลาญกว่าที่คิด

 

 

4. 0 % Fat Yogurt 

 โยเกิร์ตเป็นอาหารว่างเฮลท์ตี้ที่นิยมกินกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกอย่างยาวนาน มีคุณค่าทางอาหารสูง และการบริโภคทุกวันช่วยทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้น และเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก โดยการเลือกซื้อแบบ 0 % Fat แบบที่ไม่ใส่น้ำตาลและผลไม้หวานค่ะ

5. Fresh fruits 

ผักผลไม้สีเขียว

สีเขียวในผักและผลไม้ให้สารคลอโรฟิลล์ (Cholorophyll) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ทำให้ผิวพรรณสดใส นอกจากนี้ยังมีกากใยสูง มีส่วนช่วยลดอาการท้องผูก และทำให้ขับถ่ายดี  ตัวอย่างเช่น ผักบุ้ง ผักโขม ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม ผักคะน้า แตงกวา รวมถึงผลไม้สีเขียวอย่างแอปเปิ้ลเขียว และฝรั่งด้วย

ผักผลไม้สีเหลืองหรือส้ม

สีเหลืองหรือส้มในผักและผลไม้นั้น ให้สารเบต้าแคโรทีน (Betacarotene) และฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ช่วยรักษาสุขภาพของหัวใจ หลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย บำรุงสายตา เช่น แครอท ฟักทอง มันเทศ มะละกอ เสาวรส และข้าวโพด เป็นต้น

ผักผลไม้สีม่วง

สีม่วงในผักและผลไม้ให้สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมอง ยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหาร ซึ่งทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เช่น กะหล่ำสีม่วง มะเขือม่วง บลูเบอรี่ และดอกอัญชัญ เป็นต้น

ผักผลไม้สีแดง

ในผักผลไม้สีแดงมีสารไลโคปีน (Lycopene)  ซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก มากกว่าวิตามินอี 100 เท่า และมากกว่ากลูตาไธโอนถึง 125 เท่า ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งปอด และยังช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเยื่อบุมดลูก เช่น มะเขือเทศ หอมแดง แตงโม เป็นต้น

ผักผลไม้สีขาวหรือน้ำตาล 

ให้สารอัลไลซิน(Allicin) สร้างเซลล์ให้แข็งแรง ยับยั้งการเกิดเนื้องอกช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก ต้านการอักเสบ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดปริมาณไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน รักษาระบบภูมิคุ้มกัน เช่น กระเทียม หัวไชเท้า ถั่วเหลือง เป็นต้น

Credit : https://festforfood.com/

Comments

comments