Burnout หรืออาการหมดไฟในการทำงานเป็นอาการที่น้องซิสเชื่อเหลือเกินว่าต้องเคยเกิดขึ้นหรืออาจจะกำลังเกิดขึ้นกับใครหลายๆคนในตอนนี้ เบื่อที่ต้องทำงานที่ทำอยู่ เหนื่อยเหลือเกิน ท้อแท้ ไม่รู้ว่าทำไปทำไม เคยไหมคะสาวๆเคยรู้สึกหรือพบเจอกับอาการแบบนี้กันบ้างหรือเปล่า แน่นอนค่ะเมื่อเราเริ่มทำงานไปได้สักระยะนึงเราจะมีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้น อาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่นะคะ แต่เมื่อความรู้สึกนี้เกิดขึ้นแล้วเราจะจัดการกับมันได้อย่างไรล่ะคะ ลองเอา 8 วิธีที่ Clubsister สรรหามาให้ ไปลองปรับใช้ถ้าสาวๆคนไหนเริ่มรู้สึกว่าหมดไฟแล้วจริงๆ วิธีของน้องซิสอาจจะทำให้ใครบางคนกลับมาไฟลุกพรึบพรับได้อีกครั้งก็ได้นะคะ
หยุดพักและทบทวน
เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าเราเริ่มขาดแรงบรรดาลใจในการทำงานหรือหมดไฟ น้องซิสแนะนำว่าให้เราพักและลองหยุดคิดทบทวนว่างานที่เราทำอยู่เหมาะสมกับตัวเราเองหรือไม่ค่ะ เพราะสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราเกิดอาการ Burnout ก็เพราะเราต้องทำงานที่ไม่เหมาะสมกับเรานั่นเอง เมื่อไม่เหมาะสมแน่นอนว่าอาจทำให้เราทำงานนั้นได้ไม่ดีและทำให้เกิดความเครียดได้เมื่อทำนานๆไปทำให้ความเครียดเราสะสมจนเราไม่อยากทำงานนั้นอีกเลยค่ะ หากเราเริ่มรู้สึกตัวให้หยุดและทบทวนนะคะถ้าไม่เหมาะสมก็ลองมองหางานอื่นที่เหมาะสมกับเราและเราสามารถทำได้ดีซึ่งข้อนี้จะทำให้เรารู้สึกเกิดคุณค่าในตัวเองและรักในงานที่ทำค่ะ
ปรึกษาปัญหากับคนรอบตัว
การขาดแรงสนับสนุนในสังคมเป็นอีกสาเหตุของอาการ ทำให้เราหมดไฟ เนื่องจากเราจะรู้สึกโดดเดี่ยวไม่มีคนคอยให้คำปรึกษา ลองเริ่มพูดคุยปัญหาหรือขอคำปรึกษาจากคนรอบตัวเมื่อเกิดปัญหาในการทำงานนะคะ ไม่ว่าจะเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือแม้กระทั่งลูกน้อง นั่นจะทำให้เรารู้สึกว่ามีคนข้างๆเราไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว ความเครียดก็บรรเทาลงแน่นอนว่าช่วยให้เรามีกำลังใจพร้อมที่จะทำงานต่อไปได้มากกว่าคนที่ไม่มีคนคอยสนับสนุนค่ะ
หาเวลาออกกำลัง
กีฬาคือยาวิเศษคงเคยได้ยินกันนะคะ การออกกำลังจะทำให้เราได้ออกแรงร่างกายจะรู้สึกผ่อนคลายปลอดโปร่งและช่วงที่ออกกำลังก็จะทำให้เราไม่ได้สนใจความเครียดที่เรามีอยู่ ถือว่าเป็นอีกวิธีที่ช่วยเราจากอาการ Burnout ค่ะ เชื่อน้องซิสเถอะค่ะการออกกำลังกายเป็นยาที่ดีที่สุดจริงๆค่ะแล้วสาวๆจะหลงรักการออกกำลังและผ่อนคลายจากงานที่เครียดมาตลอดทั้งอาทิตย์แน่นอน
ปฏิเสธให้เป็น
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราหมดไฟคือการที่ต้องทำงานที่มากเกินไปหรือรับผิดชอบงานที่มากกว่าที่เราจะรับได้ การรับงานทุกอย่างมาทำอาจจะเป็นเรื่องที่ดีทำให้หัวหน้ามองเราในมุมบวกนะคะ แต่อาจจะทำให้ตัวเราเองที่เกิดความเครียด การปฏิเสธให้เป็นจึงเป็นอีกวิธีนึงที่สามารถทำให้เราไม่ต้องทำงานมากเกินไป เพราะหัวหน้าบางคนมักเลือกที่จะใช้งานในคนที่ทำได้ดีและเร็วและไม่ปฏิเสธงานแม้คนอื่นๆจะว่างอยู่ก็ตาม การที่เราจะบอกว่าเราติดงานอื่นๆอยู่นั้นไม่ผิดค่ะ เราควรแจ้งว่าเราติดงานอื่นและงานใหม่สามารถทำได้แต่ต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้เราต้องมาเร่งทำงานและสร้างความเครียดให้เรานานๆไปก็เกิดเป็นอาการ Burnout โดยที่เราไม่รู้ตัวแล้วค่ะ
ลำดับความสำคัญของงาน
ในการทำงานที่ถูกต้องเราควรจัดลำดับความสำคัญของงาน งานไหนสำคัญงานไหนกำหนดส่งก่อนหลัง เพราะหากเราไม่ลำดับความสำคัญให้ถูกต้องเราอาจจะไปนั่งเสียเวลากับงานที่ไม่สำคัญอยู่ก็ได้ค่ะ เมื่อเราเสียเวลาอยู่กับส่วนที่ไม่สำคัญงานสำคัญก็เลยทำไม่สำเร็จที่ไม่เสร็จตรงตามเวลาหรือเสร็จอาจจะไม่ถูกต้องเพราะมีเวลาเหลือน้อย แน่นอนว่าอาจทำให้เราเกิดความเครียดกับงานค่ะ น้องซิสก็เคยเจอนะคะคนที่นั่งแช่และเสียเวลากับงานที่ไม่สำคัญอะไรเลยทั้งวัน ก็คือเสียเวลาไปเปล่าๆโดยที่ไม่ได้ทำงานอื่นเลย ลองลำดับงานให้ถูกต้องก็ช่วยลดความเครียดในการทำงานได้ดีทีเดียวค่ะ
สร้างสมดุลให้งานและชีวิตส่วนตัว
หลายๆคนนะคะชอบหอบงานกลับมาทำที่บ้านนั่นทำให้เราเสียสมดุลของชีวิตและคิดแต่เรื่องงานซึ่งจะนำมาซึ่งความเครียดค่ะ เมื่อเลิกงานแล้วน้องซิสแนะนำว่าถ้างานไม่ได้ด่วนมากอะไรไม่ควรนำงานกลับมาทำที่บ้านค่ะ เราควรปรับสมดุลให้เวลาที่ไม่ใช่เวลางานเราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หากเราพักผ่อนไม่เพียงพอเพราะเราเครียดจากงานมากๆร่างกายเราอาจจะรับไม่ได้ ปรับให้ทุกอย่างสมดุลกันค่ะ เราควรมีเวลาที่ผ่อนคลายบ้างนะสาวๆ
หางานอดิเรก
งานอดิเรกคืองานที่เรารักเราชอบทำแล้วเรามีความสุข ไม่ว่าจะปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นดนตรี นั่นเป็นวิธีที่ทำให้เราได้ผ่อนคลายเต็มที่ค่ะ เครียดๆมาจากงานการได้มาทำสิ่งที่รักเราจะมีความสุขทำให้ความเครียดไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา ก็เป็นตัวช่วยได้ดีที่จะทำให้เราห่างไกลอาการนี้ได้นะคะ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากเรามีอาการ Burnout แล้วลองทำทุกวิธีที่น้องซิสแนะนำแล้วไม่ได้ผล เราอาจจะต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ในยุคปัจจุบันนะคะเราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปที่โรงพยาบาลหรือหาหมอโดยตรงก็ได้ ลองเริ่มโทรไปสายด่วนสุขภาพ 1323 ดูก่อนปรึกษาฟรีโดยนักจิตวิทยาที่จะคอยรับฟังและแนะนำเรา น้องซิสเชื่อว่าการได้พูดหรือระบายออกมาและได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องกลับไปจะช่วยให้ความรู้สึกเราดีขึ้นแน่นอนค่ะ
เราควรมีเวลาและต้องคอยสังเกตตัวเองอยู่เป็นประจำนะคะสาวๆ ลองหาเวลาและคิดทบทวนว่าตอนนี้เรารู้สึกหรือเรามีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่าเพื่อจะได้หาทางแก้ไขได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาค่ะ เราต้องรู้เท่าทันตัวเองน้องซิสเชื่อค่ะว่าทุกปัญหามีทางออกเมื่อถึงเวลามันจะมีทางไปของมันเองไม่ว่าปัญหาจากเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ขอให้เราคิดนะคะว่าทุกคนเจอปัญหาเหมือนกันหมดและปัญหาไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา อย่ามัวแต่เสียใจหรือเครียดเอาเวลาเหล่านั้นไปหาทางแก้ เราก็จัดการทุกอย่างได้เร็วขึ้นแล้วเราก็จะไม่ต้องจมอยู่กับปัญหาต่อไปค่ะ สู้ๆนะคะสาวน้องซิสก็สู้เหมือนกันค่ะ
Credit Photo : https://www.pinterest.com
Stay connected