การฝึกสติช่วยเราได้หลายอย่าง ทั้งช่วยลดความวิตกกังวล ช่วยทำให้เราเครียดน้อยลง ลดความดันเลือด ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ และทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วย ที่สำคัญการฝึกสติยังช่วยเรา ในเรื่องของการดำเนินชีวิตและการทำงานด้วย ในบรรดาประโยชน์มากมายนี้ การฝึกสติทุกวันสามารถดึงคุณ ออกจากก้นบึ้งของความรู้สึกด้านลบ ที่อาจเกิดจากความเครียดในแต่ละวัน ที่มันมีมากเกินไป อารมณ์ไม่ดีมากเกินไป หรือนิสัยของการคิดใคร่ครวญมากเกินไป วิธีมีสติมากขึ้น ในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้คุณสร้างข้อผิดพลาดน้อยลง และช่วยให้คุณนำเหตุการณ์ที่ตึงเครียดนั้น มาสู่มุมมองที่สร้างความยืดหยุ่นได้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเจอกับ เหตุการณ์เหล่านี้อีกในอนาคต

 

วิธีมีสติมากขึ้น ในชีวิตประจำวัน เพื่อผลดีในชีวิตคุณ!

“การฝึกสติ คือ การนำความสนใจและความตระหนัก ทั้งหมดของคุณมาสู่ปัจจุบัน สติสามารถก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ต่อสุขภาพทางอารมณ์ ต่อร่างกาย และแม้แต่ความสัมพันธ์ในชีวิตคุณ” มีแบบฝึกหัดการเจริญสติมากมาย ที่คุณสามารถฝึกได้เป็นประจำ การเรียนรู้วิธีการอยู่กับปัจจุบัน ก็เป็นวิถีของการฝึกสติเช่นกัน ด้วยการฝึกฝน คุณสามารถเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณมีสติสัมปชัญญะ กับทุกสิ่งที่คุณทำมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ในโลกที่เร่งรีบในปัจจุบัน อาจเป็นเรื่องยากที่จะหยุดและอยู่กับปัจจุบัน มีสิ่งเร้าหลายอย่างที่แข่งขันกัน เพื่อดึงความสนใจของคุณ และมีความกดดันมากมายเกิดขึ้นได้หลายอย่างพร้อมกัน แต่ถ้าคุณตั้งใจที่จะมีสติมากขึ้น ในชีวิตประจำวันของคุณ คุณก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย และมีความสุขมากขึ้นได้

 

ฝึกกินอย่างมีสติ

คุณกินในขณะที่คุณเลื่อนดูโทรศัพท์ คุณเอื้อมมือไปหาอาหาร โดยที่ไม่ใส่ใจมองอย่างสบายใจ จนการกินแบบไม่มีสติกลายเป็นนิสัย แต่นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของปัญหามากมาย เช่น การกินมากเกินไป การเคี้ยวไม่ละเอียด การตักอาหารเลอะเทอะ หรือแม้แต่การกินเสร็จช้ากว่าที่ควรจะเป็น ทั้ง ๆ ที่การกินนั้นสำคัญ เพราะมันคือการเติมเชื้อเพลิงให้กับร่างกาย

ฝึกฝนการมีสติในขณะที่คุณกิน เมื่อคุณกินจงอยู่กับอาหารของคุณ! ให้ความสนใจกับแต่ละคำที่คุณกิน เคี้ยวอาหารของคุณช้า ๆ และลิ้มรสชาติของมัน สังเกตสัญญาณของร่างกายว่าคุณอิ่มเมื่อไหร่ และให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ในจานคุณมากขึ้น เมื่อคุณตั้งใจมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกิน คุณจะพร้อมที่จะให้ความสำคัญ กับการเติมพลังงานให้ร่างกาย ด้วยสารอาหารที่จำเป็น

 

มีสติในการโต้ตอบของคุณ

ไม่ว่าฝั่งตรงข้ามที่คุณโต้ตอบจะเป็นใคร จะเป็นคนรัก จะเป็นคนในครอบครัว หรือจะเป็นเพื่อนร่วมงาน “การมีปฏิสัมพันธ์อย่างมีสติเป็นสิ่งสำคัญ!” การมีสติสัมปชัญญะในความสัมพันธ์ คือการสังเกตสิ่งที่อีกฝ่ายทำ โดยใช้วิจารณญาณ นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับการ อยู่กับปัจจุบันในระหว่างการสนทนาของคุณด้วย 

ดังนั้น แทนที่จะเลื่อนดูโทรศัพท์ ในขณะที่คุณอยู่กับใครซักคน ให้ให้ความสนใจกับพวกเขา โดยไม่แบ่งแยก และแทนที่จะสร้างข้อโต้แย้งของคุณ ในขณะที่พวกเขากำลังแบ่งปันความคิดเห็น ให้พยายามรับฟังข้อความของพวกเขาจริง ๆ คุณสามารถมีสติมากขึ้น โดยให้ความสนใจกับความรู้สึก ฟังอย่างระมัดระวัง และเรียนรู้ที่จะตอบสนอง ต่อผู้อื่นอย่างมีสติมากขึ้น แทนที่จะแสดงปฏิกิริยาด้วยความโกรธ หรือความหุนหันพลันแล่น

 

ทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างมีสติ

คุณเคยมีปัญหา ในการจำว่าทำอะไรไปแล้วไหม? จำไม่ได้ว่างมือถือไว้ที่ไหน จำไม่ได้ว่าคุณสระผมไปเมื่อไหร่ เมื่ออยู่ในห้องอาบน้ำจะทำอะไรบ้าง? หรือบางครั้งคุณลืมว่า ทำไมคุณถึงเดินมาตรงนี้ คุณเข้าไปในห้องใดห้องหนึ่ง แล้วคุณจะทำอะไรนะ? นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในใจ และคุณไม่ได้มีสติเสียเลย โชคดีที่คุณสามารถปรับปรุงสิ่งนี้ได้ และมีโอกาสมากมายให้ฝึกฝนตลอดทั้งวัน

การเดิน การทำสวน การทำกับข้าว และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายสามารถเป็นโอกาสในการฝึกสติได้ คุณเพียงแค่ต้องรับรู้สิ่งนั้นให้มากขึ้น ซึ่งมันหมายถึง “การจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน” การปรับความรู้สึกทางกาย ตระหนักถึงทุกสิ่งที่คุณทำอย่างเต็มที่ และปล่อยความคิดเกี่ยวกับอนาคต หรือความวิตกกังวลในอดีต

ในขณะทำความสะอาดบ้าน: เริ่มต้นด้วยการมองในแง่บวก ว่างานบ้านเป็นกิจกรรมที่น่าสนุก ฝึกให้ตัวเองบรรเทาความเครียด แทนที่จะมองว่าเป็นแค่งานบ้าน จากนั้น ในขณะที่คุณทำความสะอาด ให้จดจ่อกับสิ่งที่คุณทำในขณะที่ทำ สัมผัสน้ำอุ่นสบู่ในมือขณะล้างจาน สัมผัสกับแรงสั่นสะเทือนของเครื่องดูดฝุ่น เมื่อคุณดันเครื่องดูดฝุ่นลงบนพื้น เพลิดเพลินไปกับความหอม ของเสื้อผ้าที่สดใหม่จากการซักผ้า ในขณะที่กำลังพับ สัมผัสอิสระในการปล่อยของที่ไม่จำเป็น เมื่อคุณใส่ลงในกล่องบริจาค

อีกโอกาสในการฝึกสติ ในชีวิตประจำวันของคุณ คือเมื่อคุณกำลังฟังเพลง เน้นที่เสียงและการสื่อสารของโน้ตแต่ละตัว โฟกัสความรู้สึกที่เสียงเพลงปลุกเร้าตัวคุณ และความรู้สึกอื่น ๆ ในขณะนั้น ตลอดทั้งวัน ให้มองหาโอกาสที่จะมีสติมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะนั่งรถไฟใต้ดินหรืออาบน้ำอุ่น พยายามตระหนักให้เต็มที่ว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่และเกิดอะไรขึ้นรอบตัวคุณ หากใจของคุณล่องลอย ให้สังเกตเห็นตัวเองและค่อย ๆ ดึงความสนใจของคุณ กลับมายังช่วงเวลาปัจจุบัน

 

หยุดนิ่งสักนิด

ในขณะที่คุณย้ายจากกิจกรรมหนึ่ง ไปอีกกิจกรรมหนึ่งตลอดทั้งวัน การมีสติสัมปชัญญะมักจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่คุณสามารถกลับสู่เส้นทางเดิมได้โดยการ “หยุดนิ่ง” เพื่อการฝึกสติขั้นพื้นฐาน คุณอาจสร้างนิสัยหยุดนิ่งเพื่อฝึกสมาธิ ที่เพียงใช้เวลาแค่ 2-3 นาที ในการมีสติในระหว่างวัน เช่น ระหว่างมื้ออาหาร ระหว่างรอรับรถ หรือสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่มีสิ่งรบกวน โดยคุณอาจกำหนดเวลาฝึกสมาธิ หรือเล่นโยคะก็ได้นะ 

คุณยังสามารถทำให้เป็นนิสัย ในการฝึกให้มีสติมากขึ้น โดยจดจ่อกับการหายใจของคุณ ในเวลาที่คุณอารมณ์เสียหรือวิตกกังวล เทคนิคการหายใจ เข้า-ออก สามารถให้ผลลัพธ์ที่สงบได้ และช่วยให้คุณอยู่กับปัจจุบันขณะมากขึ้น การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เป็นการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คุณอาจฝึกได้ตลอดทั้งวัน อย่างง่าย ๆ ให้ฝึกเกร็งและผ่อนคลายกล้ามเนื้อของคุณ คุณจะเรียนรู้ที่จะรับรู้ เมื่อคุณเกร็งส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเรียกสติกลับมา

 

วิธีมีสติมากขึ้น ในชีวิตประจำวัน จะมีประโยชน์ต่อคุณ!

เพราะสติต้องใช้การฝึกฝนและความพยายาม ไม่มีใครเก่งเมื่อเริ่มต้น จิตใจของคุณมักจะเดินเตร่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ด้วยการฝึกฝนและความอดทน คุณจะดีขึ้น! และในที่สุดคุณจะรับรู้ว่า คุณกำลังใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น และคุณจะได้รับอิสระที่มีประโยชน์ เช่น ความเครียดที่ลดลง สุขภาพจิตที่ดีขึ้น ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น และมีความสุขโดยรวมที่มากขึ้น

 

 

Source: verywellmind

Comments

comments