ผู้หญิงหลายคนมักมีอาการก่อนเป็นประจำเดือน อย่าง อาการปวดท้องน้อย หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน ซึ่งอาการเหล่านี้เรียกว่า PMS หรือ Premenstrual Syndrome อาการที่สร้างกวนใจแก่สาว ๆ หลายคน วันนี้เราจึงรวบรวม วิธีรับมือ PMS อาการก่อนเป็นประจำเดือน มาฝากสาว ๆ ทุกคนกันค่ะ
ประจำเดือน หมายถึง การที่มีเลือดออกมาทางช่องคลอดเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งเกิดกับคนที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ ประจำเดือนเกิดจากการที่สมองหลั่งฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองมากระตุ้นรังไข่ให้สร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น เพื่อเตรียมรอรับการฝังตัวของตัวอ่อน ในแต่ละเดือนจะมีไข่ตกเดือนละ 1 ฟอง หากไม่มีการปฎิสนธิหรือไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น เยื่อบุโพรงมดลูกที่เตรียมไว้รอรับตัวอ่อนก็จะหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน
โมโหร้ายทุกที! มาบอก วิธีรับมือ PMS อาการก่อนเป็นประจำเดือน
PMS คืออะไร ?
PMS (Premenstrual Syndrome) คือ อาการผิดปกติที่จะเกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือน 5-11 วัน (เฉลี่ย 6 วัน) หายเมื่อประจำเดือนหมด (วันที่ 4-7 ของประจำเดือน) โดยสาเหตุของอาการนั้นมีปัจจัยสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิงในช่วงก่อนมีประจำเดือน ซึ่งอาการ PMS จะส่งผลทั้งด้านสุขภาพกาย และสุขภาพจิตใจ ของสาว ๆ ส่วนสาเหตุของ PMS นั้น ยังไม่มีสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่งานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า PMS เกี่ยวข้องกับปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- พันธุกรรม คนที่เป็น PMS รุนแรงหรือ PMDD พบยีน ESR1 (Estrogen Receptor Alpha) ที่ถ่ายทอดจากพันธุกรรม
- ความแปรปรวนของฮอร์โมนเพศหญิง พบว่าในคนที่เป็น PMS และไม่เป็น PMS มีค่าของฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ไม่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างคือคนที่มีความแปรปรวนของฮอร์โมน อย่างเช่น การตัดรังไข่
- อุปนิสัย และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้คนที่รายได้น้อย มีความเครียดที่มากกว่า จึงทำให้มีโอกาสเป็น PMS มากกว่า เพราะ PMS ส่วนนึงมาจากความเครียด และการกินของที่มีประโยชน์
- สารสื่อประสาท (Neurotransmitters) การแปรปรวนของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนลดสารสื่อประสาท Opioid, GABA, เบต้าเอ็นโดรฟิน (Beta endorphin) และเซโรโทนิน (Serotonin) จะทำให้เกิดความวิตกกังวล เครียด ซึมเศร้า คนที่มีความแปรปรวนของสารสื่อประสาท จะทำให้เกิดอาการ PMS และการใช้ยาที่ทำให้ลดระดับของสารสื่อประสาท จะช่วยลดอาการ PMS
- วิตามินบี 1 บี 2 มีส่วนช่วยในการลด PMS ส่วนการรักษาโรคนี้ด้วยวิตามินบี 6, อี, ซี, แคลเซียม, แมกนีเซียม หรือเชสต์เบอร์รี ใช้ได้ผลกับแค่บางคน
อาการ PMS มีอาการมากมายถึง 150 อาการเลยค่ะ ซึ่งจะแสดงอาการก่อนมีประจำเดือน โดยสามารถแบ่งได้เป็นอาการทางด้านอารมณ์ และพฤติกรร และอาการทางด้านร่างกาย คร่าว ๆ ได้ ดังนี้
อาการทางด้านอารมณ์และพฤติกรรม ได้แก่
- มีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดหรือโกรธง่าย
- มีความตึงเครียด และไม่มีสมาธิ
- มีอารมณ์เศร้า ร้องไห้กับเรื่องเล็ก ๆ วิตกกังวล
- มีความต้องการหรืออยากอาหารมากกว่าปกติ
- มีพฤติกรรมแยกตัวออกจากสังคม (Social Withdrawal)
- มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ (Insomnia)
อาการทางด้านร่างกาย ได้แก่
- เจ็บเต้านม
- ปวดกล้ามเนื้อ และข้อต่อ
- ปวดศีรษะ
- ปวดท้อง ท้องอืด
- ท้องผูกหรือท้องเสีย
- น้ำหนักตัวเพิ่ม
- เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
- มีสิวขึ้น
วิธีรับมืออาการ PMS
ในช่วงก่อนมีประจำเดือนเราสามารถรับมือ PMS ได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งยาเลยค่ะ เราสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการกินอาหารเค็มจัดหรือหวานจัด พยายามไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ และผ่อนคลายด้วยการอาบน้ำอุ่น ๆ
อีกหนึ่งคำแนะนำสำหรับสาว ๆ แนะนำให้จดบันทึกการมีประจำเดือนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจสภาพร่างกาย และอารมณ์ของตัวเอง แล้วพยายามเข้าใจตัวเองว่าการหงุดหงิด และรู้สึกซึมเศร้า เกิดจากระดับฮอร์โมนของเพศหญิง ไม่ใช่โรคแต่อย่างใด อย่าคิดมาก
รับมือ ปวดท้องประจำเดือน
- ประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน ความอุ่นจากกระเป๋าน้ำร้อนมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และลดอาการปวดได้
- ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ ควรเป็นน้ำอุ่นนะ ห้ามรับประทานน้ำเย็น เพราะอาจจะทำให้มีอาการปวดมากกว่าเดิม
- นอนขดตัว ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณท้องคลายตัว เป็นวิธีช่วยลดอาการปวดท้องได้แบบง่าย ๆ
- รับประทานอาหารไขมันต่ำ (Low Fat) เช่น บลูเบอรี่ มะเขือเทศ พริกหยวก เป็นต้น อาหารเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้
- ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดตัว เพราะจะยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว
- รับประทานยาแก้ปวดประจำเดือน แต่อาจจะรับประทาน ตอนที่มีอาการปวดมาก เพราะการรับประทานยาบ่อย ๆ อาจทำให้ติดได้
อาการแบบไหนควรไปพบแพทย์ อาการต่อไปนี้ที่บ่งบอกถึงโรคภัยที่ร้ายแรงกว่าอาการปวดประจำเดือนปกติ
- รับประทานยาแล้วแต่ยังไม่หายปวด
- อาการปวดประจำเดือนเป็นมากขึ้น และมีผลต่อการทำกิจวัตรประจำวัน
- มีไข้พร้อมปวดประจำเดือน
- เลือดประจำเดือนไหลออกมามากว่าปกติ โดยต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย เกือบทุก 1-2 ชั่วโมง หรือมากกว่า 80 ml. ต่อรอบเดือน
- รู้สึกปวดท้องน้อยถึงแม้ไม่มีประจำเดือนก็ตาม
- มีบุตรยาก
PMS อาการที่กวนใจสาว ๆ แล้วยังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง อย่าปล่อยให้อาการ PMS เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเราเกินไป ถ้าปล่อยไว้ จนไม่สามารถควบคุมอาการได้ จะทำให้เราเกิดความผิดปกติทางสุขภาพ และอารมณ์อย่างรุนแรง ใครที่รู้ว่าตัวเองมีอาการที่ส่งผลกับชีวิตประจำวัน แนะนำให้พบแพทย์ค่ะ
Photo Credit:
Source Credit:
Stay connected