สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน ตั้งแต่พอมี Disney+ Hotstar มาก็บอกเลยว่าสาวก Disney Princess แบบเรานี่อิ่มเอมไปตามๆ กันเลย แต่ทว่าจะให้มานั่งดูเรื่องเดิมซ้ำวนไปวนมาก็อาจจะเบื่อได้ วันนี้ Clubsister เลยขอพาสาวๆ สาวกเจ้าหญิงทุกคนไป ตามเก็บให้ครบ “5 การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ ภาค 2” ที่สนุกและแฝงข้อคิดดีๆ ไม่แพ้ภาคแรก บอกเลยว่าภาค 2 ของแต่ละเรื่องนั้น มีเนื้อหาและข้อคิดดีๆ แถมเพิ่มเติมด้วยความน่ารักของตัวละครใหม่ๆ เข้ามาด้วย อย่ารอช้าไปเริ่มที่เรื่องแรกกันเลย
” 5 การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ ภาค 2 ” ที่สนุกและแฝงข้อคิดดีๆ ไม่แพ้ภาคแรก
เรื่องที่ 1: Mulan II (คลิกเพื่อรับชม)
สามารถดูได้จาก: Disney+ Hotstar
การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ ภาค 2 ในเรื่องแรกที่อยากจะชวนสาวๆ มาดูกันนั้น คงหนีไม่พ้นเจ้าหญิงดิสนีย์ที่เราชอบมากที่สุดในบรรดาเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้งหมด นั่นก็คือ มู่หลาน การกลับมาในภาค 2 นี้ อาจจะเกี่ยวเนื่องกับภาค แรกเพียงเล็กน้อย หลังจากที่มู่หลาน และ ท่านแม่ทัพชาง ตกลงปลงใจคบหากันดูนั้น ทั้งคู่ก็ได้พูดถึงเรื่องงานหมั้นและงานวิวาห์กันเป็นที่เรียบร้อย
แต่ทว่าดันมีหมายสารจากราชโองการ ให้เข้าเฝ้า โดยภารกิจของมู่หลานและแม่ทัพ ในครั้งนี้คือการ เฝ้าระวังและเดินทางพาพระธิดา หรือ องค์หญิงทั้ง 3 พระองค์ไปงานวิวาห์กับแคว้นใหญ่ใกล้เคียง เพื่อประสาน 2 แคว้นเป็นพื้นแผ่นเดียว แต่ทว่าสีหน้าขององค์หญิงทั้ง 3 ไม่ได้มีความสุขแต่อย่างใด ทำให้มู่หลานเข้าไปพูดคุยและพบว่าพระธิดาทั้ง 3 พระองค์นั้น ถูกจับคลุมถุงชน เนื่องจากหน้าที่ของตนคือการรับใช้ประเทศ
ด้วยเหตุนี้ทำให้มู่หลานทิ้งข้อคิดให้กับองค์หญิงทั้ง 3 ว่า “หน้าที่ที่ดี คือการให้ความสำคัญกับหัวใจ” และนี่คือเรื่องราวการผจญภัย พร้อมค้นหาความจริงของหน้าที่ของมู่หลาน และพ้องเพื่อนในครั้งนี้
ส่วนตัวเราชอบภาคนี้เช่นกัน (แต่ชอบภาค 1 มากกว่าหน่อย) สิ่งที่เราได้เห็นในเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงข้อคิดดีๆ ที่ให้เราให้ความสำคัญกับความรู้สึกตนเองแล้ว สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้คือ ประวัติและประเพณีของจีนแต่โบราณ การเกิดเป็นพระธิดาสูงศักดิ์ในแผ่นดินจีนนั้น ไม่ใช่คือการออกรบหรือการบริหารงานประเทศ
แต่คือการเป็นเหมือนตัวแทนเชื่อมสัมพันธไมตรีกับแคว้นอื่น อย่างการแต่งงานกับองค์ชายแผ่นดินอื่น เพื่อเชื่อมความสงบของทั้งสองแคว้น นอกจากนั้นประเทศจีนยังเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เชื่อเรื่องเล้นลับอย่างการบูชาสัตว์ในตำนานอย่างมังกร หรือ เชื่อเรื่องดินฟ้าอากาศ ในการจะทำงานหรือพิธีมงคลใดๆ เสมอ
เรื่องที่ 2: Pocahontas II: Journey to A New World (คลิกเพื่อรับชม)
สามารถดูได้จาก: Disney+ Hotstar
เรื่องถัดมาของ การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ ภาค 2 เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของการเดินทางสำรวจประเทศอเมริกาครั้งแรกกันเลยทีเดียว อย่างเรื่อง “โพคาฮอนทัส” ซึ่งในภาคนี้ เธอจะต้องจากบ้านเมืองของเธอไปไกลแสนไกล เดินไปอยู่ในเมืองลอนดอน เรื่องราวพูดถึงคณะเรือราชฑูตแห่งอังกฤษต้องการพูดคุยผูกสัมพันธไมตรีกับหัวหน้าเผ่าอินเดียแดง โดยส่ง จอห์น ลอฟ เอกฆราชฑูต ไปคุ้มครองและพาหัวหน้าเผ่ามา
แต่ทว่าในทางกลับกัน ตัวร้ายอย่างแรตคริฟ เป่าหูพระราชาคิง เจมส์ว่า ชาวอินเดียแดงนั้นถือครองครองทองคำ (ตั้งแต่ภาค 1 ) อยู่เลยต้องการทรยศ โดยให้กัวหน้าเผ่ามา เพื่อเป็นเหมือนตัวประกัน และตนจะได้ออกเรือราชนาวีไปบุกดินแดนอินเดียแดง
แต่คนที่มาเยือนลอนดอนนั้นไม่ใช่หัวหน้าเผ่า แต่เป็นโพคาฮออนทัส ด้วยเหตุนี้ทำให้โพคาฮออนทัส ต้องรับบทเป็นตัวแทนฑูตเพื่อเจรจากับคิง เจมส์ ให้ถอยกรีฑาทัพราชนาวีกลับ ไม่โจมตีเผ่าของตน
สำหรับเราแล้วภาคนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรักในแบบผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว หากเป็นเด็กๆ ดูก็คงรับรู้ถึงความดี ความชั่วของตัวละคร ธรรมะย่อมชนะอธรรม และความรักของตัวละครต่างๆ แต่หากเป็นแง่มุมผู้ใหญ่แล้ว มันสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของคนตลอดเวลา ฟ้าฝน ลมยังเปลี่ยนทิศ นับประสาอะไรกับใจคน
เมื่อทัศนคติเปลี่ยนไป ความรักและจิตใจย่อมเปลี่ยนเป็นเรื่องปกติ นอกจากเรื่องนี้ในแง่ของประวัติศาสตร์ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว โดยเรื่องโพาฮอนทัสนั้น พูดถึงสมัยอิตาลีและแถบยุโรป เข้าสำรวจพื้นที่อินเดียตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ อย่างอเมริกา
เรื่องที่ 3: Cinderella II: Dreams Come True (คลิกเพื่อรับชม)
สามารถดูได้จาก: Disney+ Hotstar
ในเรื่องถัดมาเรามั่นใจว่าจะต้องเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ คนโปรดของใครหลายๆ คนแน่นอน กับ การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ ภาค 2 กับ “ซินเดอร์เรลา” สำหรับเรื่องนี้เรารู้สึกว่าค่อนข้างแตกต่างจากเรื่องก่อนๆ เพราะการมาของซินเดอร์เรลาภาค 2 นี้ เป็นการรวมเรื่องราว 3 เรื่องราวในตอนเดียว โดยใช้ชื่อว่า “Dreams Come True”
เรื่องราวทั้ง 3 เรื่องราวในเรื่องจะพูดเกี่ยวกับ ชีวิตของซินเดอร์เรลา หลังจากวิวาห์กับเจ้าชายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากสามัญชนคนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าหญิงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอ เธอต้องผ่านการปรับตัวมากมาย อีกทั้ง “ขัดต่อใจและการเป็นตัวตนของเธอ”
เรื่องราวที่ 2 แจ็คแจ็ค เจ้าหนูหนุ่มตัวจิ๋วเพื่อนรักของซินเดอร์เรลา เขามักคิดน้อยใจตนเองอยู่เสมอว่า เขาตัวเล็กเป็นหนูช่วยเธอไม่ได้ ต้องคอยกลัวแมว และ ไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาไปขอร้องนางฟ้าว่า เขาอยากขอลองเป็นมนุษย์ดูเสียสักครั้งหนึ่ง
และเรื่องราวสุดท้าย เป็นเรื่องที่เราชอบมากที่สุด เมื่ออนาสตาเซีย น้องสาวต่างพ่อและแม่ของเธอกำลังมีความรัก ทำให้ซินเดอเรลาต้องอองโรงมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงหัวใจให้กับเธอ
สิ่งที่ทำให้เราชอบภาค 2 ของเรื่องนี้คือ “การยืนหยัดเพื่อเป็นตัวของตนเอง” ในแต่ละเรื่องทุกตัวละครพยายามบอกกับคนรอบข้างและบอกกับตนเองว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่การเป็นใครที่ดีที่สุด แต่คือการเป็นตนเองในแบบที่ตนเองพอใจ” ถึงแม้บริบทรอบข้างจะเปลี่ยนไปอย่างไร สุดท้ายเราก็ยังเป็นเราอยู่ดี
เรื่องที่ 4: The Little Mermaid II: Return to The Sea (คลิกเพื่อรับชม)
สามารถดูได้จาก: Disney+ Hotstar
ต่อมาเป็นอีกหนึ่งเจ้าหญิงดิสนีย์ที่เรียกได้ว่า ติดอันดับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียวกับ The Little Mermaid ในครั้งนี้เธอกลับมาพร้อมตัวละครใหม่อย่างลูกสาวสุดน่ารักของเธอกับ “เมโลดี้”
ซึ่งในภาคนี้จะพูดถึงการถือกำเนิดของเจ้าหญิงน้องเมโลดี้ ลูกสาวของเจ้าชายและแอเรียล ในขณะที่กำลังมีงานเลี้ยงฉลอง โดยแอเรียลเชิญเหล่าเงือกและคุณพ่อของเธออย่าง “ไททัน” มานั้น มีแขกไม่ได้รับเชิญอย่าง มอร์กานา น้องสาวของ เออร์ซูล่า เจ้ามาหวังจะทำร้ายเมโลดี้ เพื่อแก้แค้นให้กับพี่สาวของเธอ แต่ทว่าไททันและแอเรียลช่วยกำราบเธอได้
ด้วยเหตุนี้ทำให้แอเรียลตัดสินใจ ปิดกั้นตัวตนที่แท้จริงของเธอที่เป็นหลานสาวของเจ้าสมุทร
และสร้างกำแพงขนาดใหญ่เพื่อป้องกันเมโลดี้ ของศัตรูทางทะเล แต่ทว่าเมื่อเธอเติบโตขึ้น เมโลดี้กลับหลงใหลความสวยงามและการเป็นอิสระเมื่อเธออยู่ในน้ำ และนี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กดื้ออย่างเมโลดี้
ใน The Little Mermaid II: Return to The Sea เหมือนสลับบทบาทกันระหว่างแอเรียลและเมโลดี้ ในภาคแรกแม่ของเธอเป็นเงือกแต่กลับอยากเป็นมนุษย์ แต่พอในภาคนี้ลูกสาวเธอที่เป็นมนุษย์กลับอยากเป็นเงือก และนี่แหละคือการสะท้อนให้เห็นอิสระในการเลือกเป็นตัวเรา
เรื่องที่ 5: Frozen ll (คลิกเพื่อรับชม)
สามารถดูได้จาก: Disney+ Hotstar
เรื่องสุดท้ายที่อยากแนะนำให้ดู และต้องดูเป็นที่สุดคงหนีไม่พ้น การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ ภาค 2 เรื่องนี้ “Frozen ll” เรียกได้ว่าเป็นภาคต่อที่ตอนแรกเริ่มสร้างเสียงฮือฮาไม่ต่างกันเลยทีเดียว แถมยังได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เรื่องราวพูดถึงช่วงเวลาที่หลังจากเอลซ่าขึ้นครองราชย์เป็น ราชินีแห่งอาเรนเดียล เธอก็ปกครองและใช้ชีวิตกับราษฎรของเธอ รวมถึงอันนา คริสตอฟ สเฟน และโอลาฟ อย่างมีความสุข แต่ทว่าในคืนวันหนึ่ง เอลซ่ากับได้ยินเสียงร้องที่ดังกึกก้องในหัวของเธอ เป็นระยะๆ ตลอดเวลา
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับการเกิดภัยพิบัติเกิดขึ้นกับอาเรนเดียล ทำให้เอลซ่า อันนา คริสตอฟ สเฟน และโอลาฟ ออกเดินทางไปยังป่าแห่งความลับเพื่อตามหาเสียงร้องที่เธอได้ยิน พร้อมกับค้นหาคำตอบเกี่ยวกับมหันตภัยที่เกิดขึ้น
ส่วนตัวเราได้มีโอกาสไปดูเรื่องนี้ที่โรงภาพยนตร์ ซึ่งบอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ กับการรับชม (แต่ภาค 1 ก็ยังดีกว่าอยู่ ในความคิดเห็นเรา) สิ่งที่เรื่องนี้ต้องการสะท้อนเลยคือ การเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง การทำสิ่งที่ถูกต้อง โดยใช้หลักความกลัวเข้ามาช่วยขยายความในส่วนนี้ บ่อยครั้งที่คนเรามักทำเรื่องไม่ดี ไม่ใช้แค่หลงผิดในอำนาจ หรือความโกรธแค้น ริษยาเพียงอย่างเดียว
แต่ความกลัวก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจอะไรผิดพลาดด้วยเช่นกัน ในเรื่องนี้กำลังจะสอนให้เรารู้จักและโอบกอดความกลัวว่าเป็นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำร้ายทั้งเราและคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน ดังนั้นแค่ยอมรับความกลัว และเผชิญหน้ากับมันก็เพียงพอแล้ว
Photo Credits:
Stay connected