ใครที่ชอบ ซีรีส์ หรือหนังที่เกี่ยวกับ ความไม่เท่าเทียมกัน ความเหลื่อมล้ำ ทางสังคม หรือชนชั้นต่างกัน การตกอยู่ใต้คำสั่ง ของผู้ปกครองโดยการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปในทิศทางที่เขาต้องการ การไม่เม่าเทียมเหล่านี้ จึงนำมาสู่การปลดแอก และการปฏิวัติ เพื่อเสรีภาพ เพื่ออิสรภาพ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้จริง ๆ แล้วเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา มาโดยตลอด! จึงไม่แปลก ที่มักจะมีคนหยิบยก เรื่องราวทางประว้ติศาสตร์ หรือนิยายโลกอนาคต ที่มีเรื่องราวเหล่านี้มาทำเป็น ซีรีส์ และ หนังแนวปฏิวัติ กันมากมาย
วันนี้เรามี ซีรีส์ หนังแนวปฏิวัติ และการต่อสู้ เพื่ออุดมการณ์อันแรงกล้า ที่เนื้อเรื่องเข้มข้น สุดมันส์! ที่เพื่อน ๆ ไม่ควรพลาด มาฝากกัน จะมีเรื่องไหนน่าดูบ้างนั้น เรามาดูกันเลยค่ะ
5 ซีรีส์ หนังแนวปฏิวัติ สุดเข้มข้น
The Hunger Games
เรามาเริ่มกันที่ เรื่องแรกกับเรื่อง The Hunger Games (เกมล่าเกม) หนังไซไฟ แอคชั่นดราม่า เป็นเรื่องราว ที่เกิดขึ้นที่ พาเน็ม แต่ก่อนภายในนั้น มีเขตการปกครองทั้งหมด 13 เขต โดยมี แคปปิตอล เป็นเมืองหลวง ที่คอยออกกฎ และควบคุมทั้ง 12 เขตที่เหลือ ให้ส่งบรรณาการ และสิ่งต่าง ๆ ที่แคปปิตอลต้องการ จนในที่สุดเขต 13 เขตที่ยากจน และแรงแค้น ก็ลุกขึ้นมาปฏิวัติ ก่อกบฏขึ้น
แต่แคปปิตอลก็ไหวตัวทัน และได้ทำลาย เขต 13 จนไม่เหลือซาก ตั้งแต่นั้นมา เพื่อเป็นการลงโทษ บวกกับขู่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก แคปปิตอลจึงกำหนด เกมล่าชีวิต โดยให้ทั้ง 12 เขต จับฉลาก ส่งตัวแทน 2 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 12-18 ปี ในวันเก็บเกี่ยว เพื่อมาลงแข่ง และฆ่ากันเอง จนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว
ซึ่งในขณะนั้นเขต 12 ได้ตัวแทน เป็นเป็นเด็กสาว ที่เธอได้อาสาเข้าร่วมเล่นเกม แทนน้องสาวที่รักของเธอ ด้วยไหวพริบ และความชำนาญในการล่าสัตว์ จึงทำให้คนดูอย่างแคปปิตอลเอาใจช่วย และยกให้เธอเป็นขญัวใจ แต่แล้วเธอก็ได้รู้สึก ถึงความยุติธรรม และความเหลื่อมล้ำ การกดขี่ข่มเหง ที่แคปปิตอลมอบให้ จนเกิดการปลุกระดมให้เขตต่าง ๆ เกินความฮึกเหิม และอยากปลดแอกตัวเอง ไม่ให้อยู่ภายใต้แคปปิตอลอีกต่อไป
Divergent
มาต่อกันที่เรื่อง Divergent เรื่องนี้สร้างจากหนังสือขายดี ของอเมริกา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกอนาคต ที่เมื่อมนุษย์ ถูกแบ่งเป็น 5 กลุ่มสุดท้าย โดยทุกคนที่มีอายุครบ 16 ปีบริบูรณ์ จะต้องทำการทดสอบ แบ่งกลุ่มตามพรสวรรค์ และสัญชาตญาณ ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด โดยที่พวกเขาจะต้องจากครอบครัว ไปใช้ชีวิตร่วมกับกลุ่ม ๆ นั้น ไปตลอดชีวิตเพียงกลุ่มเดียว
ต่อมามีเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งโตมาจากครอบครัว กลุ่มผู้ปกครอง (รับใช้ส่วนรวม เสียสละแบ่งปันให้ผู้อื่น) ได้รับการทดสอบ และพบว่าเธอมีทักษะสามารถเข้าร่วมกับกลุ่ม ได้ถึง 3 กลุ่ม คนที่มีลักษณะนี้ ถือเป็นภัยอันตรายต่อโลก เธอจึงต้องเก็บงำความลับ แล้วทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าตัวเองนั้นเป็น divergent ไปพร้อม ๆ กับที่เธอ ได้ล่วงรู้ถึงแผนการชั่วร้าย ของคนที่กำลังจะยึดอำนาจ เธอจึงกลายเป็นผู้นำในการปลดแอก และเป็นความหวังของทุกคน ที่อยากให้ความเสมอภาค รักความสงบสุข กลับมาอีกครั้ง
Les Miserables
Les Miserables มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิวัติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี 1789 – 1832 ซึ่งในช่วงนั้น มีแต่ความจลาจลวุ่นวาย มีแต่ความอดอยาก และหิวโหย การลักขโมย และการก่ออาชญากรรมจึงเกิดขึ้นมากมาย ท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดี ของชนชั้นปกครอง ที่ไม่สนใจประชาชน กลับยังใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย กินดีอยู่ดี
จนสุดท้ายก็ได้เกิดสงครามกลางเมือง ระหว่างทหารของรัฐบาล กับนักศึกษา กลุ่มอาเบเซ กลุ่มนักศึกษาผู้ต่อต้านการปกครองที่ไม่เป็นธรรม!! จริง ๆ แล้วเรื่องราวของตัวละครนั้น ได้ดำเนินไป โดยมีแบล็คกราวเป็นเรื่องราวการปฏิวัติฝรั่งเศส โดยที่ Les Miserables แปลว่า ประชาชนผู้ไม่ได้รับ ถูกเอารัดเอาเปรียบ จากสังคมในสมัยนั้นนั่นเอง
Snowpiercer
ซีรีส์ Snowpiercer เรื่องนี้ เป็นผลงานของผู้กำกับ เจ้าของรางวัลออสการ์ฯ สาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ปี 2019 อย่าง เรื่อง Parasite (ชนชั้นปรสิต) โดยเนื้อเรื่องนั้นเล่าถึงในอนาคต เมื่อโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง และทางเดียวที่จะอยู่รอดในโลกนี้ได้ ก็คือการอาศัยอยู่บนรถไฟ
แต่คนที่ได้สิทธิในการขึ้นรถไฟ ต้องมี “ตั๋ว” ซึ่งผู้จะมีตั๋วได้นั้น ก็ต้องมีเงินเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้กลุ่มคนที่ไม่ได้มีตั๋ว ได้หาทางต่อสู้ เพื่อความอยู่รอด จนขึ้นขบวนได้ในที่สุด รถไฟนี้จึงมีการ แบ่งแยกชนชั้นอย่างชัดเจน
โดยชั้นชนอภิสิทธิ์ชน ที่อยู่ต้นขบวน มีความกินดีอยู่ดี ใช้ชีวิตไม่ต่างจากเดิม กับชนชั้นแรงงาน ที่ต้องทำงานแลกอาหาร อยู่ด้านท้ายขบวนรถไฟ และเมื่อเวลาผ่านไป 7 ปี ความเลื่อมล้ำที่มีก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้กลุ่มชนชั้นแรงงาน ต้องลุกขึ้นสู้ เหพื่อความอยู่รอด และความเสมอภาค!
La Revolution
La Revolution ผลงาน Netflix Original นี้ เป็นซีรีส์แฟนตาซี ที่มีพื้นหลังเป็นการปฏิวัติฝรั่งเศส 1789 ที่มีความเลื่อมล้ำทางสังคมสูง ชาวบ้านความยากจนข้นแค้น เป็นขอทาน ส่วนชั้นชนศักดินามีแต่ความฟุ้งเฟ้อ ติดอยู่กับความหรูหรา จนมี หญิงสาวชนชั้นขุนนาง อย่าง เลดี้ เอริส เดอ มองตาจี ที่เธอได้แนะนำเหล่า ขุนนางให้เปิดยุ้งข้าวแจกจ่ายชาวบ้าน และยกเลิกการเก็บภาษีที่ไม่สมเหตุสมผล แต่ก็ไม่มีขุนนางคนไหนฟัง กลับทำเป็นเรื่องขบขันซะด้วยซ้ำ
ต่อมาเธอได้เข้าไปพัวพัน กับกลุ่มภารดรภาพ ที่ต้องการล้มระบอบการปกครองแบบเก่า ล้มล้างระบบศักดินา และขุนนาง และเริ่มมีชาวบ้านหลายคน เริ่มรวมกลุ่มกันต่อต้านผู้มีอำนาจ ในขณะที่มีเรื่อง เลือดสีฟ้าปริศนา ที่ทำให้คนตายไปแล้วฟื้น กลายเป็นอมตะได้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้มีปริศนา และสะัญลักษ์แฝงต่าง ๆให้เราได้ลุ้น ได้ติดตามมากมายเลย
จบลงไปแล้วค่ะกับ 5 ซีรีส์ หนังแนวปฏิวัติ ที่ไม่ควรพลาด!! เพราะนอกจากเนื่อเรื่องจะเข้มข้น สนุกดูเพลินแล้ว ยังมีแง่คิดมากมาย รวมไปถึงภาพสวย โปรดักชั่นเริ่ด! ใครที่ยังไม่มีแพลนหนังดูในวันหยุดนี้ ก็ลองเลือก 5 ซีรีส์ หนังนี้เก็บไว้เป็นตัวเลือกกันได้เลยคะ ฮึกเหิมชัวร์!!
CR : pinterest
Comments
comments
Stay connected