สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน เมื่อซักเดือนหรือสองเดือนหก่อน Netflix ได้นำเอาซีรีส์เกาหลีที่เรียกได้ว่าเป็นที่รอคอยของเหล่าแฟนคลับมากมาย รวมถึงสร้างเสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างๆ ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ควรค่าแก่การดูเป็นที่สุด และในวันนี้ Clubsister ก็ไม่อาจทนกระแสใดๆ ได้อีกต่อไป ขอมาเจาะลึกกันซักหน่อยกับ มาดู 10 เหตุผล “ทำไมซีรีส์ Hospital Playlist ถึงขึ้นหิ้งในใจคนดู” มานั่งดูกันเลยว่า ทำไมนะซีรีส์เรื่องนี้ถึงติดอยู่ในจิตใจของคนดูได้ขนาดนี้ อย่ารอช้าไปเริ่มกันเลยค่า 

 

  10 เหตุผล “ทำไมซีรีส์ Hospital Playlist ถึงขึ้นหิ้งในใจคนดู”  

 

เรื่องย่อและตัวละคร:

Hospital Playlist

Hospital Playlist (คลิกเพื่อรับชม) หรือในชื่อภาษาไทยที่ว่า “เพล์ลิสต์ ชุดกาวน์” เป็นซีรีส์จาก Original Netflix – เกาหลี ที่นำเสนอและตีแผ่เรื่องราวชีวิต การทำงาน และเจาะลึกพร้อมนำเสนอถึงแง่มุมทางการแพทย์ ผ่านตัวละครหลักทั้ง 5 คน ที่เป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนาน พวกเขาทั้ง 5 คนนั้นเป็นนักศึกษาแพทย์ร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันมาตั้งแต่ปี 1999

โดยเริ่มรู้จักกันจากการที่พวกเขาหลบหนีการเข้ารับน้องและไปซ่อนตัวอยู่ที่ห้องเก็บของ จนบังเอิญได้เจอกัน ด้วยมิตรภาพเล็กๆ ก่อเกิดเป็นความรักดั่งครอบครัว พวกเขาเรียนรู้และรู้จักกันมาเป็นเวลา 20 ปี อีกทั้งยังทำงานร่วมสถาบันเดียวกัน จนเติบโตเป็นอาจารย์หมอกันทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของหมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคนิคทางการแพทย์ตมสไตล์ของหนังหมอ หรือแม้กระทั่งการสะท้อนเรื่องราวชีวิตส่วนตัว และความสัมพันธ์ในหลากหลายแง่มุม ที่สุดแสนจะเรียบง่าย และลึกซึ้งในผู้ชมอย่างเราได้ดูกัน

 

ตัวละครหลัก:

Hospital Playlist

คนที่ 1: อินจุก รับบทโดย โจจองซอก

ศาสตราจารย์นายแพทย์และอาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านทางเดินอาหารอย่างถุงน้ำดีและตับ นอกจากการรับบทเป็นคุณหมอแล้วนั้น เขายังเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกชาย 1 คนด้วยเช่นกัน อินจุกเป็นคนอัธยาศัยดี ขี้เล่น แถมยังเป็นหนุ่มที่ชอบท่องราตรีด้วย แต่ถึงแม้เขาจะใช้ชีวิตเป็นนกฮูกกลางคืนเที่ยวคลับอยู่บ่อยๆ แต่ทว่าเขาก็ยังสอบได้ที่ 1 ของชั้นอยู่ดี

คนที่ 2: จองวอน รับบทโดย ยูยอนซอก

อาจารย์หมอและนายแพทย์ที่มีชื่อเสีบงทางด้านกุมารศัลยศาสตร์ เป็นคุณหมอที่เรียกได้ว่าเป็นที่รักของคนไข้ เพราะเขาเห็นอกเห็นใจพร้อมทั้งเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของคนรอบข้างอยู่เสมอ เขาเป็นคนดีจนใครๆ ก็ให้ฉายาเขาว่า “พระพุทธเจ้า” ถึงแม้ว่าเขาจะนับถือศาสนาคริสต์ก็ตาม

คนที่ 3: จุนวาน รับบทโดย จางคยองโฮ

ศาสตราจารย์นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมทรวงอก เป็นคุณหมอที่เรียกได้ว่าฝีมือฉกาจสุดๆ ในเรื่องการผ่าตัดทรวงอก หัวไว ฉลาด มีไหวพริบ อย่างไร้ที่ติ แต่! เสียอย่างเดียว อย่าให้เขาได้พูดเชียว เพราะทุกคำพูดตรง จนบางครั้งคนฟังก็รับไม่ค่อยได้

คนที่ 4: ซอกฮยอง รับบทโดย คิม แดมยอง

อาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญด้านสูติและนรีเวชวิทยา เขาเป็นมนุษย์ Introvert ที่โลกส่วนตัวสูงปรี๊ด ไม่ค่อยชอบออกสังคม สังสรรค์ หรือทำความสัมพันธ์กับผู้คนเสียเท่าไร แต่ทว่าเป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอยู่เสมอๆไม่เพียงแค่นั้น เขามีความรู้สึกอยู่บ่อยๆ ว่า ตัวเขานั้นอาจจะไม่เหมาะกับการมีใครก็ได้ เพราะเขามีบาดแผลในอดีต อีกทั้งเขาไม่อยากสร้างความเจ็บปวดเหล่านี้ให้ใครด้วยเช่นกัน

คนที่ 5: แชซงฮวา รับบทโดย ชอนมีโด

ศาสตราจารย์แพทย์หญิงคนสุดท้ายและคนเดียวในกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทศัลยศาสตร์ ถึงแม้จะเป็นแพทย์หญิงแต่บอกได้เลยว่า เธอเป็นเหมือนแกนนำ และที่พึ่งพิงทางด้านจิตใจของคนในกลุ่ม เป็นคนที่เด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น และตั้งใจกับแทบจะทุกสิ่งในชีวิต เธอเป็นแพทย์หญิงที่เรียกว่า หาตัวจับได้ยาก เพราะฝีมือเธอนั้นเรียกได้ว่า ไร้ที่ติ เลยทีเดียว

 

“ทำไมซีรีส์ Hospital Playlist ถึงขึ้นหิ้งในใจคนดู”

Hospital Playlist

1. ซีรีส์หมอที่ไม่ได้นำเสนอแค่แง่มุมการแพทย์

อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า พอเป็นหนังที่เกี่ยวกับหมอ หรือ ซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวทางการแพทย์นั้น ก็จะหนีไม่พ้น การนำเสนอแง่มุม วิธีการทำงานของแพทย์ คุณหมอ และบุคลากรทางการแพทย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การวินิจฉัย และอื่นๆ อีกมากมาย เราจะได้สนุกกับการวิเคราะห์

และเรียนรู้เรื่องราวการรักษาคนไข้ หรือ เทคนิคการผ่าตัดใดๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ทว่าในซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้แค่นำเสนอแง่มุมเหล่านี้เพียงเท่านั้น แต่เขาตั้งการนำเสนอชีวิตประจำวันของ “หมอ” ในอีกแง่มุมหนึ่งที่ใครหลายๆ คนไม่รู้ ผ่านตัวละครหลัก ทั้ง 5 ตัว

 

2. เรื่องราวชีวิตที่จับต้องได้

อย่างที่เราบอกไปเมื่อข้อที่ 1 ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอที่มุมมองหรือการถ่ายทอดเรื่องราวของทางการแพทย์และการทำงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซีรีส์เรื่องนี้ได้สะท้อนให้เราเห็นมุมมองและการใช้ชีวิตของ “ตัวละครทั้ง 5 ตัว” ที่ใครๆ อาจจะมองว่าเขาก็ทำงานเป็นหมอ เขาจะต้องพิเศษกว่าใครๆ

แต่ไม่ใช่เลย ซีรีส์เรื่องนี้กำลังจะบอกเราว่า “การใช้ชีวิตของพวกเขา ไม่ได้มีแค่การทำงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังมีแง่มุมอื่นๆ ที่อยากให้เราเห็นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันด้วยเช่นกัน”

 

3. ถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบ

Hospital Playlist เป็นซีรีส์ที่นำเสนอแง่มุมทางการแพทย์และชีวิตของตัวละครที่เป็นหมอทั้ง 5 คนแล้วนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้เลยตั้งแต่ Ep.แรกๆ ของเรื่องคือเรื่องความสัมพันธ์ที่มีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเพื่อน , คนรัก ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์และปมความรู้สึกที่มีต่อตนเอง เราจะได้เห็นอารมณ์ และความรู้สึกเหล่านี้ถ่ายทอดผ่านตัวละครที่มีความแตกต่างแต่ลงตัวในเรื่อง

 

4. เพื่อน ที่เป็นครอบครัวเดียวกัน

ด้วยความที่เป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันมาตั้งแต่ปี 1999 รู้จักและทำงานร่วมกันมาเป็นเวลา 20 ปี นั่นจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมความสัมพันธ์ของพวกเขาถึง แน่นแฟ้นและเป็นปึกแผ่นเดียวกันขนาดนี้ จากตัวเนื้อเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้ จะทำให้คนดูอย่างเรา เรียนรู้และเข้าถึงความหมาย ของความสัมพันธ์ที่เป็นเพื่อน จนกลายเป็นคนในครอบครัว ว่ามันลึกซึ้งและอบอุ่นเพียงใด

 

5. ใครว่าผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันไม่ได้

ในชีวิตประจำวันเรามักได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่า “ผู้หญิงเขาไม่เป็นเพื่อนกับผู้ชายกันหรอก” แต่ซีรีส์เรื่องนี้จะลบล้างความคิดและคำพูดของประโยคเหล่านี้ออกไป เพราะ Hospital Playlist กำลังจะบอกกับเราว่า “การเป็นเพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องมีเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง”

Hospital Playlist

6. ทุกคนสามารถผิดพลาดได้

หากใครที่เคยได้ดูซีรีส์เรื่องนี้จะรู้ได้เลยว่า ถึงแม้พวกเขาจะเป็นอาจารย์หมอ หรือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ แต่กว่าที่พวกเขาจะมาถึงจุดนี้ พวกเขาได้ผ่านความผิดพลาด เสียใจ และท้อแท้ กับเรื่องราวในชีวิตไม่ต่างกัน ไม่ใช่แค่กับเรื่องหน้าที่การงานเพียงอย่างเดียว
ไม่เพียงแค่เรื่องราวในอดีตที่ผิดพลาด ณ ปัจจุบันพวกเขาก็สามารถทำผิดพลาดได้อยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นซีรีส์เรื่องนี้จะถ่ายทอดความหมายของชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ที่เราอาจจะมองข้าม หรือ พยายามหลีกเลี่ยงมัน นั่นก็คือ “ความผิดพลาด” ซีรีส์เรื่องนี้จะคอยบอกกับเราว่า “ทุกคนพลาดกันได้ จงอยู่กับมัน ยอมรับ แก้ไข และเริ่มใหม่ พร้อมจงจดจำความปิดพลาดเหล่านั้นไว้เป็นบทเรียน” นอกจากคำว่า “ผิดพลาด” แล้วนั้น สิ่งที่เรื่องนี้คอยบอกเราอยู่ตลอดเวลานั่นก็คือ “ไม่เป็นไร”

 

7. หมอ คือ ซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ไม่มีพลังวิเศษ

เรามั่นใจว่าหากใครที่ติดตาม Hospital Playlist มาโดยตลอด หรือแม้กระทั่งซีรีส์ทางการแพทย์เรื่องอื่นๆ เราจะรู้ได้เลยว่า “หมอ” นั้นเปรียมเสมือนซุปเปอร์ฮีโร่ของประชาชน แต่เพียงแค่หมอ ไม่ได้มีพลังวิเศษเหมือนกับใครๆ หมอไม่สามารถหายตัวได้ ไม่สามารถสั่งสิ่งของให้ลอยได้ หรือแม้กระทั่งหมอไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ภายในพริบตา

เพราะสุดท้ายแล้ว หมอ ก็ยังเป็นคนเหมือนกับพวกเรา มีความรู้สึกเหนื่อย เสียใจ ดีใจ ต้องการชีวิตส่วนตัว มีอารมณ์ในเรื่องต่างๆ เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป โดยซีรีส์เรื่องนี้จะนำเสนอแง่มุมเหล่านี้ให้กับคนดูทุกคน เห็นมุมนี้ของซุปเปอร์ฮีโร่เดินดินของเราได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ปล. เราอยากจะบอกว่าพอได้ดูซีรีส์ทางการแพทย์และซีรีส์เรื่องนี้ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความต้องการและสภาพจิตใจของคุณหมอในสถานการณ์ขับขัน (อย่างสถานการณ์ COVID ณตอนนี้เป็นต้น) ว่าเขาจะต้องแบกรับความรู้สึกและแบกรับชีวิตของคนไข้มากมายเท่าใด เอาเป็นว่า อยากเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านนะคะ

Hospital Playlist

 

8. มนุษย์ก็เหมือนกับเหรียญ มีสองด้านเสมอ

ถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ใช่ซีรีส์สืบสวนสอบถาม หรือซีรีส์แนวกฏหมายต่างๆ ที่สะท้อนปม หรือ ภูมิหลังตัวละครได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่! เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ทำให้เราเห็น มุมมองในแต่ละด้านของตัวละครที่คล้ายกับคนธรรมดา พร้อมสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าใครก็มีสองด้านเสมอ ทุกคนมีอดีต มีความเชื่อ และเรื่องราวความเป็นมาที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าเขาจะนำเสนอมุมไหนให้เราเห็นแค่นั้นเอง

 

9. ความอบอุ่นที่พัดมาถึงคนดู

และเหตุผลหลักๆ ของการอยากจะชักชวนให้สาวๆ ได้มาดูเรื่องนี้กันนั้น คงหนีพ้นเรื่องนี้ นั่นก็คือ “ความอบอุ่น” ของเรื่อง ที่ไม่ใช่แค่ความอบอุ่นที่เราได้จากตัวละครหลักเพียงอย่างเดียว แต่ความอบอุ่นเหล่านี้มาจากการได้มองดูชีวิตประจำวันของพวกเขา การได้สัมผัสถึงอารมณ์ที่แต่ละตัวละครที่แตกต่างกัน นำพามาให้คนดูอย่างเราได้รับความรู้สึกเหล่านี้เอาไว้

 

10. ความเรียบง่ายที่ลงตัว

เหตุผลสุดท้ายที่อยากจะบอกนั่นก็คือ Hospital Playlist เป็นซีรีส์ที่ถึงแม้จะนำเสนอมุมมอง การทำงาน และชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ต่างๆ แต่ทว่า ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้คนดูอย่างเรา รู้สึกเข้าไม่ถึงหรือต้องใช้ความคิดอะไรกับการดูเยอะแยะ เนื้อเรื่องสะท้อนแง่มุม ความเรียบง่าย เข้ากับเรื่องที่คิดว่าซับซ้อนได้เป็นอย่างดี ทำให้คนดูซึมซับและสัมผัสถึงสิ่งที่เนื้อเรื่องและซีรีส์ต้องการจะสื่อได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน

 

และนี่คือ 10 เหตุผลทั้งหมดที่ว่า ทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงกินใจ และขึ้นหิ้งซีรีส์ที่น่าประทับใจที่สุดของใครหลายๆ คน และหากเรามีซีรีส์อะไรจะมาแนะนำให้กับสาวๆ ได้ดูกันอีกละก็ เราจะนำมาบอกกันอีกนะคะ และพบกันใหม่บทความหน้า ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตรงนี้ … บ๊ายบายค่า

 

Photo Credits:

Comments

comments