สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน อีกแปปนึงจะจบสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนแห่งความรักกันแล้ว พอพูดถึงเดือนแห่งความรัก สาย Entertainment ต่างๆ ก็มักจะ Recommended หนังรัก หนังหวาน หรือ เพลงรัก เพลงซึ้ง แต่ Clubsister ขอฉีกกว่าคนอื่นๆ เขา “กุมภานี้ใครเขาดูหนังหวานกัน แนะนำ 5 หนังรักเคล้าน้ำตา ตอกย้ำเดือนแห่งความรัก!” มาค่ะ มาดูกันจะมีเรื่องอะไรบ้าง

 

“แนะนำ 5 หนังรักเคล้าน้ำตา ตอกย้ำเดือนแห่งความรัก!”

 

เรื่องที่ 1: Marriage Story

สามารถรับชมได้ที่: Netflix (คลิกเพื่อรับชม)
คะแนนที่ได้จาก iMDB: 7.9 / 10
คะแนนที่ได้รับจาก Tomato Rotten: 94% และ 85%

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://www.amazon.com/Marriage-Story-Criterion-Collection-Blu-ray/dp/B0875FJS68

เรื่องแรกเป็นหนังรักเคล้าน้ำตาที่เข้าชิงรางวัลในสาขาต่างๆ บนเวทีประกาศรางวัลออสการ์ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้น ยังเป็นหนังไม่กี่เรื่องจาก Original NETFLIX ที่เข้าชิงรางวัลอีกด้วย และจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจาก “Marriage Story”

หนังรักเคล้าน้ำตา แนะนำ ที่ไม่ใช่มีดีที่แค่บท และเทคนิคการถ่ายทำ แต่เขาขนเอานักแสดงมากความสามารถและเจ้าบทบาทกับ Charlie Barber และ Scarlett Johansson ร่วมแสดงเป็นตัวเอกทั้งสองอีกด้วย

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://www.filmaffinity.com/au/movieimage.php?imageId=482617314

เรื่องราวพูดถึงเหตุการณ์และการตัดสินใจของ “นิโคล” ที่อยากจะขอหย่ากับสามีของเธอ “ชาลี” ในห้องรับคำปรึกษาปัญหาชีวิตคู่กับนักบำบัด โดยนิโคลเป็นนักแสดงละครเวทีให้กับโรงละครที่ชาลีเป็นผู้กำกับอยู่ แต่ทว่ายิ่งอยู่กันไป ยิ่งรู้สึกถึงความสุขน้อยลง ทั้งคู่จึงตัดสินใจว่าหย่า เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่และใช้ชีวิตใครชีวิตมันตามที่ฝันที่วาดเอาไว้

แต่ทว่าในการหย่านั้น มันไม่ได้ง่ายเหมือนตอนแต่ง ทำให้ทั้งคู่ต้องผ่านเรื่องราวและนึกย้อนถึงความสุขที่ตนเคยมีมา เราขอบอกเลยว่าถึงแม้เราจะยังไม่ได้แต่งงาน แต่สำหรับหนังรักเคล้าน้ำตาเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ทำให้เราเศร้า ร้องไห้ เหมือนอกหักหนักมาก ไม่ใช่เพราะเสียใจกับเรื่องราวความรักที่จบลง แต่ร้องไห้เพราะเข้าใจถึงความรู้สึกของตัวละครทั้งสอง

 

เรื่องที่ 2: One Day

สามารถรับชมได้ที่:
คะแนนที่ได้จาก iMDB: 7.0 / 10
คะแนนที่ได้รับจาก Tomato Rotten:

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://www.rogerebert.com/reviews/one-day-2011

ต่อมาเป็นหนังรักเคล้าน้ำตาตลอดกาลสำหรับเรา อย่างเรื่อง One day หรือ วันหนึ่ง วันนั้น วันของเรา หนังเรื่องนี้สร้างมาจาก Novel Best Seller ในปี 2009 ที่ใช้ชื่อเดียวกัน One day
เป็นหนังแนว Romantic drama ที่บอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคู่หนึ่งที่มีความสัมพันธ์เหมือนฉันเพื่อน (ไหม?? ไม่รู้) นั่นก็คือ เอ็มม่า (Anne Hathaway) หญิงสาวที่มีความทะเยอทะยาน ตามล่าหาความฝันของตัวเอง

และ เด็กซ์เตอร์ (Jim Sturgess) ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมไปทั้งรูปร่าง หน้าตา และเงินทอง เขาใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ เหมือนลูกคุณหนูที่ใช้เงินทิ้งไปวัน ๆ ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยเหมือนใคร ๆ ทั้งคู่มักจะเจอกันในทุก ๆ วันที่ 15 ของเดือน กรกฎาคม ในทุก ๆ ปี ถึงแม้เขาทั้งคู่จะเจอกันแค่ปีละครั้ง แต่ในทุก ๆ ครั้งที่เจอกันนั้น ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แค่ต่างฝ่ายต่างมองตากัน แค่นั้น มันก็บอกอะไรได้มากกว่าคำพูดแล้ว

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://pantip.com/topic/35400530

หนังดำเนินเรื่องโดยการบอกเล่าเรื่องย้อนหลังมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่วันที่เอ็มและเด็กซ์เจอกัน ถ่ายทอดสิ่งที่สองคนเป็นและความรู้สึกคิดถึงบวกกับความโหยหาที่ทั้งสองคนมี ตลอดช่วงเวลาที่ดูหนังเรื่องนี้มีคำถามผุดขึ้นมาในหัวแทนนางเอกเต็มไปหมด (ถ้าเราเป็นนางเอกอ่ะนะ >< ) เรา 2 คนเป็นอะไรกัน ? ตลอดเวลาที่เราไม่เจอกันเธอคิดถึงมันบ้างไหม ? และช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอมีความสุขบ้างหรือเปล่า ? และ เราพร้อมที่จะมีกันและกันเมื่อไร ?

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาถึงแม้ว่าทั้งคู่จะผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปมีครอบครัว รักร้าว เตียงหัก และสุดท้ายก็วนกลับมาที่เดิม และดูเหมือนมันจะดำเนินไปได้ด้วยดีแต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง (ไม่อยากบอกต่อเลย อยากให้ไปดูเอาเอง) และหลังจากนั้น น้ำตาพรากเลยค่า

สุดท้ายแล้วที่คำพูด คำพูดหนึ่งที่เราได้จากหนังเรื่องนี้คือ “หากเรารู้ว่าเรารักใครสักคน จงอย่าลืมความรู้สึกแรกที่ให้กัน จงแสดงออกอย่างชัดเจน รักษาเวลาที่มีอยู่ด้วยกันให้เหมือนว่ามันเหลืออยู่แค่ 5 นาทีสุดท้าย” อย่ากลัวหรืออย่าอายที่จะแสดงออกมาเลย เพราะหากเข็มนาฬิกามันวนมาถึงจุดจบ เมื่อไร โอกาสทั้งหมดที่คุณมี ความฝันทั้งหมดที่คุณฝันเอาไว้ร่วมกันมันจะมลายหายไปพร้อมกับจุดจบของเวลา

 

เรื่องที่ 3: The Classic

สามารถรับชมได้ที่: Netflix (คลิกเพื่อรับชม)
คะแนนที่ได้จาก iMDB: 7.8 / 10
คะแนนที่ได้รับจาก Tomato Rotten:

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://www.netflix.com/title/80230449

และหนังรักเคล้าน้ำตา เรื่องต่อมาเป็นหนังรักดราม่าสัญชาติเกาหลี ที่เรากล้าพูดเลยว่าเป็นหนังรักเกาหลีที่ดีที่สุด ถึงแม้จะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตามกับ The Classic หรือในชื่อไทยที่ว่า “คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต”

เป็นเรื่องราวความรักของชายและหญิงคู่หนึ่ง เมื่อได้เข้ามาในชีวิตกันและกันครั้งหนึ่ง ความทรงจำและความรู้สึกจะคงอยู่กับพวกเขาตลอดไป ถึงแม้ว่าปลายทาง เขาจะไม่สามารถเดินทางร่วมกันได้ก็ตาม

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://imdb.com/title/tt0348568/mediaviewer/rm1741182464/

ต้อบอกเลยว่าหนังรักเคล้าน้ำตา เรื่องนี้อบอวลไปด้วยทั้งความรักที่พาจิตใจคนดอย่างเรานุ่มฟู ความรักที่เหมือนสายฝน ที่พาคนดูอย่าเราร้องไห้จนตาบวม หนังสะท้อนให้เห็นถึงความทรงจำ ความรัก และความรู้สึก ของคน 2 Generations

เพื่อสะท้อนให้เห็นความรู้สึก และความรักที่ถึงเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ทุกอย่างยังคงอยู่ที่เดิม สิ่งที่ชอบนอกจากเนื้อเรื่องและอารมณ์ของหนังนั้น ยังมีความคลาสิกที่สะท้อนออกมาในฉากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งซ้อนท้ายจักรยาน ฉากหลบใต้เสื้อคลุมเดียวกัน และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ชวยดึงอารมณ์คนดูอย่างเราเป็นที่สุด

 

เรื่องที่ 4: Five Feet Apart

สามารถรับชมได้ที่:
คะแนนที่ได้จาก iMDB: 7.2 / 10
คะแนนที่ได้รับจาก Tomato Rotten: 53% และ 79%

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://www.rottentomatoes.com/m/five_feet_apart/pictures

หนังรักเคล้าน้ำตาเรื่องถัดไปเราขอเสนอ Five Feet Apart เป็นภาพยนตร์แนว Romantic , Drama พูดถึงเรื่องราวของสเตลล่า สาวน้อยวัย 17 ปีที่ป่วยเป็นโรคซิสติก ไฟโบรซิส หรือ ที่เรียกอย่างย่อว่าโรคซีเอฟ (** Cystic Fibrosis เป็นโรคทางพันธุกรรมที่มักจะเกิดอาการกับอวัยวะอย่างปอดและระบบทางเดินหายใจเป็นส่วนใหญ่)

ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้ ด้วยเหตุนี้เลยทำให้เธอต้องใช้ชีวิตเข้าออกรพ. เหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง แต่ใช่ว่าการที่เธอเข้าออก รพ. อยู่แบบนี้จะทำให้เธอไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเด็กสาววัยสะพรั่งทั่วไป

อย่างน้อยเธอก็ได้พบรักกับ วิล เด็กหนุ่มย่างเข้า 18 ปี ที่ป่วยด้วยโรคเดียวกัน และด้วยวันเวลาผ่านไป ทำให้ความรู้สึกของทั้งสองเพิ่มมากขึ้น แต่กฏเหล็กของความรักระหว่าง วิลและสเตลล่าคือ ต้องอยู่ห่างกันเป็นระยะ 6 ฟุต และ ห้ามสัมผัสกันเด็ดขาด (เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายสู่กันและกัน)

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://www.nytimes.com/2019/03/14/movies/five-feet-apart-review.html

ถามว่าหนังเรื่องนี้โดดเด่นหรือแตกต่างไปกว่าหนังรักโรแมนติกทั่วไปขนาดนั้นไหม ตอบเลยว่า ไม่ ก็ตามแบบฉบับสูตรหนังรักดราม่าทั่วไป เมื่อดูไปดูมาแอบคล้าย TFIOS ตรงที่คนป่วย 2 คนมารักกัน แต่สำหรับเรื่องนี้ ส่วนตัวเรามองว่าค่อนข้าง Feel Good และมีมุมกุ๊กกิ๊กให้อมยิ้มอยู่เล็กน้อย
แต่สิ่งที่พิเศษไปกว่านั้นคงเป็นการที่หนังเล่นกับความหมายของมุมมองความรักและความสัมพันธ์ที่ว่า “เมื่อคนเรามีความรักกับใครก็แล้วแต่ การแสดงออกอย่างหนึ่งคือการสัมผัสซึ่งกันและกัน”

แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะ “เมื่อมีความรัก แต่เรากลับสัมผัสคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้นั้น” ทรมานไปไม่น้อยกว่าการจากลาเสียด้วยซ้ำ ซึ่งหนังเรื่องนี้ นำเสนอมุมมองตรงนี้ออกมาได้ค่อนข้างดี และซึ้งกินใจคนดูอย่างเรา (ที่ Sensitive) ค่อนข้างมาก อีกทั้งสิ่งที่เราชอบอีกอย่างของหนังแนวนี้เลยก็คือ หนังมักบอกเราเสมอว่า ชีวิตคนเราสั้นจะตาย จะตายวัน ตายพรุ่งเมื่อไรก็ไม่รู้ ในเมื่ออยากทำอะไรอย่ามัวแต่รอ เริ่มลองและเริ่มทำเสียตั้งแต่ตอนนี้

และที่สำคัญอีกเรื่องที่หนังรักเคล้าน้ำตาบอกเราเลยคือ หากตอนนี้เรายังมีเวลาที่หายใจอยู่ จงบอก จงใช้ชีวิต และจงสัมผัสคนที่รักให้มากที่สุด เท่าที่อีกฝ่ายจะรับรู้ได้ เพราะอย่างน้อยเมื่อหมดเวลาแล้ว เราจะได้ไม่มานั่งเสียใจที่หลัง

 

5. Sweet November
สามารถรับชมได้ที่:
คะแนนที่ได้จาก iMDB: 6.7 / 10
คะแนนที่ได้รับจาก Tomato Rotten: 15% และ 76%

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://juicyreviewz.wordpress.com/2019/06/23/sweet-november-2001/

Sweet November เป็นหนังรักเคล้าน้ำตา อีกเรื่องหนึ่งที่ให้คำนิยามของความรักที่แค่เพียงเจอก็คิดถึงตลอดไปได้อย่างลงตัว หนังเรื่องนี้พูดถึงเรื่องราวของ ‘เนลสัน’ (Keanu Reeves) ครีเอทีฟหนุ่มในเอเจนซี่ที่ในทุกวันเขาจะไม่ทำอะไรเลยนอกจากงานและงานจนไม่มีเวลาให้ใคร
แต่วันหนึ่งเขาจำเป็นจะต้องไปต่อใบขับขี่ เลยทำให้เจอกับ ‘ซาร่า’ (Charlize Theron) หญิงสาวลึกลับที่เข้ามาทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

ในขณะที่เนลสันและซาร่ากำลังสอบข้อเขียนใบขับขี่อยู่นั้น เนลสันแอบทุจริตข้อสอบโดยการถามคำตอบจากซาร่า แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง ผู้คุมสอบดันเห็นซาร่าทุจริตเพียงคนเดียว
จึงคาดโทษของเธอโดยการปรับตกและสามารถมาสอบได้อีกครั้งหลังจากนั้นภายใน 30 วัน

ด้วยเหตุนี้ทำให้ ซาร่า เลือกที่จะยื่นข้อเสนอกับเนลสัน โดยการเข้ามาใช้ชีวิตกับเธอ เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งตรงกับเดือนพฤศจิกายน ในตอนแรกเนลสันไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ แต่เหมือนฟ้าลิขิตให้เขาต้องเจอกับคนนี้ ชีวิตเนลสันพัง ตกงานและแฟนทิ้ง คนเดียวและสิ่งเดียวที่เนลสันคิดถึงในตอนนั้น คือ ซาร่า และต่อจากนั้นไป 1 เดือนทำให้เขารู้ว่าชีวิตเขาเกิดมาเพื่อดูแลและรักซาร่าเพียงคนเดียว

หนังรักเคล้าน้ำตา

Photo Credit: https://www.mgmmovie.com/Sweet-November-2001-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%8C

เราเชื่อว่า หนังหนังรักเคล้าน้ำตาเรื่องนี้เป็นหนังกระชากน้ำตาของใครหลายคน เพราะหนึ่งในนั้นคือเราเอง Sweet November เป็นหนังที่ให้นิยามความรักในระยะที่ไม่สั้นเกินไปและไม่นานจนเกินไปได้ดีมากจริง ๆ ระยะเวลาที่จะทำให้คนเราเข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกรักของอีกฝ่ายได้นั้น
มันต้องมากกว่าเดือน 1 อยู่แล้วล่ะ

แต่หนังเรื่องนี้คาบเกี่ยวระหว่างช่วงเวลาและคาบเกี่ยวระหว่างความสัมพันธ์ ด้วยความที่นางเอกของเราป่วยและเหลือเวลาในการใช้ชีวิตได้อีกไม่นาน สิ่งที่เธอต้องการจะทำคือการมอบความสุขให้กับคนที่กำลังมีปัญหาในชีวิต เธออยากที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นของพวกเขาให้จางหายไป เธอเลยเลือกที่จะมีความสัมพันธ์ที่เหมือนแฟนแต่ไม่ใช่ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น
เพื่อเธอจะหมุนเวียนเปลี่ยนคนไปตามวันและเวลาที่เธอเหลืออยู่

แต่แล้วเธอก็ต้องหยุดอยู่ที่พระเอก คนที่เหมือนเข้ามาเปลี่ยนนิยามการใช้ชีวิตของเธอ ไม่ต่างกับที่นางเอกเองก็เข้ามาเปลี่ยนนิยามการใช้ชีวิตของพระเอกเช่นกัน เธอทำให้เขาก้าวออกมาจากวิถีชีวิตเดิม ๆ ทำให้เขาเริ่มทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำ และสิ่งนั้นคือการที่จะเลือกรักและใช้เวลาที่เหลืออยู่ไปกับคนที่เขารัก

Comments

comments