หนังดียุค 90s – 2000s นั้นมีมากหลาย หลากหลายหมวดให้เลือก เพราะเป็นหนังที่ขึ้นหิ้งเป็นตำนานหลากหลายเรื่อง มีทั้งแนวลึกลับ ตลกคอมเมดี้ แอคชั่น และ อื่น ๆ อีกมากมาย วันนี้เราหยิบมา 10 เรื่อง ที่ขึ้นหิ้งว่าต้องดู มาฝากชาวซิสกันค่ะ ถ้าพร้อมจะไปดู List แล้วล่ะก็ ไปดูกันเลย !!
หนังดียุค 90s – 2000s มีอะไรที่ต้องดูบ้าง
1. The Pianist ( 2002 )
ถ้าใครที่ชอบหนังแนว base from true story ล่ะก็ เรื่อง The pianist จะต้องถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ เพราะเป็นหนังที่ดึงช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ของช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 และแน่นอนว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การล้างฆ่าเผ่าพันธุ์ของพวกนาซี นั่นเองค่ะ
โดยเนื้อเรื่องนั้น สร้างมาจากชีวิประวัติ ของนักเปียโนชาวโปแลนด์ เชื้อสายยิว ที่ชื่อว่า วลาดิสลาฟ สปิลมัน ที่เค้าสามารถเอาชีวิตรอด จากช่วงตามกวาดล้างของนาซีได้ค่ะ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องราวในช่วงเวลาสงครามสั้น ๆ นี้จะเข้มข้น บาดจิตใจคนดูได้ลึกขนาดไหน ไม่อยากสปอยล์เยอะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ควรปักหมุด “ต้องดูสักครั้งในชีวิต” เลยจริง ๆ ใครที่ชอบเรื่องราวจริงทางประวัติศาสตร์ บวกกับหนังที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างดี ควรดูเรื่องนี้อย่างแรง
Source : 1
2. Before Sunrise (1995)
แล้วถ้าคุณเป็นแฟนหนังโรแมนติก ดูแล้วอบอุ่นหัวใจล่ะก็ เรื่อง Before Sunrise ก็ต้องเป็นหนึ่งใน list หนังที่ต้องดูแน่นอนค่ะ
เรื่องย่อ ๆ คือ ความรักของหนุ่มอเมริกา กับสาวฝรั่งเศส ที่ไปบังเอิญเจอกันบนรถไฟ และแน่นอนว่าถูกชะตากันตั้งแต่แรกพบ
หนังจะค่อย ๆ สร้างให้ เรารู้สึกรักตัวละครทั้งสองผ่านบทสนทนาเรียบง่าย ชวนให้อิ่มใจไปกับความรักที่ก่อขึ้น ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ 1 วัน 1 คืน แล้วทั้งสองคนก็ต้องแยกไปใช้ชีวิตของตัวเอง เหมือนหนังจะสอนเราว่า การที่คนที่ใช่ผ่านเข้ามาในช่วงเวลาสั้น ๆ ของชีวิต อาจทำให้เราต้องจดจำเขาไปตลอดชีวิต นึกถึงทีไรก็เศร้าปนสุข ผ่านไปกี่ปีก็ไม่ลืม โรแมนติกมากเลยใช่มั้ยล่ะซิส !!
Source : 1
3. The Dark Knight (2008)
และแน่นอนว่า The dark knight จะไม่ติดโพลก็ไม่ได้ ด้วยเรื่องของการยืนหนึ่งของหนังดีตลอดกาล และ การแสดงของนักแสดงที่กินใจ ทำให้เรื่องนี้ก็เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูค่ะ
โดยหนังก็จะเป็นเรื่องจาก Comic ของ DC มีฉากแอคชั่นตระการตา และ การเข้าถึงบทบาทมาก ๆ ของ ฮีธ เลดเจอร์ นักแสดงที่ล่วงลับ ถือเป็นหลักฐานของวงการภาพยนต์ ว่าเค้าเป็นที่สุดในการแสดงเป็น Joker เช่นกันค่ะ
ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นบทอาชญากรคู่ปรับของแบทแมนที่ดาร์กสุด ๆ ผนวกเข้ากับเนื้อหาที่ซับซ้อนผสมดราม่า ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีจากหลายสำนักไปอย่างไม่ต้องสงสัย
Source : 1
4. Clueless (1995)
หนึ่งในหนังที่เรียกได้ว่า ใคร ๆ ก็ต้องเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง สำหรับหนังอเมริกัน ที่มีความ iconic สูงมาก ๆ โดยเนื้อเรื่องจะเป็นความน่ารัก วุ่นวาย ของเหล่าวัยรุ่นในโรงเรียนไฮสคูล และเป็น meme เป็นคำพูด หรือ การลอกเลียนการแต่งตัวจากหนังเรื่องนี้ ก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความสำเร็จอย่างมากเลยล่ะ
และด้วยบทบาทที่เต็มไปด้วยลูกเล่นแพรวพราว สะท้อนมุมมองของนักเรียนไฮสคูลในยุคนั้นได้อย่างดี เลยไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมตัวละครเอกอย่าง แชร์ ฮอโรวิตส์ จะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความคูลของชีวิตลูกคุณหนู ที่ยังมีอิทธิพลต่อสังคมอเมริกันและเด็กไฮสคูลครึ่งค่อนโลก!!
Source : 1
5. The Matrix (1999)
ไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็คงไม่ได้เช่นกันค่ะ The Matrix นั้นเป็นหนังดังในยุค 90 ที่ผู้คนต่างฮือฮา ตื่นตัว สำหรับการใช้ computer และ เทคโนโลยีใหม่ ๆ และตัวหนังก็ทำเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ โลกแห่งอนาคต และมนุษย์ทำสงครามกับหุ่นยนต์ แน่นอนว่า เนื้อเรื่องอาจจะฟังดูธรรมดา แต่ด้วยการกำกับ ฉากแอ็คชั่น นักแสดง มันดีไปหมด ทำให้หนังเรื่องนี้ขึ้นหิ้งโดยไม่มีคำถามเลยล่ะ
การันตีความดังด้วยแฟชั่นชุดดำ-แว่นตาดำ ที่กลายเป็นเครื่องแต่งกายยอดนิยม และฉากหลบกระสุน Bullet Time ในตำนาน
Source : 1
6. In the Mood for Love (2000)
หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยายของ หลิว ยี่ฉาง จากปกชื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษคือ อินเตอร์เซ็กชั่น หรือ เส้นสองเส้นตัดผ่านกัน อีกนัยหนึ่งคือ ชะตาชีวิตของคนสองคนที่บังเอิญมาประสบพบเจอกันในช่วงเวลาหนึ่งเวลาใด พิมพ์ครั้งแรกในปี 1972 นักเขียนผู้นี้มีภูมิหลังคล้ายกับ หว่อง การ์ไว เป็นชาวเซี่ยงไฮ้โดยกำเนิดก่อนอพยพไปตั้งถิ่นฐานทำมาหากินที่ฮ่องกง
Source : 1
7. Forrest Gump (1994)
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนิยายเรื่อง “Forrest Gump” ที่แต่งโดย วินส์ตัน กรูม ได้รับการจัดอันดับเป็นภาพยนตร์อเมริกันที่ดีที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มไอคิวต่ำกว่ามาตรฐาน จากอลาบาม่า ที่มีนิสัยน่ารักและมีจิตใจดี ในภาพยนตร์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1950 – 1970 จากคนร่างกายพิการไปเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล เป็นทหารในสงครามเวียดนาม
Source : 1
8. Jurassic Park (1993)
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ได้แก่ นักบรรพชีวินวิทยา ดร. อลัน แกรนท์ (แซม นีล) กับแฟนสาว ดร. แอลลี่ (ลอร่า เดิร์น) และนักคณิตศาสตร์ ดร. เอียน มัลล์คอม (เจฟฟ์ โกลด์บลุม) ได้รับคำเชิญจากมหาเศรษฐีจอห์น แฮมม่อนด์ (ริชาร์ด แอทเทนบอรอจ) เพื่อมาเยี่ยมชม จูราสสิค พาร์ค เป็นคณะแรก แฮมมอนด์ต้องการทราบความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้และเพื่อรับรอง ความปลอดภัยของสถานที่แห่งนี้ ขณะที่ทั้งหมดกำลังเยี่ยมชมกันอยู่นั้น เดนนิส เนิร์สลี่ย์ (เวย์น ไนท์) ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ของ พาร์คก็ได้ยกเลิกระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดออกเพื่อแอบเอาตัวอ่อน (Embryo) ของไดโนเสาร์หนีไปขาย ไดโนเสาร์ทั้งหมดก็อาละวาด เพราะกรงไฟฟ้าทำงานไม่ได้ อลันกับทิม หลานชายและ เล็กซ์ หลานสาวของแฮมม่อนด์ติดอยู่ในป่า ทั้งหมดต้องเอาชีวิตรอดจากสัตว์ดึกดำบรรพ์เหล่านี้
Source : 1
9. Mulholland Drive (2001)
นี่เป็นหนังสุดเจ๋งในด้านของบทภาพยนตร์ และ การใช้ภาษาทางภาพยนตร์มาเล่าเรื่องหนังในตระกูลฟิล์มนัวร์เรื่องนี้มีความสนุก ชวนติดตาม เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ ความซับซ้อนและความเชื่อมโยงที่เกิดอย่างจงใจของผู้กำกับเป็นหนังที่ดูหลายรอบยิ่งสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมกับฉาก Lesbian sex อันลือลั่นและฉาก masturbate อันน่าตื่นตะลึงของเธอความซับซ้อนอันสุดเจ๋งคือ หนังแบ่งเป็น 2 ส่วน ไม่เพียงสองส่วนนี้จะเป็นคนละมิติกัน แต่มันก็มีความเชื่อมโยงกันมีความต่อเนื่องกัน แถมส่วนหลังยังเล่าเรื่องแบบไม่ลำดับเวลา ดังนั้นชื่อตัวละครหนึ่งตัว อาจมีคนแสดงสองคน หรือ นักแสดงหนึ่งคน กลับมีตัวตน 2 ตัวตน
Source : 1
10. 10 Things I Hate About You (1999)
คาเมรอน (รับบทโดย โจเซ็ป กอร์ดอน-เลวิตต์ )
หลงรัก บิอังกา (รับบทโดย ลาริซา โอเลย์นิก)
แต่บิอังกา ถูกห้ามไม่ให้นัดเดทกับชายใด
ถ้า แคท (รับบทโดย จูเลีย สไตลส์) พี่สาวของเธอ ไม่ได้ทำเช่นกัน
คาเมรอน จึงหาทางทำให้แคทมีแฟนโดยเร็วที่สุด
โดยหลอกให้ โจอี้ (รับบทโดย แอนดริว คีแกน) ซึ่งหมายตาบิอังกาอยู่เช่นกัน
ไปว่าจ้าง แพทริค (รับบทโดย ฮีธ เลดเจอร์) หนุ่มหัวรั้นที่สุดในโรงเรียน
มาเป็นผู้พิชิตใจแคทให้ได้
Source : 1
Credit https://www.wongnai.com/
Comments
Stay connected