ในสภาวะการณ์แบบนี้ ทั้งโรคระบาด ทั้งเศรษฐกิจ บางคนก็ต้องทำงานที่บ้าน ก็ต้องรู้สึกเฉา ท้อแท้ แถมยังพบเจอข่าวหดหู่ไม่เว้นแต่ละวัน จนหลาย ๆ คนเกิดอาการ ” หมดไฟในการใช้ชีวิต ” รู้สึกไม่อยากทำอะไรเลย เอื่อย ๆ เนือย ๆ เรามาดูกันค่ะ ว่าต้องกระตุ้นไฟยังไงดี ให้รู้สึกมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไป
หมดไฟในการใช้ชีวิต กระตุ้นไฟยังไงดี มาหาทางออกกัน
อาการหมดไฟนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกคนค่ะ ยิ่งในสภาวะแบบนี้ ที่ออกไปใช้ชีวิตก็ไม่ได้ แถมยังต้องพบเจอกับความเครียดในหลาย ๆ ทาง รวมไปถึงความกังวลในเรื่องต่าง ๆ ทำให้หลายคนเกิดอาการหมดไฟได้ ซึ่งภาวะหมดไฟถือว่าเป็นโรคอย่างหนึ่งเลยนะคะ เรามาทำความรู้จักภาวะหมดไฟกันก่อนค่ะ
อันที่จริงแล้ว ภาวะหมดไฟมักเกิดจากการทำงานที่หนักจนเกินไป เกิดเป็นความเครียด เหมือนการใช้ทรัพยาการร่างกายมากเกินไป แต่ไม่ได้เติมเชื้อไฟ จนเกิดภาวะ Burnout Syndrome ซึ่งอาจจะนำไปสู่โรคอื่น ๆ ได้ ซึ่งนอกจากการทำงานแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ ที่รอบตัวมีแต่ความเครียด ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ก็ทำให้เกิดอาการหมดไฟในการใช้ชีวิตได้เช่นเดียวกัน แปลว่าความเครียดที่เกิดขึ้นมากเกินไป ก็อาจจะกระทบต่อชีวิต ไม่เพียงแต่เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น
ซึ่งอาการของภาวะหมดไฟนี้ก็คือ รู้สึกหมดพลังงาน หมดพลังใจ ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำสิ่งใด ความสามารถในการจัดการเรื่องต่าง ๆ แย่ลง อยากออกจากสถานที่เดิม ๆ ที่ทำให้เครียด และเมื่อไม่สามารถไปไหนได้ ก็ไม่อยากทำอะไร อยากอยู่เฉย ๆ วนลูปไปเรื่อย ๆ นานไปอาจรุนแรง จนเกิดเป็นโรคสภาวะทางจิต หรือโรคซึมเศร้าได้เลยทีเดียว
หมดไฟ แก้ยังไงดี
พอเราหมดไฟ เราก็รู้สึกเอื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ดังนั้นเราจึงต้องมาหาวิธีสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองก่อน เพื่อให้เรารู้สึกกลับมามีไฟ ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้ค่ะ
1. นอน พักสมองก่อน
เพราะว่าเราเจอเรื่องหนัก ๆ มามาก โดยเฉพาะหนักสมอง ดังนั้น การนอนจะเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าเป็นการหนีปัญหาด้วยการนอนนะคะ แต่ขณะที่เราหลับ ร่างกายเราได้ผ่อนคลาย และหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ มากมาย เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) เป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น มีพลังต่อสู้ พร้อมรับมือกับปัญหาระหว่างวัน และ ดีเอชอีเอ (DHEA : Dehydroepiandrosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนต้านความเครียด ดังนั้น ถ้ารู้สึกเหนื่อย เบื่อ เครียด ไม่อยากทำอะไรแล้ว ลองไปงีบสัก 1 – 2 ชั่วโมง จะทำให้สดชื่นขึ้น และรู้สึกพร้อมจะเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นค่ะ
2. ถามใจว่าอยากทำอะไร แล้วให้เวลากับสิ่งที่ชอบ
พอเราหมดไฟหนัก ๆ เข้า อาการที่เกิดขึ้นคือ ไม่อยากทำอะไรเลย แต่ลองถามใจตัวเองดูก่อนค่ะ ว่าในสภาวะแบบนี้ ซิสอยากทำอะไร เอาแบบอยากทำจริง ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองเฉานะ ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่ซิสชอบก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นดูซีรี่ส์ นั่งวาดรูป เล่นดนตรี เล่นเกม ทำอาหาร ในตอนนี้อะไรที่ทำที่บ้านได้ ให้เวลากับมันเลยค่ะ สักวันละ 2 -3 ชั่วโมง โดยไม่ต้องคิดเรื่องอื่น ๆ เลยนะ เอนจอยกับมันไปเลย เมื่อได้ใช้เวลาคุณภาพกับสิ่งที่เราชอบ ก็จะช่วยให้เรามีแรงต่อสู้กับเรื่องหนักๆ อื่นๆ ในชีวิตต่อไป
3. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
ลองตั้งเป้าหมายกับตัวเองให้ชัดเจนค่ะ ว่าในสถานการณ์แบบนี้ เรามีเป้าหมายอะไรในชีวิตบ้าง เพราะการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน จะช่วยทำให้เราเห็นภาพ และไล่เรียงออกมาได้เป็นส่วน ๆ ว่าต้องทำอะไร อย่างไร ให้เสร็จเมื่อไร ซึ่งจะช่วยลดความกังวล และอาการเบื่อหน่ายไปได้เหมือนกัน เพราะเรารู้ว่าจะต้องทำอะไร ยังไง และรู้ว่ามันจะทำสำเร็จแน่ ๆ ถ้าทำตามขั้นตอน ไม่ใช่รอแบบไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไร การตั้งเป้าหมายในแต่ละเรื่องจะทำให้เรามีกำลังใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกเยอะเลย
4. หาความรู้ใหม่ ๆ
มี 2 สาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกเบื่อและนอยด์ นั่นคือเราอยู่กับอะไรเดิม ๆ เลยเป็นความรู้สึกจำเจ ไม่อยากทำสิ่งเดิม ๆ กับอีกสาเหตุหนึ่งคือ เรารู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ พอทำอะไรก็ไม่ดี ก็เลยพาลไม่อยากทำไปซะงั้น ดังนั้น ลองหาความรู้ใหม่ ๆ บ้าง ในสิ่งที่เราสนใจ และไม่เคยทำมาก่อน หรือเป็นสิ่งที่เราพอมีความรู้อยู่บ้าง แต่อยากพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยอาจจะค้นหาจากอินเตอร์เน็ต หาคอร์สเรียนออนไลน์ การหาความรู้ใหม่ ๆ โดยที่เราไม่ได้คาดหวังกับตัวเอง จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และอาจจะเจอสิ่งที่ชอบใหม่ ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีกด้วยนะ
5. หาแรงบันดาลใจ จากความสำเร็จของคนอื่น
เวลาที่ดูคนอื่นประสบความสำเร็จ อย่าดูแล้วเอาแต่อิจฉานะคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะเข้าสู่โรคชอบเปรียบเทียบได้ แต่ให้ดูแล้วนำมาเป็นแรงฮึดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนระดับโลกที่ชำนาญในเรื่องที่เราสนใจ หรือคนใกล้ตัว เช่น หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสมัยเรียน พ่อแม่พี่น้อง ครอบครัว หรือแม้แต่พวก Influencer ในอินเตอร์เน็ตก็ได้ ดูว่าเขาทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จ แล้วลองนำมาเป็นแนวทาง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง เราทั้งหมดเป็นคนเหมือนกัน เราสามารถมีแรงฮึดได้ และพยายามคว้าทุกโอกาสได้ ลองให้กำลังใจตัวเองแบบนี้ จะยิ่งเพิ่มไฟให้ตัวเองได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
ซิสเข้าใจดีค่ะ ว่าสถานการณ์แบบนี้ ทำให้เราหมดไฟกันง่ายสุด ๆ ไม่ว่าจะเรื่องการทำงาน การใช้ชีวิต การโหยหาความประสบความสำเร็จ ตอนนี้ก็เหมือนไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรเลย แต่ซิสขอเป็นกำลังใจ ให้น้องซิสทุกคนสู้ ๆ นะคะ ผ่านวิกฤติทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน และอย่าลืมเติมไฟให้ตัวเองบ้าง จะได้มีแรงสู้กับสิ่งที่ต้องเจอในแต่ละวันต่อไป
ข้อมูลจาก IG : sharediii, www.mangozero.com, www.bdmswellness.com
Credit Pictures from favim.com, www.tumgir.com, www.wattpad.com, sadistria.blogspot.com, IG : sooviin38, weheartit.com, aminoapps.com
Stay connected