เรื่องการอาบน้ำ บางทีก็เป็นความชอบส่วนตัว ว่าไหมคะ? บางคนก็ชอบอาบน้ำอุ่น บางคนก็ชอบอาบน้ำเย็น โดยมีหลายทฤษฎีที่แนะนำแตกต่างกันออกไป บ้างก็บอกว่า อาบน้ำเย็นดีกว่า บ้างก็บอกว่า อาบน้ำอุ่นดีกว่า งั้นเรามาหาทั้งข้อดีและข้อเสียกันชัด ๆ ดีกว่าค่ะ ว่า อาบน้ำอุ่น VS อาบน้ำเย็น แบบไหนดีต่อใจ ดีกับผิวมากกว่า

 

อาบน้ำอุ่น VS อาบน้ำเย็น อาบน้ำอุณหภูมิไหนดีกับผิวมากกว่ากัน

 

หลาย ๆ ที่ชอบบอกว่า การอาบน้ำเย็นจะทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่าน้ำอุ่น ส่วนการอาบน้ำอุ่นจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และร่างกาย ได้ดีกว่าน้ำเย็น แต่ไม่เพียงแค่นี้ เพราะทั้งน้ำอุ่น และน้ำเย็น ต่างก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย อีกมากมาย มาดูกันค่ะ ว่าถ้าเทียบน้ำอุ่นกับน้ำเย็น ควรอาบน้ำอุณหภูมิไหนดี

 

อาบน้ำเย็น

น้ำเย็นที่พูดถึงไม่ใช่น้ำเย็นเจี๊ยบแบบผสมน้ำแข็งอะไรขนาดนั้นนะคะ เพราะอุณหภูมิที่เหมาะสมของน้ำเย็นที่ดีต่อร่างกายก็คือ 27 องศาเซลเซียส ซึ่งจะไม่เย็นจนเกินไป ไม่ทำให้ป่วยแน่นอน

อาบน้ำอุ่น VS อาบน้ำเย็น

ข้อดีของการ “อาบน้ำเย็น”

1. สดชื่น กระปรี้กระเปร่า – เพราะความเย็นจากน้ำ จะกระตุ้นให้ร่างกายที่กำลังเหนื่อยล้า หรือกำลังง่วงงุน ให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้ เหมือนเวลาที่เราเหนื่อย ๆ แล้วได้ดื่มน้ำเย็น ๆ ก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นมา การอาบน้ำเย็นก็ช่วยปลุกร่างกายได้เช่นเดียวกันค่ะ

2. ช่วยเผาผลาญไขมันสะสม – เชื่อไหมคะ ว่าการอาบน้ำเย็น สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึง 500 แคลอรี่เลยทีเดียวนะ ไม่ต้องสงสัยไปค่ะ เพราะว่าเวลาที่เราอาบน้ำเย็นเนี่ย อุณหภูมิในร่างกายของเราก็จะลดลง ร่างกายของเราก็จะมีการเผาผลาญพลังงานที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้อุณหภูมิของร่างกายของเรากลับมาคงที่เหมือนเดิม นั่นแปลว่า การอาบน้ำเย็นจะช่วยให้เราหุ่นดีขึ้นได้นะ

3. ทำให้ผิวเนียนเรียบ กระชับรูขุมขน – เพราะการอาบน้ำเย็น ทำให้รูขุมขนปิด จึงทำให้ผิวของซิสเนียนเรียบมากกว่าการอาบน้ำอุ่นค่ะ

4. ผิวมีความชุ่มชื้น – อย่างที่ซิสหลาย ๆ คนรู้มาว่า อาบน้ำเย็น ผิวจะชุ่มชื้นกว่าการอาบน้ำอุ่น นั่นเพราะความเย็นจากน้ำเย็นจะไม่ดึงความชุ่มชื้นในผิวให้ระเหยออกจากผิว แต่ยังคงเก็บความชุ่มชื้นในผิวไว้ ดังนั้นจึงทำให้ผิวชุ่มชื้นค่ะ

5. ช่วยลดอาการซึมเศร้า – ใครที่กำลังหดหู่อยู่ ลองอาบน้ำเย็นดูค่ะ เพราะเมื่อน้ำเย็นกระทบกับผิว จะส่งแรงกระตุ้นจำนวนมากจากปลายประสาทไปสู่สมอง ซึ่งให้ผลใกล้เคียงกับยารักษาโรคซึมเศร้าเลยทีเดียว โดยจะทำให้ผู้ป่วยสงบจิตใจลง และลดอาการซึมเศร้าได้

อาบน้ำอุ่น VS อาบน้ำเย็น

ข้อเสียของการอาบน้ำเย็น

1. ถ้าร่างกายอ่อนแอ อาจช็อคได้ – เวลาที่ร่างกายของเราอ่อนแอ เช่น อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงมาก ๆ อย่าง เป็นไข้ ซึ่งร่างกายก็ถูกไวรัสโจมตีอยู่แล้ว ยิ่งถ้าไปอาบน้ำเย็น จะทำให้อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงอาจทำให้เกิดการช็อคได้

2. ถ้าน้ำเย็นเกินไป ก็ทำให้ไม่อยากอาบน้ำ – แน่นอนค่ะ ว่าถ้าอากาศเย็น ๆ แล้วต้องไปอาบน้ำเย็นอีก ก็คงทำให้หนาวน่าดู และนั่นทำให้เรารู้สึกไม่อยากอาบน้ำไปโดยปริยาย

 

 

อาบน้ำอุ่น

น้ำอุ่นที่ซิสพูดถึงก็ไม่ใช่น้ำที่อุ่นจนร้อนจี๋นะคะ เพราะซิสหลาย ๆ คนชอบอาบน้ำร้อน ๆ แต่อุณหภูมิของน้ำอุ่นที่อยากจะแนะนำคือ 37 องศาเซลเซียล ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงกว่าร่างกายเพียงเล็กน้อย น้ำอุ่นอุณหภูมิเท่านี้จะดีต่อร่างกาย กำลังสบายผิว และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ดีค่ะ

อาบน้ำอุ่น VS อาบน้ำเย็น

ข้อดีของการ “อาบน้ำอุ่น”

1. ลดอาการเหนื่อยล้า ลดความเครียด – อุณหภูมิที่อุ่นของน้ำจะช่วยลดความเหนื่อยล้าของร่างกายได้ และยังช่วยลดความเครียดได้ด้วย โดยเฉพาะหากน้ำแช่น้ำอุ่นที่หยดน้ำมันอโรมาหอม ๆ นานสัก 30 นาที จะช่วยไล่ความเหนื่อยล้าและความเครียดไปได้ชะงัดเลยทีเดียว

2. ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น – ความอุ่นจากน้ำจะช่วยทำให้ระบบเลือดในร่างกายไหลเวียนดีขึ้น เมื่อเลือดลมไหลเวียนดี ก็จะทำให้ผิวพรรณแลดูเปล่งปลั่งมากขึ้น และสำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือน เมื่อการไหลเวียนของเลือดดี จะส่งผลดีต่อมดลูก ลดอาการเกร็งของมดลูก และลดอาการปวดท้องที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน

3. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อยของร่างกาย – น้ำอุ่นจะช่วยให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งอยู่นั้นคลายตัวได้ดีขึ้น ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ  เมื่อกล้ามเนื้อผ่อนคลาย อาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ก็จะทุเลาลงไปด้วย

4. ช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้ทำความสะอาดผิวได้ดี – เพราะอุณหภูมิที่สูงของน้ำ จะช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในผิว ไม่ว่าจะฝุ่นละออง มลพิษ คราบเหงื่อไคลต่าง ๆ ก็จะหลุดออกมาง่ายขึ้น แถมน้ำอุ่นจะทำให้เรารู้สึกสบายผิว จนสามารถอาบนาน ๆ ได้ เลยไม่รีบร้อนที่จะขัดสีฉวีวรรณ

5. ทำให้นอนหลับสบาย – อย่างที่บอกข้างต้นว่า การอาบน้ำอุ่นจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายความเครียด ทำให้เลือดไหลเวียนดี ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ร่างกายทั้งหมดผ่อนคลาย และนอนหลับสบายมากขึ้นนั่นเอง

อาบน้ำอุ่น VS อาบน้ำเย็น

ข้อเสียของการ “อาบน้ำอุ่น”

1. ผิวแห้งกร้าน ไม่ชุ่มชื้น – น้ำอุ่นนั้นมีอุณหภูมิสูง จึงดึงความชุ่มชื้นออกไปจากผิวด้วย ดังนั้นหากอาบน้ำอุ่นเป็นประจำทุกวัน ก็จะยิ่งทำให้ผิวแห้งกร้าน ไม่ชุ่มชื้น

2. อาบน้ำอุ่นหลังเล่นกีฬา อาจทำให้อ่อนเพลียมากกว่าเดิม – อย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าน้ำอุ่นจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวและร่างกาย การอาบน้ำอุ่นหลังเล่นกีฬา ที่ร่างกายเพิ่งสูญเสียเหงื่อมา อาจทำให้ร่างกายยิ่งอ่อนเพลีย เพราะสูญเสียน้ำมากกว่าเดิม เพราะน้ำระเหยออกไปจากผิว

 

อาบน้ำอุ่น VS อาบน้ำเย็น

สรุป

น้ำทั้งสองอุณหภูมิมีข้อดีต่อผิวที่แตกต่างกันไปค่ะ เพราะน้ำเย็นจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน และทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย ในขณะที่น้ำอุ่นนั้น จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ตามรูขุมขนได้ดี ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้น และนอกจากนี้ การอาบน้ำทั้งสองอุณหภูมิยังมีข้อดีที่แตกต่างกัน จึงควรสลับกันอาบค่ะ นอกจากนี้ หากต้องการให้ผิวสวยชุ่มชื้น สิ่งสำคัญเลยคือต้องไม่ลืมที่จะทาโลชั่นหลังการอาบน้ำ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ใต้ผิว

 

เห็นข้อดีของการอาบน้ำแล้ว ทีนี้ใครที่ขี้เกียจอาบน้ำ ต้องคิดใหม่นะคะซิส เพราะไม่เพียงแต่เป็นการทำความสะอาดร่างกาย แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพในอีกทางหนึ่งด้วย 

 

ข้อมูลจาก www.chiangmainews.co.th, Wongnai Beauty, Sanook, www.silkspan.com

Credit Pictures from theskincareculture.com, lovely–delight.tumblr.com, www.totalbeauty.com, www.hellofashionblog.com, juliaberolzheimer.com, www.brit.co, www.shopparadox.com

Comments

comments