สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Netflix ได้นำภาคต่อของอนิเมะที่เรียกได้ว่าสร้างเสียงฮือฮาและเป็นมหากาพย์สร้างฐานแฟนคลับไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่น, ประเทศไทย หรือเอซีย แต่ลามไปถึงโซนตะวันตกเลย เรียกได้ว่าติดอันดับ Top 10 กันเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้นอีกไม่กี่วันก็จะจบซีซั่นใหม่ที่เปรียบเสมือนโค้งสุดท้ายของเรื่องกันแล้ว วันนี้ Clubsister ขออนุญาตแนะนำและชวนสาวๆ มาทำความรู้จักอนิเมะระดับชาติกันกับ “Attack on Titan อนิเมะ ชื่อดังแห่งชาติ!! มีดียังไงทำไมคนถึงติด?” ตามมาดูกันว่าทำไมกันนะคนทั่วบ้านทั่วเมืองถึงติดงอมแงม อย่ารอช้าไปเริ่มกันเลยค่า
“Attack on Titan อนิเมะ ชื่อดังแห่งชาติ!! มีดียังไงทำไมคนถึงติด?”
เรื่องย่อและที่มา:
Attack on Titan ที่สร้างเสียงฮือฮาและฐานแฟนคลับทั่วโลก เดิมทีเป็นมังงะที่มีชื่อว่า Shingeki no Kyojin เป็นมังงะแนวแอคชั่น, แฟนตาซี, โศกนาฏกรรม และ ดิสโทเปีย ซึ่งถูกวาดและเขียนโดยอาจารย์ Hajime Isayama (อิซะยะมะ ฮะจิเมะ) เรื่องราวพูดถึงโลกในอีกโลกหนึ่งที่ในโลกใบนี้ถูกห้อมล้อมด้วยกำแพง คนบนโลกอาศัยอยู่ในกำแพงเนื่องจาก ภายนอกกำแพงนั้นเป็นไปด้วยเหล่ายักษ์กินมนุษย์ที่มีหน้าตาคล้ายกับมนุษย์ยักษ์โดยมีชื่อว่า “ไททัน” เด็กๆ กลุ่มหนึ่งในประเทศนี้โดยมีชื่อว่า “เอเรน”,“มิคาสะ” และ “อาร์มิน” มีความฝันว่าอยากจะออกไปนอกกำแพงเพื่อพบเจอโลกที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นทะเลทรายหรือน้ำพุร้อน ว่ามันเป็นอย่างไร
วันเวลาผ่านไปสิ่งที่พวกเขาทำได้มีแต่การเฝ้ามองก้อนเมฆที่ลอยไปมาเท่านั้น แต่ในขณะที่เอเรนกำลังเฝ้ามองท้องฟ้าใน ยามว่างอยู่ จู่ๆ ก็มีไททันยักษ์ที่สูงเหนือกำแพง ทะลายกำแพงเสียหาย ทำให้ไททันตัวอื่นๆ บุกเข้าโจมตีเมืองพร้อมคร่าชีวิตคนและประชากรในเมืองนั้นจนหมดสิ้น แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องราวและโศกนาฎกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นนั้น มาจาก มีไททันตนหนึ่งพังบ้านของเอเรนและจับคุณแม่ ของเขากินต่อหน้าต่อตา นับตั้งแต่วันนั้นทำให้เอเรนพร้อมด้วยมิคาสะและอาร์มิน ตั้งเป้าว่าจะเป็นทหารในหน่วยสำรวจ เพื่อฆ่าและทำลายล้างไททันให้พินาศ พร้อมทำตามความฝันในวัยเด็กที่ว่า “ชีวิตแห่งอิสรภาพนอกกำแพงมันเป็นยังไง”
ทั้งหมดนี้คือเรื่องย่อของ Attack on Titan ในวินาทีนี้ แต่สาวๆ รู้ไหมคะว่า อะไรคือแรงบันดาลใจของนักเขียนที่ทำให้เกิดไอเดียการสร้างเรื่องราวที่ทำให้มีแฟนคลับและนักอ่านชื่นชอบกันทั่วโลก โดยอาจารย์อิซะมะยะ ได้เคยให้สัมภาษณ์ ถึงแรงบันดาลใจในการแต่งอนิเมะเรื่องนี้นั่นก็คือ บ้านเกิดของอาจารย์ ณ จังหวัดโอยามะ เมืองฮิตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยอาจารย์เคยให้สัมภาษณ์ว่า ถึงแม้แนวเรื่องหรือ Setting ต่างๆ ในเรื่องจะโอนเอียงไปทางเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบ, ชื่อตัวละคร หรือวัฒนธรรมบางอย่าว
แต่เดิมทีแล้ว สิ่งที่ทำให้อาจารย์เริ่มเขียนเรื่องนี้คือ ความจริงในใจตอนเด็กๆ ที่อยากออกจากบ้านเกิดที่ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขา และ เขื่อน อาจารย์บอกว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เขาและคนในเมืองโอยามะ ถูกปิดกั้นความเจริญและสิ่งแปลกตาแปลกใจต่างๆ จากข้างนอก นั่นจึงทำให้เกิดความคิดที่อยากเป็นอิสระและพบเจอโลกภายนอกกับเขาบ้าง
ส่วนแรงบันดาลใจในการสร้างยักษ์ไททันนั้น มาจากวันหนึ่งในขณะที่อาจารย์กำลังนั่งทำงานในร้านอิเตอร์เน็ต อยู่ๆ ก็มีคนเมาเดินเข้ามาพร้อมหาเรื่องอาจารย์เอง โดยที่อาจารย์พยายามพูดกับเขาดีๆ แต่เขาก็ไม่เข้าใจ นั่นจึงทำให้อาจารย์กลัวมาก “เพราะสิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่การกลัวถูกทำร้าย แต่เป็นการพยายามสื่อสารกับคนที่เหมือนกัน แต่เขาไม่เข้าใจ” นั่นเอง
**คำเตือนบทความต่อไปนี้ มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญบางอย่าง หากใครยังไม่ได้รับชมโปรดหลีกเลี่ยง
และก่อนที่จะเข้าเนื้อเรื่องแบบเจาะลึกของ Attack on Titan เราขอแนะนำตัวละครที่สำคัญๆ ของเรื่องกันก่อน
ตัวละครที่ 1: เอเรน เยเกอร์
เด็กชายที่อาศัยอยู่ในครอบครัวประกอบด้วยพ่อที่เป็นคุณหมอ แม่บ้าน และ มิคาสะ เด็กสาวคนหนึ่งที่พ่อและแม่ของเขาตั้งใจรับเลี้ยงเอาไว้ ในวันหนึ่งที่เอเรนกำลังมองท้องฟ้าเหมือนปกติที่เคยทำ จู่ๆ ก็มีไททันยักษ์ที่สูงกว่ากำแพงปรากฏตัวขึ้น ทำให้เกิดการบุกของเหล่าไททันตัวอื่นๆ แม่ของเอเรนของไททันกินเข้าไปต่อหน้าต่อตาของเขา บวกกับพ่อของเขาหายตัวไปอย่างสาบสูญ ด้วยเหตุนี้ทำให้เอเรนตั้งใจจะเป็นทหารในหน่วยสำรวจ เพื่อค้นหาคำตอบว่าโลกนอกกำแพงคืออะไร และ ฆ่าล้างไททันทุกตัว เพื่อล้างแค้นให้แม่กับเมืองเกิดของเขาเอง
ตัวละครที่ 2: มิคาสะ อัลเคอร์แมน
เด็กหญิงผู้รอดชีวิตจากการโดนโจรป่าลักพาตัวและฆ่าคนในครอบครัวของเธอ เพื่อหวังว่าจะลักพาตัวเธอไปขายให้กับคนในตลาดมืด แต่ทว่าเอเรน เด็กหนุ่มที่กำลังเดินทางไปกับพ่อของเขา คุณหมอเยเกอร์เพื่อรักษาอาการป่วยของคนในครอบครัวของเธอนั้น เข้าช่วยชีวิต พร้อมปลุกแรงบันดาลใจและเหมือนตัวช่วยให้เธอได้มีชีวิตอีกครั้งกับคำพูดที่ว่า “สู้ซิ ไม่สู้จะชนะได้ยังไง” ด้วยเหตุนี้ทำให้เอเรนและมิคาสะฆ่าโจรที่ลักพาตัวเธอได้ แต่ทว่าเธอต้องสูญเสียครอบครัวและไม่มีที่ไป ทำให้คุณหมอเยอเกอร์ตัดสินใจ รับเลี้ยงเธอไว้เหมือนคนในครอบครัวอีกคนหนึ่ง สำหรับมิคาสะแล้ว เอเรนเปรียบเสมือนคนที่รัก, คนที่อยากให้อยู่เคียงข้าง และครอบครัวคนสุดท้ายที่เหลืออยู่
ตัวละครที่ 3: อาร์มิน อาร์เลิท
เพื่อนสนิทของเอเรนและมิคาสะ เด็กหนุ่มในนัยย์ตาสีฟ้า หน้าหวาน (ขวัญใจและเป็นตัวละครตัวโปรดของนักเขียน) เขาอาศัยอยู่กับคุณปู่เพียงลำพัง ฐานะของบ้านอาร์มินนั้นยากจน แต่ทว่าเขาเป็นคนฉลาด ชอบใฝ่รู้ ช่างสังเกตและชอบอ่านหนังสือเป็นที่สุด ด้วยเหนังสือเล่มนึงที่อาร์มินได้จากคุณปู่นั้น ทำให้เขาได้รู้ว่าโลกภายนอกกำแพง มีสิ่งต่างๆ มากมาย มีสิ่วที่เรียกว่าทะเล เต็มไปด้วยน้ำและเมื่อมองลาดยาวไปเรื่อยๆ จะเห็นเส้นขอบฟ้า, มีทะเลทราย และมีบ่อน้ำที่ร้อนเหมือนไฟ
เพราะด้วยความที่เป็นเด็กเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา แถมยังถือหนังสือไปมา ทำให้อาร์มินโดนแกล้งอยู่บ่อยๆ แต่ก็มีเพื่อนอย่างเอเรน และมิคาวะ คอยช่วยเหลือพวกเขาตลอดเวลา และด้วยเหตุผลที่ว่าอยากเห็นโลกนอกกำแพง ทำให้อาร์มินตั้งใจจะเป็นทหารในหน่วยสำรวจเหมือนเอเรนและมิคาสะ
ตัวละครที่ 4: คุณหมอกรีชา เยเกอร์
หรือคุณพ่อของเอเรน เป็นคุณหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองกำแพง เขาเป็นคุณหมอที่จิตใจดี แต่ทว่าก่อนที่เขาจะหายสาบสูญไปในช่วงโกลาหลไททันบุกเมือง เขาได้บอกกับเอเรนถึงห้องใต้ดินที่บ้าน พร้อมทิ้งกุญแจไว้ให้เขา พร้อมบอกว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะต้องกลับมาห้องใต้ดินของบ้านนี้ให้ได้” เพราะเขาเก็บความลับของเหล่าไททันเอาไว้
ตัวละครที่ 5: ผู้กองลีไว
ปีศาจร้ายและผู้กองมือฉมังของหน่วยสำรวจ เขาเป็นทหารที่เรียกได้ว่าเก่งและมีฝีมือที่สุดในทีมหน่วยสำรวจ ปราบไททันมาไม่ต่อกว่า 20 ตัวด้วยตัวของเขาเอง เดิมทีเขาเป็นคนมีอดีตที่ค่อนข้างขมขื่น นั่นทำให้เมื่อเขาตัดสินใจเข้าเป็นทหาร เขาจึงพยายามทำทุกอย่าง เพื่อไม่ทำให้ทีมและคนอื่นเสียใจภายหลังเด็ดขาด
ตัวละครที่ 6: ผู้บัญชาการเออร์วิน
ผู้บัญชาการหรือท่านแม่ทัพของเหล่าหน่วยสำรวจ ที่เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีสัญชาตญาณในการวางแผนและทำศึกได้เฉียบขาด มองศัตรูและอ่านเกมได้อย่างแยบยล เขาทำทุกอย่างเพื่อบรรลุถึงเป้าหมาย รวมถึงจะต้องให้ความสำคัญกับเพื่อนพ้อง ในวันที่เอเรนตกเป็นเหยื่อของการเมือง
และกำลังจะโดนตัดสินโทษ เขาเป็นคนที่ให้คำมั่นสัญญากับทางการว่า จะรับเอเรนเข้ามาเป็นสมาชิกหน่วยสำรวจ เพื่อป้องกันและคุ้มครองเอเรนนั่นเอง
รีวิว Attack on Titan:
และก็มาถึงบทความที่รีวิว Attack on Titan อนิเมะแห่งชาติเรื่องนี้กันแล้ว บอกเลยว่าตอนแรกที่เราเริ่มดูนั้น ก็ไม่คาดหวังอะไรเท่าไร แต่พอได้เริ่มดูไปตอนแรกเท่านั้นแหละ หยุดดูไม่ได้อีกเลย Concept ของเรื่องโดยพื้นฐาน อาจมองว่าเป็นอนิเมะที่พูดถึงการสิ้นสุดของโลก โศกนาฎกรรม และความแอคชั่นต่างๆ แต่ทว่าหากมองลึกลงไปนั้น เราจะเห็นความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ภายในเรื่อง ไม่เพียงแค่นั้นจาก Concept และแรงบันดาลใจที่อยากออกจากบ้านเกิดไปใช้ชีวิตสู่โลกภายนอก ดันไปสอดคล้อง ถึงโครงสร้างรากฐานระบอบและระบบทางการเมืองเสียอย่างนั้น เรียกได้ว่าเมื่อเริ่มดูอนิเมะเรื่องนี้ เหมือนกำลังดูการเสียดสีและสะท้อนระบอบทางการเมืองไม่มีผิด
ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งชนชั้น ในประเทศที่เรียกว่าประชาธิปไตย ภายใต้การปกครองโดยบุคคลที่ยิ่งใหญ่, การปลูกฝังความเชื่อและวัฒนธรรม ที่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนลืมหลงลืมความเป็นมนุษยชนไปจนหมดสิ้น หรือแม้กระทั่งเสรีภาพและอิสระการใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์โดยทั่วไป อนิเมะเรื่องนี้สะท้อนสิ่งเหล่านี้ให้เราเห็นผ่านมุมมองและเรื่องราวในเรื่อง
plotterแต่สิ่งที่เราชอบและประทับใจมากที่สุด คงหนีไม่พ้นแก่นเรื่องในซีซั่นสุดท้ายที่ใกล้จะจบนี้ สิ่งที่คนรุ่นก่อนทิ้งไว้ให้เราไม่ใช่แค่วัฒนธรรม, ความเชื่อ หรือ ทรัพยากรต่างๆ แต่ทว่าในบางครั้งเขาได้ฝากบาดแผลที่ยิ่งใหญ่และยากที่จะแก้ไข อย่างคำว่า สงคราม ส่งต่อมายังรุ่นสู่รุ่น สงครามใน ณ ทีนี้อาจจะไม่ใช่ทางรูปธรรมเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาได้ฝากสงครามและความเกลียดชังที่มาพร้อมกันไว้ในจิตใจ จนบางครั้งก็ลืมไปว่า “คนเราทุกคนล้วนเหมือนกัน นั่นก็คือ เราเป็นมนุษย์ที่ต้องการอิสระเหมือนกัน”
สุดท้ายนี้หากใครอยากดู Attack on Titan สามารถรับชมได้ที่ Netflix (คลิกเพื่อรับชม) และใครที่เป็นลูกค้า AIS สามารถรับชมไปได้ที่ AIS Play ได้เลยค่า และพบกันใหม่บทความหน้า จะมีเรื่องอะไรมารีวิว ไว้มาติดตามกันนะ ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้ค่า
Source:
Photo Credit
Stay connected