สวัสดีค่าสาวๆ ชาว Clubsister ที่น่ารักทุกคน ช่วงอยู่เรามีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น เลยได้หยิบจับหนังสือนิยายที่มีอยู่มากขึ้นด้วย พอดูไปดูมา เอ่า! ส่วนใหญ่ที่อ่านเป็นนิยายสืบสวนที่เอามาทำเป็นหนัง เป็นซีรีย์ทั้งนั้นเลยนิหว่า!! วันนี้เราเลยอยากจะแนะนำให้กับสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน และรวมถึงใครที่เป็นคอหนังระทึกขวัญเช่นกัน กับ “จากปลายปากกาสู่ 5 หนังและซีรีส์ระทึกขวัญ ชื่อดัง! ที่คนรักความตื่นเต้นห้ามพลาด!!” เราบอกได้เลยว่าสาวๆ สายหนังสือ หรือสาวคอหนังและซีรีส์ระทึกขวัญไม่ควรพลาด ไปเริ่มกันเลยค่ะ
“จากปลายปากกาสู่ 5 หนังและซีรีส์ระทึกขวัญ ชื่อดัง! รักความตื่นเต้นห้ามพลาด!!”
เรื่องที่ 1: It Chapter 1 – 2
ประเภท: หนัง
สร้างมาจากหนังสื่อเรื่อง: IT
จากนักเขียน: Stephen King
หากใครเป็นแฟนหนังหนังและซีรีส์ระทึกขวัญ ต้องรู้จักเรื่องนี้เป็นอย่างดีแน่นอน “IT” ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากนวนิยายแนว Horror Mystery ของนักเขียนชื่อดังอย่าง Stephen King ซึ่งเคยโด่งดังมาแล้วจากมินิซีรีส์เมื่อปี 1990 พร้อมนำกลับมา Remake ใหม่เป็นสไตล์ภาพยนตร์เมื่อปี 2017 และในตอนนี้ก็ดำเนินมาถึง Chapter 2 หรือ บทสุดท้ายกันแล้ว
ในครั้งนี้เป็นเรื่องราวของเหล่าแก๊งค์ Loser ที่เติบโตขึ้นและเวลาล่วงเลยมา 27 ปี ต่างคนต่างแยกย้ายออกจากเดอร์รี่ เมืองบ้านเกิดพร้อมทิ้งอดีตอันเลวร้ายเอาไว้ แต่ทว่าในวันหนึ่งกลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขาต้องกลับมาเจอกัน พร้อมจำใจต้องทำตามคำมั่นสัญญาสุดท้ายก่อนจากกันในตอนเด็ก และในการกลับมาเดอร์รี่ในครั้งนี้ของพวกเขา ทำให้เขาต้องเจอเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกถึงความเจ๋งของหนังและซีรีส์ระทึกขวัญเรื่องนี้เลย คงหนีไม่พ้นการถ่ายทอดเรื่องราว Coming of Age และ ปมอดีตในวัยเด็ก ความกลัว และความรู้สึกหวั่นไหวต่างๆ ในวัยเด็กที่ส่งผ่านมาถึงตอนโต โดยผ่านการดำเนินเรื่องโดยแก๊งค์ Loser และ แทนความกลัวต่างๆ ผ่าน Pennywise ผีตัวตลกที่คอยตามหลอกหลอนเด็กๆ ได้โดยที่ยังคง Concept หนังระทึกขวัญตามสไตล์ของ King เหมือนเดิม
แต่ทว่าหากเปรียบเทียบกันระหว่างหนังและหนังสือนั้น ส่วนตัวเราชอบในมุมของหนังสือมากกว่า ด้วยรายละเอียด Details เล็กๆ น้อยบางอย่าง รวมถึงเนื้อหาบางส่วนที่ทำให้เราเข้าใจความเป็น Coming of Age ได้ชัดเจนกว่าหนัง
เรื่องที่ 2: The Mist
ประเภท: หนัง
สร้างมาจากหนังสือเรื่อง: The Mist (Novella)
จากนักเขียน: Stephen King
และ หนังและซีรีส์ระทึกขวัญเรื่องถัดไป ซึ่งเป็นเหมือน นิยายเรื่องสั้นสร้างชื่อให้กับ King อีกเรื่องเลยนั่นก็คือ “The Mist” โดยใช้ชื่อไทยว่า “มฤตยูหมอกกินมนุษย์” ถูกสร้างและดัดแปลงมาจากนิยายสยองขวัญจากปลายปากกา ราชาแห่งนิยายสยองขวัญ Stephen King พูดถึงเรื่องราวของ “เดวิด” ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ สุดแสนเงียบสงบ ในวันหนึ่งเขาและลูกชายเดินทางไปซื้อของที่ร้านซุปเปอร์มาเก็ตแถวบ้านตามปกติ
แต่ในวันนี้เขาสังเกตได้ว่ามีลมพายุรุนแรง รวมถึงหมอกที่ค่อยๆ ลงหนาขึ้นเรื่อยๆ และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเดวิดไปถึงร้าน และพบว่าหมอกที่เขาเห็นเริ่มหนา และปกคลุมทั่วพื้นที่ของเมือง ไม่เพียงแค่นั้น ใครก็ตามที่ก้าวเท้าเข้าไปในหมอกนั้นจะต้องตายทุกคน และนั่นทำให้เขาตัดสินใจพาลูกหนีเข้าไปในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อรอเวลา
The Mist เป็นหนังและซีรีส์ระทึกขวัญอีกเรื่องหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นหนัง Twist Plot ที่ขึ้นหิ้งของสาวกคอหนังหรือซีรีส์ระทึกขวัญเลยก็ว่าได้ ด้วยการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างคุม Mood anf Tone ได้ดี ตีแผ่เบื้องลึกและความเป็นมนุษย์ได้ออกมาตามแบบฉบับของ King เลยก็ว่าได้ โดยปกติแล้ว Stephen King จะเป็นนักเขียนแนวระทึกขวัญ ที่ค่อยข้างนำเอาความเป็นมนุษย์หรือความน่ากลัวของมนุษย์ สอดแทรกเข้าไปในเนื้อเรื่องได้ไม่น้อย และทำออกมาได้เป็นอย่างดีเลยก็ว่าได้ และ The Mist ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หากสาวๆ คนไหนที่เป็นคอหนังระทึกขวัญไม่ควรพลาดเป็นที่สุด
เรื่องที่ 3: Gone Girl
ประเภท: หนัง
สร้างมาจากหนังสือเรื่อง: Gone Girl
จากนักเขียน: Gillian Flynn
Gone Girl หนังแนวจิตวิทยา ที่คอแฟนหนังและซีรีส์ระทึกขวัญ ไม่ควรพลาดเป็นที่สุด ถูกสร้างมาจากนิยายแนวสืบสวน สอบสวน, จิตวิทยา ของนักเขียนมือทองที่ไม่ว่าเขียนเรื่องไหนก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ากับ Gillian Flynn ไม่เพียงแค่นั้น ยังจับมือคู่กับผู้กำกับฝีมือร้ายกาจอย่าง David Fincher ด้วยแล้ว ทำให้หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังแนวจิตวิทยาระทึกขวัญที่เพอร์เฟ็คเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ “Gone Gir” เป็นเรื่องราวของ คู่สามี-ภรรยา “นิคและ เอมี่”
ซึ่งจริงๆ แล้วเอมี่เป็นอดีตคนดังจากหนังสือนิยาย เรื่อง Amazing Amy โดยพ่อแม่เธอเขียนอ้างอิงจากไดอารี่ของเอมี่ในวัยเยาว์ จึงทำให้ใครหลายคนเข้าใจว่าเธอเป็นเหมือนผู้หญิงเพอร์เฟ็คและเพรียบพร้อมไปทุกอย่าง
แต่แล้วในวันครบรอบแต่งงาน นิคกลับบ้านมาเห็นสภาพห้องนั่งเล่นที่รกเละเทะ ห้องครัวเหมือนมีคราบเลือดกระเด็น อีกทั้งภรรยายังหายตัวไป ทิ้งไว้เพียงปริศนาคำใบ้ที่เหมือนเกมล่าหาสมบัติเพื่อให้นิคค้นหาตัวเธอที่กำลังเล่นซ่อนหาอยู่เท่านั้น และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นกับประโยคที่ว่า “รักมาก เกลียดมาก”
หากพูดถึงหนังและซีรีส์ระทึกขวัญ และยิ่งยวกกับการสืบสวนสอบสวนแล้วด้วยนั้น บอกเลยว่าไม่มีใครไม่รู้สึก Gone Girl กับ เอมี่ ผู้โด่งดัง (เรียกได้ว่าดังจนเป็น MEME เลยว่า ทำไม Batman ถึงไม่มีแฟน) ด้วยตัวดำเนินเรื่องที่ดูแสนจะธรรมดา แต่แท้จริงแล้วเอมี่เองเป็นหญิงสาวที่มีความฉลาดหลักแหลมแต่แฝงด้วยยาพิษ เพราะการที่เธอสร้างฉากการฆาตกรรมและการลักพาตัวขึ้นมานั้น เธอทำไปเพราะต้องการแก้แค้นสามีของเธอล้วนๆ
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาวิธีการฆาตกรรมมาจากรายการสืบสวนสอบสวน, การสร้างเรื่องราวในชีวิตผ่านการเขียนไดอารี่แบบปลอมๆ, การตีสนิทเพื่อนบ้าน พร้อมเล่าเรื่องภายในบ้านที่ตนทุกข์ร้อนใจให้ฟัง อีกทั้งยังสร้างฉากเพื่อดูเหมือนสามีของเธอนั้นแหละที่เป็นคนลงมือทำ แต่ทว่าเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่เอมี่ทำไปนั้น ไม่ใช่แค่แก้แค้นสามีเธอเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำไปเพื่อต้องการกลับมาเป็น เอมี่ สาวน้อยมหัศจรรย์ที่โด่งดังและต้องการเป็นคนของสังคมอีกครั้งหนึ่ง
เรื่องที่ 4: Sharp Objects
ประเภท: ซีรีส์
สร้างมาจากหนังสือเรื่อง: Shape Objects
จากนักเขียน: Gillian Flynn
หนังและซีรีส์ระทึกขวัญเรื่องถัดไปนี้ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เรียกได้ว่าเฉียบขาดและสร้างชื่อเสียงให้กับนักเขียนฝีมือสุดแพรวพราวอย่าง Gillian Flynn อีกครั้ง โดยในครั้งนี้ผลงานของเธอถูกนำไปเอาไปทำเป็นซีรีส์ที่เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่น่าชื่นชมอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว และซีรีส์ที่จะพูดถึงในที่นี้คือ “Sharp Objects” ซีรส์ที่เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์แนวจิตวิทยา ระทึกขวัญ สัญชาติอเมริกา ที่โด่งดังและสร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก เพราะด้วยการแสดงของนางเอกชื่อดังอย่าง Amy Adams ที่มารับบทเป็นตัวละครหลักอย่างนางเอกของเรื่อง อีกทั้งยังเป็นซีรีส์ที่เรียกได้ว่าสุดหินและหนักหน่วงอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้
เรื่องราวพูดถึง Camille นักข่าวสาวที่ต้องเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อมาทำข่าวการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของเด็กสาวในเมือง 2 คน ซึ่งคาดว่า ณ ตอนนี้อาจจะเสียชีวิตแล้วก็ได้ แต่ในการกลับมาที่บ้านเกิดของเธอนั้น มันเป็นเหมือนการสะกิดแผลเป็นเรื้อรังไม่ยอมหายของเธอขึ้นมาอีกครั้ง และนั่นเป็นจุดเริ่มเติมของฝันร้ายที่เธอไม่เคยลืม
Sharp Objects เป็นอีกหนึ่งหนังและซีรีส์ระทึกขวัญ เรื่องหนึ่งที่เราสามารถพูดได้เต็มปากว่า ทำออกมาได้ดีและดีกว่าตัวนิยายเองเสียด้วยซ้ำ เพราะด้วยการนำเสนอเรื่องราว, การเล่าเรื่อง, ซาวด์ต่างๆ ที่ดึงดูดและเชิญชวน พร้อมกดดันคนดูอย่างเราได้อย่างอยู่มัด ไม่เพียงแค่นั้น เราขอนับถือการแสดงของนักแสดง ทุกคนในเรื่องที่ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครในนิยายออกมาได้ดีเลยทีเดียว
แต่สำหรับใครที่อ่านหนังสือมาก่อนแล้วเหมือนเราละก็ อาจจะพอเดาทางหรือซีนต่อไปได้นิดหน่อยว่าจะเป็นอะไร แต่ส่วนตัวแล้วสำหรับเรา การอ่านนิยายมาก่อน และตามดูด้วยซีรีส์ไม่ได้เป็นปัญหา ยังให้ความรู้สึกที่ชอบและสนุกเหมือนเดิม
เรื่องที่ 5: You (คลิกเพื่อรับชมซีรีส์)
ประเภท: ซีรีส์
สร้างมาจากหนังสือเรื่อง: Hidden Bodies
จากนักเขียน: Caroline Kepnes
และแล้วก็มาถึงหนังและซีรีส์ระทึกขวัญ ที่มาจากปลายปากกานักเขียนชื่อดังอย่างเรื่อง “You” ซีรีส์แนวระทึกขวัญที่เรียกได้ว่า ละมุนที่สุดแห่งปี 2019 – 2020 เลยก็ว่าได้ โดยพูดถึงเรื่องราวของ “โจ” ชาวหนุ่มนักอ่านและนักรัก พยักงานขายหนังสือในร้านหนังสือชื่อดัง ณ เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาแอบชอบ ลีฟ หญิงสาวธรรมดา แต่แฝงไปด้วยสเน่ห์ที่เต็มไปด้วยความสดใส เธอมีความฝันอยากเป็นนักเขียนนิยาย
ดังนั้นกิจวัตรประจำวันของโจคือการติดตามและสร้างจังหวะชีวิตให้เขาและเธอมาเจอและรักกัน แต่ทว่าเมื่อลีฟกับโจคบกันไปเรื่อยๆ ลีฟ ก็สังเกตถึงพฤติกรรมที่น่ามีพิรุธของโจ และดันไปรู้ความลับที่ไม่เคยรู้เข้า ทำให้โจจึงตัดสินใจขังลีฟเอาไว้ในตู้นิรภัยพร้อมกับหนังสือและปมในอดีตของเขา
เป็น หนังและซีรีส์ระทึกขวัญ Psycho ที่ทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว สิ่งที่น่าชื่นชมเลยคือการวาง Plot เรื่องที่ถ่ายทอดภูมิหลังของความโรคจิตของตัวเอก ให้คนดูได้เข้าใจได้อย่างง่ายดาย ว่าเพราะอะไรเขาถึงเป็นคนแบบนี้ โดยที่เราไม่ต้องตีความมากมาย หรือ นั่งคิดให้ปวดหัว You ทำออกมาได้เคลียร์มากเลยทีเดียว โดยในการเล่าเรื่องนั้นไม่ได้เทน้ำหนักไปที่ Thriller เพียงอย่างเดียว แต่มีปนมุมโรแมนติก อินเลิฟ แถมดราม่าหน่อย ๆ ให้พอมีสีสัน และเราสนุกไปความน่ารักอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ You ไม่ได้นำเสนอแง่มุมความซับซ้อนทางด้านจิตใจและความคิดของตัวละครเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ You ยังตีแผ่สังคมจอมปลอม อย่างการเล่น Social Media และ ความริษยา เม้าส์มอย ซุบซิบนินทา ตามแบบฉบับ American Girl Gang มันทำให้เราเห็น ความ Wanna Be ที่อยากเป็น Someone ในโลกออนไลน์ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งคนเราทุกคนล้วนอยากเป็นใครคนหนึ่งที่น่าสนใจ
ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง บ้างอัพเดตเรื่องราวชีวิตที่สุดแสนจะ Happy บ้างก็นำเสนอสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตที่ใครเห็นก็ล้วนจะอิจฉา
แต่หารู้ไม่ว่า สิ่งที่นำเสนอให้คนทั้งโลกเห็นนั้น ล้วนเป็นเพียงการสวมหน้ากาก ที่มีเพียงเปลือกนอกบางส่วน ที่เราต่างนำเสนอกับคนอื่นเพื่อให้เขาเข้าใจอย่างนั้น ซึ่งบางคนและในบางครั้งก็ไม่ได้มีความสุขกับมันอย่างแท้จริงด้วยซ้ำ จริงไหม?
Photo Credit:
Stay connected