สวัสดีค่ะสาวๆ Clubsister ที่น่ารักทุกโคนน..น เราเห็นว่าช่วงนี้กระแสซีรีส์เกาหลีเยอะแยะมากมายในสื่อโซเชี่ยล ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Facebook หรือแม้กระทั่ง Twitter เองก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแนวสืบสวนสอบสวน, แนวรักปุ๊กปิ๊ก, แนวรักดราม่าน้ำตาแตก หรือแม้กระทั่งแนวสยองขวัญเอง แต่ก็ยังมีอีก 1 แนวที่ยังอยู่ยงคงกระพัน และเป็นแนวที่ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลย นั่นก็คือ “ซีรีส์แนวแก้แค้น” อย่างเถ้าแก่ Itaewon Class เป็นแนวที่ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เชือดเฉือนกันด้วยไหวพริบ ดุเดือดแบบมีสไตล์ ซิสเลยขอเอาใจน้องซิสทั้งหลายกับ “ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น ดุ เด็ด เผ็ด มันส์!” รับประกันความแซ่บ มันส์แน่นอน!!

 

มูฟออนจากเถ้าแก่ไม่ได้! ต้องดู 4 ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น รับประกันความมันส์!

 

เรื่องที่ 1: Sky Castle

จำนวนตอน: 21 ตอน
เวลาเฉลี่ยต่อตอน: 50 นาที
ช่องทางในการรับชม (คลิกเพื่อชมซีรีส์): NETFLIX, VIU

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นเรื่องแรกที่เราอยากให้ทุกคนดูเลยนั้น อาจจะไม่ได้เกี่ยวในแง่การเชือดเฉือนทางด้านธุรกิจ แต่เป็นซีรีส์ที่ดุเดือดและสะท้อนวัฒนธรรมความเชื่อและการเลี้ยงดูของคนเอเชียได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ซีรีส์จะเป็นเกาหลี แต่ความเชื่อเหล่านี้ก็ยังคงมีให้เห็นโดยทั่วไปในไทย บอกได้เลยว่ามันส์ และลุ้นไม่แพ้กันเลยทีเดียว Sky Castle เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นที่พูดถึงหมู่บ้านของบุคคลที่มีชื่อเสียงทางด้านสายอาชีพต่างๆมารวมตัวกัน รวมถึงยังเป็นหมู่บ้านที่ถูกการันตีในเรื่องการศึกษาดีเด่นของเด็กทั้งหลาย

ซึ่งการเลี้ยงดูปูเสื่อของแต่ละบ้านใน Sky Castle นั้นเหมือนถูกตีกรอบและวางแบบแผนมาเหมือนกัน ประหนึ่งขนบธรรมเนียมที่สืบทอดรุ่นสู่รุ่นอย่างไหนอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกในแต่ละบ้านต้องเรียนได้คะแนนที่ดีที่สุด สูงสุดของห้องหรือของระดับชั้น ต้องเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับต้นของประเทศ รวมถึงต้องเดินทางไปถึงจุดสูงสุดของสายอาชีพ แต่แล้ววันหนึ่งสมาชิกคนหนึ่งในหมู่บ้าน ได้จบชีวิตตัวเองพร้อมทิ้งคำถามมากมายให้กับเพื่อนบ้านทั้งหลาย ว่าเป็นอะไร ทำไมเขาถึงตัดสินใจทำแบบนั้น?

 

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น

Sky Castle เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นที่ไม่ใช่แค่คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ควรดูเท่านั้น เราคิดว่าเด็กวัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง สมาชิกในบ้าน ควรดูซีรีส์เรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง หากถามว่าเพราะอะไรถึงยืนยันขนาดนี้ ส่วนตัวเรามองว่าซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอและตีแผ่ระบบการศึกษาในปัจจุบัน (ซึ่งคล้ายกับของไทย) การมองและการตีคุณค่าในตัวผู้อื่น รวมถึงสะท้อนวิธีการเลี้ยงดูลูกได้ดีมาก ถึงมากที่สุด

นอกจากเรื่องการสะท้อนสังคมแล้วนั้น สิ่งที่ทำให้เราติดซีรีส์เรื่องนี้เลยหลักคือ การใช้หลักจิตวิทยาเล็กน้อยในการพูด เพื่อหลอกล้อ และโน้มน้าวจิตใจของคนได้ดี แถมยังแนบเนียนอีกต่างหาก และรวมถึงการเผยปมปัญหาของแต่ละครอบครัวในบ้าน Sky Castle

สุดท้ายแล้ว เราคิดว่าซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการสะท้อนแค่ระบบการศึกษาเพียงอย่างเดียวหรอก แต่ในสังคมการทำงาน ณ ปัจจุบัน ก็ไม่ต่างกัน เพราะสุดท้ายใเรายังคงยกย่องบุคคลที่มียศมีตำแหน่ง จบการศึกษาดี ว่าเป็นคนเก่งและน่าเชื่อถือโดยที่ไม่มองบริบทโดยรอบบ้างเสียเลยว่าสิ่งไหนคือตัวชี้วัดคุณค่าของคนที่ดี

 

เรื่องที่ 2: Pinocchio

จำนวนตอน: 20 ตอน
เวลาเฉลี่ยต่อตอน: 50 นาที
ช่องทางในการรับชม (คลิกเพื่อรับชมซีรีส์): NETFLIX, VIU 

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นเรื่องถัดไปบอกได้เลยว่า คอแฟนคลับและคอซีรีส์เกาหลีตัวยงต้องไม่พลาดและรู้จักเรื่องนี้แน่นอน ด้วยการจับคู่นักแสดงชื่อดังคู่พระนางที่ดูยังไง๊ยังไงก็เข้ากันอย่างลงตัว กับ อี จง-ซ็อกและหนูผัก พัก ชิน-ฮเย เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่สั่นสะเทือนความดังในปี 2014 อยู่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว Pinocchio ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นที่ตีแผ่ธุรกิจวงการผู้สื่อข่าวได้แบบเจ็บแสบ และตรงประเด็น แถมสะท้อนสังคมวงการสื่อในปัจจุบันได้ดีเรื่องหนึ่ง พูดถึง ชายหนุ่มนามว่า คีฮามยอง ผู้รอดพ้นจากโศกนาฏกรรมจากการโจมตีของผู้สื่อข่าว ที่โจมตีคุณพ่อของเขาในคดีเพลิงไหม้เมื่อ 13 ปีก่อน

เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตใหม่กับครอบครัวหนึ่งที่อุปการะเขา โดยปกปิดอดีตอันหน้าเศร้าเหล่านี้เอาไว้ ภายใต้ชื่อว่า ชเวดัลพโย และในทางกลับกันเขายังต้องสวมบทบาทเป็นลุงของ ชเวอินฮา หลานสาวที่อายุไล่เลี่ยกัน ซึ่งเธอป่วยเป็นโรคพินอคคิโอ โดยเธอจะสะอึกทุกครั้งที่โกหก หรือ ปิดบังความจริงอะไรเอาไว้ เรื่องราวชีวิตของเขาดูเหมือนจะราบรื่น แต่สุดท้ายทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เพราะเขาเริ่มมีใจให้หลานสาวของตัวเอง พร้อมกับเริ่มรู้ว่า ต้นเหตุของโศกนาฏกรรมในชีวิตเขา เกิดจากแม่ของหญิงสาวที่เขาตกหลุมรัก

 

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น

ต้องบอกก่อนเลยว่าซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นเรื่องนี้ทำเอาเราไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นการจับคู่แค้นที่ ดูยังไงคู่ก็เป็นการจับคู่ที่ไม่เข้าคู่กัน แต่ซีรีส์เรื่อง Pinocchio นี้เป็นซีรีส์ที่ตีแผ่วงการสื่อ / นักข่าว และ การแบ่งชนชั้นวรรณะในสังคมที่เรียกว่าทุนนิยมได้เป็นอย่างดี อย่างที่เราเข้าใจกันดีว่า สื่อ ผู้ประกาศข่าวหรือนักข่าวนั้นเป็นเหมือนตัวแทนผู้บอกเล่า และนำเสนอข้อเท็จจริงจากสังคมให้เราได้รับรู้ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เป็นไปแต่ใครจะไปรู้ละว่า การนำเสนอในบางครั้ง กลับมีความตื้นลึกหนาบางของเรื่องราวและมักมีอะไรซ่อนอยู่มากมาย

ไม่ว่าจะเป็นการบิดเบือนเพื่อสร้างกระแสนิยมทางสังคม การปกปิดข้อเท็จจริง เพื่อปกป้องผู้ที่อยู่เบื้องหลัง หรือแม้กระทั่งการนำเสนอที่ไม่ถูกต้องเพื่อผลประโยชน์ทางด้านต่าง ๆ รวมไปถึงการใส่ร้ายป้ายสี ทุกสิ่งที่ยกตัวอย่างมานั้น ล้วนเห็นได้อย่างชัดเจนในสังคมปัจจุบัน และยิ่งเห็นได้ชัดขึ้นในยุคที่ Social Network มาเป็นเครื่องมือหนึ่งในการเผยแพร่ข่าวสารต่าง ๆ เหล่านี้อีกด้วย

 

เรื่องที่ 3: He is psychometric

จำนวนตอน: 16 ตอน
เวลาเฉลี่ยต่อตอน: 60 นาที
ช่องทางในการรับชม: NETFLIX, VIU

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นเรื่องที่สามนี้ ดูผิวเผินอาจจะมองว่าเป็นซีรีส์คอมเมดี้ สืบสวนสอบสวนทั่วไป แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะเบื้องหลังความตลกและน่ารักของตัวละครนั้น เต็มไปด้วยปมและความลับต่างๆ ที่เก็บซ่อนไว้ ไม่เพียวเท่านั้นในแต่ละตัวละคร ยังเกี่ยวเนื่องกันจนทำให้คนดูเซอไพรส์ไปเลยทีเดียว He is psychometric เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น ที่จัดว่าอยู่ใน Cate Crime, Sfi-fi โดยพูดถึง อีอัน เด็กหนุ่มที่มีสัมผัสพิเศษ

เมื่อเขาสัมผัสสิ่งของใดๆ หรือ บุคคลๆ ใดก็ตาม จะสามารถล่วงรู้เรื่องราวหรือความทรงจำที่ถูกเก็บซ่อนไว้ของสิ่งๆ นั้นได้ และด้วยพลังวิเศษเหล่านี้ของเขาทำให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับวงการตำรวจและอัยการซึ่งเป็นพี่ชายบุญธรรมของเขา เพื่อช่วยคลี่คลายคดีต่างๆ อยู่เสมอ

แต่ทว่าการที่เขาจะได้พลังนี้มานั้น เขาต้องผ่านโศกนาฎกรรมที่เขาไม่มีวันลืมเมื่อ 10 ปีก่อนได้ เขาเป็นเด็กน้อยผู้รอดชีวิตจากเหตุการร์ไฟไหม้อพาทเม้นต์ในย่านหนึ่งของเกาหลี โดยได้รับการช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง (เป็นพี่ชายในปัจจุบัน) และด้วยพลังวิเศษนี้ทำให้เขาพบเจอกับ ยุนแจอิน เด็กสาววัยเดียวกัน เธอเป็นเด็กสาวกำพร้าที่เก็บตัว และโดนรังแกจากเพื่อนๆ อยู่เสมอ แต่ใครจะไปรู้ว่าที่จริงแล้ว เธอเก็บซ่อนความลับที่ยากจะลืมเอาไว้

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น

ออกตัวก่อนเลยว่า He is psychometric เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นที่ ตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะดูเลยด้วยซ้ำ แต่พอดูไปดูมาแบบไม่ตั้งใจไปเรื่อยๆ สนุกเฉย จากสนุกการเป็นติด งอมแงมไปเลยค่ะซิส เพราะเนื้อเรื่องดำเนินค่อนข้างเร็วและน่าติดตามตั้งแต่ 15 นาทีแรก เป็นซีรีส์ที่ปมปริศนาเยอะพอๆ กับความหล่อของพี่ชายพระเอก (ฮ่าๆ )

หนังจะเล่าเรื่องแบบตัดสลับเรื่องราวในอดีต และปัจจุบันผ่านความคิดของอัยการซึ่งเป็นพี่ชาย และผ่านการสัมผัสของพระเอกแบบนี้ไเปเรื่อยๆ นั่นทำให้เราลุ้นกับเบื้องลึกเบื้องหลังอดีต ไปพร้อมๆ กับการแก้ไขปริศนาการสืบสวนในปัจจุบัน นั่นไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องเป็นงงแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ทำให้ประทับใจมากกว่าการเล่าเรื่องและพล็อตของซีรีส์ นั่นก็คือตอนจบที่เฉลยปมทั้งหมดของเรื่อง บอกเลยว่าทำให้เราเหวอและร้องเฮียไปตามๆ กัน

 

เรื่องที่ 4: Money Flower

จำนวนตอน: 24 ตอน
เวลาเฉลี่ยต่อตอน: 60 นาที
ช่องทางในการรับชม: NETFLIX

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น

ซีรีส์เกาหลีเรื่องสุดท้ายนี้ เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น แบบผู้ใหญ่มีชั้นเชิงและสะท้อนให้เห็นแง่มุมธุรกิจ พร้อมกับคำพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า “หัวเราะทีหลังดังกว่า” Money Flower ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น ในแบบดราม่าที่กล้าพูดเลยว่า ยอมเสียสละความรักและคนที่รัก เพื่อทวงคืนความแค้น เรื่องราวพูดถึง คังพิลจู หัวหน้าฝ่ายกฏหมายที่ตำแหน่งหน้าที่การงานเพรียบพร้อม

เป็นคนที่ฉลาดและเก่ง อีกทั้งยังเป็นจอมวางแผนที่เฉียบขาด เขาทำงานให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่และหนุนหลังตระกูลดังหุ้นส่วนของบริษัท ที่หวังจะครอบครองกิจการนี้เป็นของตนเอง ด้วยความเก่งและเป็นที่รักของหัวหน้างานเลยทำให้ตัวเขาเองไม่เป็นที่รักของพนักงานคนอื่น

แต่ทว่ามีอยู่คนหนึ่งที่รักและไว้ใจในตัวเขาเสมอนั่นก็คือ นามูฮยอน ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เธอเกลียดการออกสังคม เกลียดการคลั่งอำนาจและเงินทองอีกทั้งเธอเบื่อกับการที่ต้องสังเวยชีวิตตนเอง เพื่อเงินทองอย่างการไปเป็นของกำนัลหรือแต่งงานกับลูกเศรษฐีเพื่อหนุนกิจการในบ้าน ด้วยเหตุนี้ทำให้ คังพิลจู วางแผนให้เธอได้แต่งงานกับเพื่อนสนิทของตน เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่เธอไม่ชอบ แต่แล้วเหตุผลจริงๆ มันไม่ได้มีแค่นั้น เมื่อ นามูฮยอน เธอได้รู้ว่าสิ่งที่เขาวางแผนไว้ไม่ใช่เพราะเธอ แต่เพื่อแก้แค้นให้กับตนเอง

ซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น

บอกเลยว่าซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นเรื่องนี้ ดราม่าและเชือดเฉือนเป็นที่สุด ถ้าจาก 3 เรื่องข้างบนยังไม่เด็ดพอ เราขอแนะนำให้สาวๆ ดูเรื่องนี้ เพราะสาวๆ จะรู้เลยว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีฉากโรแมนติกรักมุ้งมิ้งให้ได้เห็น แต่ทุกซีนจะเต็มไปด้วยเกมการเมืองของคนในบริษัท การสะท้อนสังคมที่เรียกว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” และ เราจะได้เห็นเกมการแก้แค้น ที่เรียกได้ว่า “หัวเราะทีหลังดังกว่า” เราจะสัมผัสถึงความเก่งกาจ เฉลียวฉลาดและการเล่นเกมรุก ที่กล้าพูดเลยว่า “ลงมือครั้งเดียว รุกฆาตทั้งเกม”

 

Photo Credit:

Comments

comments