ครีมกันแดด ตัวช่วยในการปกป้องผิวของเราจากแสงแดด หากเราจะใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธี ครีมกันแดดนั้นจะมีประสิทธิภาพในการกันแดดยิ่งขึ้น หลาย ๆ คนคงเกิดความคำถามมากมายว่า กันแดดต้องทายังไง วันนี้เราจะมาบอกวิธีการทากันแดดกัน สาว ๆ ลองมาเช็คไปพร้อมกันเลย เราจะได้ใช้กันแดดทาหน้าอย่างถูกวิธีกันซะที
ครีมกันแดด (Sunscreen) คือ สารที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวี (Ultraviolet Radiation: UV) โดยช่วยให้ผิวไม่ถูกแสงแดดทำลายจนไหม้ หรือเกิดจุดด่างดำต่าง ๆ รวมทั้งลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง ส่วนผสมที่อยู่ในครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต ปกป้องชั้นผิวที่อยู่ลึก หรือสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตกลับออกไป
กันแดดต้องทายังไง ? 6 วิธีทากันแดด ปริมาณเท่าไหร่ วันละกี่รอบ ให้ได้ผลดี
1. เลือกค่า SPF ให้เหมาะกับตัวเอง
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง ได้ระบุว่า ค่า SPF (Sun Protection Factor) หรือค่าการปกป้องจากรังสียูวี 15 สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ 93% SPF 30 ป้องกันได้ 97% และ SPF 50 หรือมากกว่าสามารถป้องกันได้มากถึง 98% แต่ยังไงแล้ว ก่อนที่เราจะเลือกค่า SPF เราควรเลือกให้เข้ากับสภาพผิวของตัวเอง ว่าผิวเราบอบบางมากน้อยแค่ไหน
สาวๆ ที่มีผิวบอบบาง คือ การเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF ประมาณ 30 หรือ อย่างมาก 50+ ก็เพียงพอต่อการปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งถ้าวันไหนต้องออกแดดนาน หรือ อยู่ในที่แดดจัด แนะนำให้ทาครีมกันแดดทุก 3-4 ชั่วโมง แต่สำหรับผู้ที่มีผิวปกติหรือผิวเข้ม ผิวจะกลายเป็นสีแทนได้ง่ายควรเลือกค่า SPF ที่ต่ำลง เช่น SPF15
การเลือกค่า SPF ที่เหมาะสมนั้นอาจขึ้นกับระยะเวลาที่คุณต้องเผชิญกับแสงแดด หากคุณต้องทำงานนอกสถานที่หรืออยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน คุณควรเลือกครีมกันแดดกันน้ำที่มีค่า SPF สูงหน่อย เพื่อช่วยปกป้องผิวคุณได้ยาวนานขึ้น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกครีมกันแดดที่ SPF สูงเกินความต้องการของผิว แต่หมั่นทาครีมกันแดดให้บ่อย ๆ ก็ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้โดยที่ไม่เสี่ยงผิวเสีย
2. ทากันแดดให้ถูกเวลา
เราควรทาครีมกันแดดก่อนออกไปเจอแสงแดดเป็นเวลา 15-30 นาที เพื่อให้กันแดดเซตตัวกับผิว พร้อมในการปกป้องแสงแดดให้เราได้อย่างเต็มที่ ยิ่งคนที่ต้องทำกิจกรรมทางน้ำ ยิ่งต้องรอให้กันแดดเซตตัว ไม่งั้นเนื้อกันแดดอาจจะไหลไปกับน้ำ หรือเหงื่อ ทำให้การกันแดดมีประสิทธิภาพที่ลดลงได้ ผิวเราก็มีโอกาสถูกแสงแดดทำร้ายผิว ถ้ากันแดดเซตตัวไม่ดี นอกจากนั้นการทาแป้งหลังจากทากันแดดแล้วก็เป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันแดดให้ดียิ่งขึ้นนะ เพราะจะช่วยให้กันแดดเซตตัวอยู่กับผิวได้ดี แถมช่วยลดความมันเหนอะจากกันแดดอีกด้วย
3. จะทากันแดดในปริมาณที่เหมาะสม
กลายเป็นที่ถกเถียงกันใหญ่ว่า ครีมกันแดดควรทาในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะดี บางคนบอกว่าให้ทา 2 ข้อนิ้วชี้ บางคนบอกว่าให้ทา 2 นิ้วมือ ทำเอาใครหลายคนสับสนกันไปหมด แต่จริง ๆ แล้ว เราสามารถทาได้ทั้งสองแบบเลย การทาครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว ไว้ใช้กับการทาทั่วใบหน้า ส่วนการทาครีมกันแดด 2 นิ้วมือ ใช้ทาทั่วใบหน้า และลำคอทั้งด้านหน้า-หลัง แต่ถ้าเป็นกันแดดชนิดน้ำหรือโลชั่น ควรบีบประมาณ 1 เหรียญสิบ
วิธีการทากันแดด ให้แต้มครีมกันแดด 5 จุด ลงบนใบหน้า ได้แก่ หน้าผาก แก้มทั้ง 2 ข้าง จมูก และคาง จากนั้นเกลี่ยครีมให้ทั่วหน้า โดยทาให้ทั่วใบหน้าเลยนะคะ ถ้ารู้สึกว่าทาในครั้งเดียวจะหนักหน้า อาจจะแบ่งทา 2 รอบก็ได้ค่ะ เวลาถ้ากันแดดทาหน้าห้ามงกนะ ให้ทาตามปริมาณที่กำหนดจะดีค่ะ และที่สำคัญไม่ควรละเลยที่จะทา ลำคอ แผ่นหลัง และหู เพราะรังสีอัลตราไวโอเล็ตสามารถทำร้ายผิวได้ทุกส่วนของร่างกาย การทาครีมกันให้ทั่วถึงจึงมีความสำคัญในการคงไว้ซึ่งผิวกระจ่างใส
4. วิธีเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย
5. เก็บครีมกันแดดอย่างเหมาะสม
เราควรเก็บรักษาครีมกันแดดให้ถูกวิธี ไม่งั้นจะทำให้กันแดดเสื่อมประสิทธิภาพ เนื้อสัมผัส หรือกลิ่นเปลี่ยนไป ไม่ใช้ดีเหมือนเดิม ต้องทิ้งกันแดดเร็วกว่าเดิมอีก วิธีเก็บกันแดดมีดังนี้
- ห้ามเปิดฝาทิ้งไว้ให้อากาศเข้า
- ห้ามโดนแสงแดดจัด หรือที่ที่อากาศร้อนจะทำให้ครีมกันแดดเสื่อมสภาพเร็ว
- ไม่เก็บครีมกันแดดไว้ในในตู้เย็นหรือห้องน้ำ เพราะอากาศที่เย็น เชื้อโรคหลากหลายชนิด อาจทำให้กันแดดเสื่อมสภาพ
6. ระวังครีมกันแดดหมดอายุ
Photo Credit:
Source Credit:
Stay connected