สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ชาว Clubsister ทุกคน ช่วงนี้ มีใครกำลังมองหา หนังสนุก ๆ ดูซักเรื่องรึเปล่าคะ โดยเฉาะใน Netflix ที่เสียเงิน Subscribe รายเดือนไปแล้ว ถ้าไม่ดู ระวังไม่คุ้มนะ งั้นเรามาหาอะไรดูกันดีกว่า ในวันนี้ เรามี หนังหญิงรักหญิง มาแนะนำกัน ทั้งหมด 5 เรื่อง แต่ไม่ได้มีแค่หนังนะคะ ซีรีส์ การ์ตูน ก็มีค่ะ มาดูกันเลย ว่ามีเรื่องไหนมั่ง

 

  แนะนำ หนังหญิงรักหญิง 3 เรื่อง ใน Netflix รวม ซีรีส์ การ์ตูน มาหมด!  

 


 

Bloom into you

 

หนังหญิงรักหญิง

 

เปิดมาด้วยการ์ตูนก่อนเลย Bloom into you เป็นการ์ตูนยูริ หรือก็คือ แนวหญิงรักหญิงนั่นแหละ การ์ตูนเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ ที่ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่า โรแมนติก ได้รึเปล่า ระหว่าง ‘โคอิโตะ ยู’ และ ‘นานามิ โทโกะ’

 

หนังหญิงรักหญิง

 

‘โคอิโตะ ยู’ เป็นเด็กมัธยมปลายปีที่ 1 ที่ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับความรัก ฟังเพลงรัก มาตั้งมากมาย เธอคาดหวัง ที่จะมีความรู้สึก ใจเต้นตึกตัก เหมือนใคร ๆ เขา แต่ ‘ยู’ ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย ไม่ว่ากับใครก็ตาม

 

หนังหญิงรักหญิง

 

‘นานามิ โทโกะ’ เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน ของ ‘ยู’ ก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่เคยรู้สึกชอบใคร เช่นกัน แต่กลับรู้สึกชอบ ยู ตั้งแต่ครั้งแรก ๆ ที่เจอ แม้ว่ายู จะไม่ได้รู้สึกชอบตอบ แต่ ‘โทโกะ’ ก็ขอเพียงแค่ได้ชอบ ยู ต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่หวังให้ ยู รักกลับมา

 

หนังหญิงรักหญิง

 

ฟังมาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะคิดว่า Bloom into you ต้องเป็นการ์ตูน ที่เกี่ยวกับการแอบรักแน่ ๆ เลย แต่ไม่ใช่จ้ะ ทั้ง ‘ยู’ และ ‘โทโกะ’ ต่างก็รับรู้ความรู้สึก ของกันและกัน ยู ยินยอมที่จะใช้เวลากับ โทโกะ ถึงแม้ว่าจะรู้ว่า โทโกะชอบเธอขนาดไหน และ ได้บอกกับ โทโกะ อย่างชัดเจนว่า เธอไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น

เรื่องราวโดยรวม ก็จะเกี่ยวกับ ความรัก(?) และ ปมเรื่องพี่สาว ของ โทโกะ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ยู จะสามารถพัฒนาความรู้สึกของเธอ ให้ชอบโทโกะได้หรือไม่  ทำไมเธอถึงยอมอยู่กับโทโกะ ทั้งที่ไม่ได้ชอบ ปมเรื่องพี่สาว ของโทโกะ คืออะไร ติดตามได้ที่ Bloom into you ใน Netflix จ้า


 

The half of it

หนังหญิงรักหญิง

 

เป็นเรื่องราวความรัก ระหว่าง หนุ่มสาว วัยมัธยม 3 คน ที่เกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แถวชนบท ที่ชื่อว่า สควอมิช ตัวละครเอกของเรื่อง ชื่อ ‘เอลลี่ ชู’ เธอเป็นเด็กสาวเอเชีย ที่มีความรู้ และ ความสนใจ เกี่ยวกับเรื่องปรัชญาต่าง ๆ และ มีความสามารถในการเขียนเรียงความ มากซะจน สามารถรับจ๊อบ จากเพื่อน ๆ ในชั้น ให้จ้างทำการบ้านเขียนเรียงความได้

เรื่องราวเริ่มชึ้นเมื่อ ‘พอล มันสกี้’ หนุ่มนักกีฬาของโรงเรียน ได้จ้างให้เธอ เขียนจดหมายรักเพื่อจีบสาวคนหนึ่ง ที่ชื่อว่า ‘เอสเธอร์’

หนังหญิงรักหญิง

 

มันซับซ้อนตรงที่ เอลลี่ ก็ชอบ เอสเธอร์ เหมือนกัน และ ข้อความจีบทางจดหมาย ก็เป็นตัวตนของเอลลี่ ไม่ใช่พอล แล้วเมื่อถึงเวลาที่ เอสเธอร์ กับ พอล ได้เจอกัน เธอจะชอบพอล ได้หรือไม่ หรือเธอจะชอบ เอลลี่ ที่เป็นตัวตน ของคนที่คุยกับเธอทางจดหมาย

 

หนังหญิงรักหญิง

 

เรื่องราวของหนังเรื่องนี้ ไม่ได้มีการนำเสนอความรักแบบร้อนแรง แต่เป็นการที่ตัวละคร จะค่อย ๆ เรียนรู้ ทำความรู้จักกัน และ เมื่อได้รู้จักกันมากขึ้น ก็จะเกิดการพัฒนาความรู้สึกที่มีต่อกัน แต่ในวันนี้ เราคงจะไม่ได้บอกว่า ใครรู้สึกกับใคร แบบไหน แต่ที่บอกได้คือ ดูแล้วประทับใจแน่นอน


 

Black mirror : San Junipero

 

หนังหญิงรักหญิง

 

ที่จริงแล้ว Black mirror เป็น ซีรีส์ ที่นำเสนอ เรื่องราวดาร์ก ๆ ในโลก ที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำ มักจะมีอะไรน่ากลัว หรือ ตึงเครียดเสมอ

แต่ในซีซั่น 3 ตอน San Junipero กลับเป็นเรื่องราวความรัก อันสุดแสนจะน่าประทับใจ ระหว่างหญิงสาวสองคนแทน

 

หนังหญิงรักหญิง

 

ทั้งคู่เจอกันใน San Junipero ซึ่งเป็นเมืองเสมือนจริง สำหรับผู้สูงอายุ และ สำหรับผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว เกิดขึ้นได้โดย ทำการอัพโหลดความทรงจำ เข้าไปในโลกเสมือนจริง ทำให้ได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนั้นตลอดกาล แต่สำหรับคนที่ยังไม่ตาย จะสามารถไปที่โลกนี้ ได้สัปดาห์ละ 5 ชั่วโมง เท่านั้น โดยทุกคน จะสามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการได้

 

หนังหญิงรักหญิง

หนังหญิงรักหญิง

 

‘ยอร์กี้’ เป็นคนขี้อาย และมีบุคลิกแบบเก็บตัว ที่เข้ามาใน San Junipero เป็นคืนแรก เธอเลือกช่วง 80’s เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เธอยังเป็นวัยรุ่น เธอได้พบกับ ‘เคลลี่’ สาวปาร์ตี้สุดแซ่บ ที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ทั้งสองได้เจอกัน ความสัมพันธ์ก็เริ่มต้นขึ้น

 

หนังหญิงรักหญิง

 

ปมของเรื่องนี้ คือการที่ ตัวเอก ต้องตัดสินใจว่า หลังจากที่ตายแล้ว ทั้งคู่ จะมาใช้ชีวิตในโลกหลังความตายอันเป็นนิรันดร์ แห่งนี้หรือไม่ โดยเหตุผลต่าง ๆ จะถูกเฉลยในเรื่อง

เรื่องราวของ Black mirror ตอน San Junipero นั้น จะพาให้ทุกคน รู้สึกอิน ไปกับความรักที่เกิดขึ้น และ ตื่นตาตื่นใจ ไปกับโลกเสมือนจริง ที่มีเสน่ห์ไม่ต่างไปจากตัวละคร ทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น 

 


 

 

จริง ๆ ใน Netflix ยังมี หนังหญิงรักหญิง ให้ดูอีกเยอะนะคะ แต่วันนี้พอแค่นี้ก่อน ถ้ามีโอกาส จะมาแนะนำใหม่ สำหรับวันนี้ ขอลาไปก่อนค่ะ ดูหนังให้สนุกนะคะ

 

credit : Netflix

Comments

comments