เชื่อว่าบนโลกนี้ใคร ๆ ก็อยากมีความรักที่ดีและมีความสุข ไม่มีใครอยากทะเลาะกับแฟน หรือเลิกรากับคนรักหรอกจริงไหมคะ แต่ในบางครั้งสิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเกิดจากการที่เรามี ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก และในวันนี้เราจะพาทุกคนมาสำรวจ ถึงความเชื่อและความคาดหวังเหล่านั้น ที่อาจเป็นตัวการ ทำให้ความสัมพันธ์ของเราสั่นคลอนได้ ใครที่กำลังคบกับแฟน และอยากคบกันยาว ๆ มาเช็คด่วนค่ะ ว่าคู่ของเรา มีความคิดแบบนี้กันหรือไม่ หรือใครที่ยังโสดอยู่ ก็สามารถอ่านบทความนี้ เพื่อทำความเข้าใจและรักษาความสัมพันธ์ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตก็ได้นะคะ

           “ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในชีวิตคู่” หรือ “Myths of Couple Relationship” ถูกเขียนขึ้นในหนังสือการให้คำปรึกษาคู่สมรส ที่มีชื่อว่า Counseling and Therapy for Couples ซึ่งเขียนโดย Lynn L. Long และ Mark E. Young พวกเขาพูดถึง ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก ทั้งหมด 9 หัวข้อด้วยกัน เรามาดูกันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

 

  อย่าหาทำ! ” ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก ”  

 

1. ไม่จำเป็นต้องคุยกัน ก็ควรจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร

 

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก

 

           เคยเป็นมั้ยคะ เวลาอยากทำอะไร อยากได้อะไร แต่ไม่อยากบอกแฟน คิดว่าถ้ารักกันก็ควรจะรู้ใจกันสิ! มันก็เป็นจริงส่วนหนึ่งค่ะ คนที่อยู่ด้วยกันบ่อย ๆ หรือสนิทกันมาก ๆ ก็มักจะมีความเข้าใจกันมากกว่าคนที่ไม่ได้ใกล้ชิดกัน แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะในความเป็นจริง คนเราไม่สามารถรู้ใจกันได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งตัวเราเอง บางครั้งก็ยังไม่รู้ใจตัวเองทั้งหมดเลย แล้วทำไม เราถึงคาดหวังให้อีกคนรู้ใจเราไปซะทุกเรื่อง ดังนั้นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ก็คือการสื่อสารนั่นเองค่ะ อย่าปล่อยให้อีกฝ่ายเดาใจเราอยู่เลยนะคะ

2. ถ้าเกิดปัญหา เราควรหาว่าใครผิด และตำหนิคน ๆ นั้นซะ

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก

 

           ในการคบกัน เป็นไปไม่ได้เลยที่ค่ะ ที่จะไม่เคยทะเลาะกัน คนเราอยู่ด้วยกันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ว่า ใครทำผิดก็ต้องโดนตำหนิ แต่ในบางครั้ง กับเรื่องความสัมพันธ์ของคู่รัก มันอาจซับซ้อนมากกว่านั้น ต่างคนก็อาจจะต่างโทษกัน หรือมีความไม่เข้าใจกันบางอย่าง บางปัญหาอาจจะไม่มีคนผิดเลยก็ได้ และบางปัญหาก็อาจจะผิดด้วยกันทั้งคู่ การมานั่งตามหาคนผิดเพื่อนำมาลงโทษ อาจไม่ใช่วิธีการที่ดีนัก .ในบางครั้งหากเราลดทิฐิลง และขอโทษซึ่งกันและกัน อาจเป็นวิธีที่ดีต่อความสัมพันธ์มากกว่า

3. เราควรจะเห็นด้วยกับความคิดเห็นของแฟนเสมอ เพื่อสนับสนุนกันและกัน

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก

 

           เป็นความจริงที่ว่า คนแต่ละคนก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และเรากับแฟนก็เป็นคนละคนกัน ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาคิดในทุก ๆ เรื่อง เขาเองก็เช่นกัน การสนับสนุนกัน ไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยการคล้อยตามกันตลอดเวลา แต่คือการโอบรับความคิดเห็นที่แตกต่าง และทำความเข้าใจต่อมุมมองของอีกคนแม้เราจะไม่ได้เห็นด้วยก็ตาม

 

4. เราต้องซื่อสัตย์และพูดความจริงต่ออีกฝ่ายกับเสมอ ไม่ว่าความจริงนั้นจะส่งผลยังไงกับเขาก็ตาม

 

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก

           นี่เป็นเรื่องที่ตัวผู้เขียนเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันค่ะ คิดมาตลอดว่า ไม่ว่ายังไงเราก็ควรพูดความจริง แต่พอคิดดูดี ๆ แล้ว ถ้าหากความจริงจากเรามันทำร้ายจิตใจเขาล่ะ เรื่องบางเรื่อง นอกจากทำให้เสียใจแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา และถ้าไม่พูด ก็ไม่ได้มีผลเสียอะไรอีกด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ควรจะเป็นความรู้สึกของแฟนเราไม่ใช่เหรอคะ

 

 

5. ความสัมพันธ์ที่ดี มันเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก

 

           คนบางคนอาจคิดว่าถ้าเราเข้ากันได้ดีจริง ๆ อะไร ๆ มันก็คงจะดีเอง ไม่ต้องปรับอะไรทั้งนั้น  ถ้าคนมันไม่ใช่ ก็แค่เลิกกัน และมันก็คงจะมีคน ๆ นั้น คนที่เข้ากับเราได้ทุกอย่าง ซึ่งในความเป็นจริง มันคงจะยากมาก ๆ ที่จะหาคนที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น ดังนั้นเวลาเราคบกับใครซักคน เราควรหมั่นประเมินความสัมพันธ์ และปรับจูนเข้าหากันอย่างสม่ำเสมอนะคะ

 

6. ถ้าเรารักกัน เราควรมีความสุขตลอดเวลา

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก

 

           จริงอยู่นะคะ ที่ว่าความรักนั้นทำให้เรามีความสุข ทำให้เราอิ่บเอิบหัวใจเหมือนโลกนี้เป็นสีชมพู แต่ว่า ๆ …มันก็ไม่ใช่ซะทั้งหมดหรอกนะคะ ยิ่งถ้าคบกันมานาน ๆ แล้วด้วย ความรักอาจไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนช่วงแรก ๆ และก็คงจะมีบ้าง ที่มีปัญหากัน ทำให้รู้สึกเศร้า โกรธ หรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่อารมณ์มีความสุข แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าความรักของเราไม่มีจริง เราควรทำความเข้าใจ และยอมรับว่า การมีทุกข์บ้างสุขบ้าง ในชีวิตรักมันเป็นเรื่องปกติ และเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็เจอ แต่ก็ต้องมีวิจารณญาณกันสักหน่อยนะคะ ไม่ใช่ว่าปีหนึ่งมี 365 วัน ร้องไห้ไปแล้ว 360 วัน แบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ

 

7. ถ้าเรามีกันและกัน ก็ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนและครอบครัว

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก

 

           หากเรารักกันมาก รู้สึกเหมือนว่าโลกนี้มีแค่เราสองคน นั่นก็ไม่ผิดนะคะ แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าหากเรามีสังคมอื่น ๆ บ้าง เพราะโลกใบนี้คือความไม่แน่นอน หากวันใดวันหนึ่ง เราเกิดมีปัญหากับแฟน หรือเราจำเป็นต้องแยกออกจากกัน ถ้าแฟนคือที่พึ่ง และสังคมเดียวที่เรามีอยู่ มันคงจะแย่มาก ๆ เลยนะคะถ้าไม่มีเขา ดังนั้นการมีคนอื่น ๆ ในวงโคจรชีวิตของเราบ้าง มีพลังซัพพอร์ตจากคนอื่น ๆ ที่เราไว้ใจบ้าง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ

8. เราควรจะอยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลา

 

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก

 

           คนรักกัน ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลานะคะ การเคารพพื้นที่ส่วนตัวของแฟน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่เห็นแก่ตัว หากเขาจะอยากไปเจอเพื่อนของเขาโดยไม่มีเราบ้าง หรืออยากจะเล่นเกมส์โดยไม่ได้คุยกับเราบ้าง เพราะความสัมพันธ์ที่ดี คือวงกลมที่คาบเกี่ยวกัน ไม่ใช่วงกลมที่ซ้อนทับกัน ถ้าเราเอาตัวเราเข้าไปอยู่ในทุก ๆ จุดของชีวิตเขา มันก็คงน่าอึดอัดอยู่เหมือนกันค่ะ

 

9. การทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน จะทำให้เราใกล้ชิดกันเสมอ

 

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก

 

           ก็คล้าย ๆ กับข้อที่แล้วนะคะ ที่ว่าเราไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลา ในส่วนของการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิต เราก็ไม่ต้องไปคาดหวังว่าเค้าต้องมาทำกับเรา เพราะคนเรามีความชอบที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเขากลัวผีแต่เราชอบดูหนังผี จะบังคับให้เขามาดูหนังผีกับเราก็คงไม่เหมาะ หรือถ้าเขาไม่ชอบเดินชอปปิง แล้วเราบังคับให้เขามาเดินด้วย แทนที่จะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น งานนี้คงจะมีแต่เซ็งกันมากกว่าค่ะ

 

          เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 9 ความเชื่อผิด ๆ ที่คนเรามี เกี่ยวกับความสัมพันธ์และความรัก เรื่องเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับใครหลาย ๆ คน  ที่ไม่เคยฉุกคิดกันมาก่อนว่า มุมมองความรักที่เรามีนั้น อาจไม่ได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็คงมีใครอีกหลาย ๆ คน ที่คิดแบบนี้กันอยู่แล้ว

           ยังไงก็ตาม หวังว่าบทความนี้ จะสามารถช่วยให้ทุกคนได้ทบทวนตัวเอง ในเรื่องมุมมองที่เรามีต่อความรักและความสัมพันธ์ เราอาจไม่ต้องเห็นด้วยกับบทความนี้ทั้งหมดก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการได้มุมมองใหม่ ๆ ให้รู้ว่าคิดแบบนี้ก็ได้เหมือนนะ แค่นี้ก็ดีแล้วค่ะ

สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะ แล้วพบกันบทความหน้าค่ะ

 

 

photos credits : Pinterest 1 , Pinterest 2 , Pinterest 3 , Pinterest 4 , Pinterest 6 , Pinterest 7 , Pinterest 8 , Pinterest 9 

Comments

comments