สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว Netflix ได้อัพเดปหนังและซีรีส์ใหม่ๆ ช่วงเดือนมีนา แน่นอนพอมีหนังใหม่เข้ามา Ranking ลำดับความนิยมก็เปลี่ยนไป ด้วยเหตุนี้ Clubsister เลยขอเอาใจคอ Trendy ที่ไม่อยากพลาดหนังน่าดูที่อยู่ๆ ก็ตีตื่นขึ้นมาติด Top 5 ในไม่กี่วัน (ณ วันที่ 16 มีนาคม) และเรื่องนี้คือ “รีวิว Yes Day Netflix ขอซักวันให้คนที่เรารักเข้าใจ” ได้ลองดู บอกเลยว่าเพราะเรายิ่งรักมาก ก็ยิ่งอยากให้ดูมาก! งั้นอย่ารอช้าไปเริ่มรีวิวกันเลย
“รีวิว Yes Day Netflix ขอซักวันให้คนที่เรารักเข้าใจ”
เรื่องย่อและที่มา:
Yes Day ภาพยนตร์โดย Original Netflix โดยได้นักแสดงนำอย่าง “Jennifer Garner” นักแสดงนำหญิงเจ้าแม่แห่งหนัง Comedy และ “Edgar Ramírez” นักแสดงนำชายที่มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์แนว Crime ชื่อดังอย่าง Carlos ซึ่ง Yes Day เป็นภาพยนตร์แนว Comedy, Family และ Feel Good ที่พูดถึงเรื่องราวของครอบครัว Torres ซึ่งประกอบด้วย Allison Torres (Jennifer Garner) คุณแม่ลูกสาม ที่ผันตัวมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวและรับบทเป็นนางมารร้ายประจำบ้าน เธอมักมีคำพูดติดปากที่เด็กๆ และคนในบ้านต่างพากันหยีกับคำว่า “NO”
Carlos Torres (Edgar Ramírez) คุณพ่อหัวหน้าครอบครัวและรับบทเป็นหัวหน้างานในบริษัทโดยหน้าที่ของเขานั้นคือการดูแลความเรียบร้อยและน่าจะเป็นไปได้ภายในทีม แต่ทว่าพอกลับมาที่บ้านเขากลับผลิกบทบาทตนเองเป็นแค่คุณพ่อผู้แสนดี ประหนึ่งแม่คือตำรวจเลว และพ่อคือตำรวจดีในสายตาลูกๆ
อยู่มาวันหนึ่งคุณครูประจำชั้นของ Nando (ลูกชายคนกลาง) เรียนเชิญผู้ปกครองเข้าพบเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเขามีพฤติกรรมหรือความในใจโดยถ่ายทอดผ่านผลงานและการบ้านที่ทำ ว่าแม่ของเขานั้น ไม่ต่างจากเผด็จการทางการเมืองและเขาเปรียบเสมือนนกในกรง ไม่เพียงแค่นั้นเขายังนำเอาคลิป VDO ที่แม่กำลังดุๆ เหล่าลูกๆ ในบ้านไปใส่ไว้ในนั้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ Alison ตระหนักคิดและอยากแก้ไข ปรับ Mindset ของลูกๆ ของเขาเสียใหม่ ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น Alison ก็ได้รับไอเดียจากคุณครูสอนพละที่โรงเรียนลูกชาย ว่าให้จัดทำ Yes Day ขึ้น โดยเงื่อนไขคือการที่จะให้ลูกๆ ตั้งกิจกรรมหรือหัวข้อใดๆ ก็ได้ที่ตนอยากให้พ่อและแม่ทำ
ซึ่งสิ่งที่พ่อกับแม่นั้นจะทำได้นั้นมีเพียงการพูดว่า “Yes” หรือตกลงกับข้อเสนอเท่านั้น เพื่อเป็นการสร้างความสุข, ความสบายใจ และลบล้าง Mindset ความเป็นตัวร้ายของพ่อและแม่ไป ทำให้ Alison กับ Carlos ลองจัดตั้ง Yes Day ขึ้น และด้วยเหตุนี้ทำให้ความเข้าใจและสายใยของความรักที่มีมันมากขึ้นกว่าเดิม
ตัวละครสำคัญ : “Yes Day” บน Netflix
ตัวละครที่ 1: Allison Torres รับบทโดย Jennifer Garner (คุณแม่)
แน่นอนนักแสดงนำหญิงที่เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแม่แห่งวงการหนัง Comedy ใน Hollywood เลยก็ว่าได้กับ Jennifer Garner เธอรับบทเป็น Allison Torres อดีต Marketing ที่ผันตัวมาเป็นแม่บ้าน เลี้ยงลูกสามที่เต็มไปด้วยกฏระเบียบ ข้อบังคับ และความเข้มงวด ในสายตาเธอนั้นลูกๆ คือเด็กน้อยตัวเล็กๆ อยู่เสมอ แต่ทว่าในสายตาลูกๆ เธอเปรียบตัวร้ายในการ์ตูน ที่เหมือนจะคอยกังขังและจองจำพวกเขาเอาไว้ให้อยู่ในบ้านเพียงเท่านั้น
ตัวละครที่ 2: Carlos Torres รับบทโดย Edgar Ramírez (คุณพ่อ)
มันตลกดีตรงที่ Edgar Ramírez เคยได้รับบทแสดงนำในเรื่อง Carlos ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา แต่พอมาในเรื่อง Yes Day Netflix เขาก็ได้รับชื่อ Carlos Torres (น่าจะบังเอิญ ฮ่าๆ) คุณพ่อผู้เป็นหัวหน้างานในบริษัท เมื่ออยู่ในบริษัทเขามีบทบาทเป็นเหมือนตัวร้ายและเผด็จการที่คอยสั่งห้ามโน้นนี่ หรือดูแลระเบียบให้กับลูกน้องของตนเอง แต่ทว่าเมื่อกลับมาบ้านสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือรอยยิ้มจากลูกๆ ดังนั้นเมื่ออยู่ในบ้านแล้ว Carlos จึงเป็นเหมือนผู้ช่วยเหลือหรือตำรวจดีที่น่ารักในสายๆ ลูกของเขาเสมอ
ตัวละครที่ 3: Katie Torres รับบทโดย Jenna Ortega (ลูกสาวคนโต)
Katie เด็กสาววัย 14 ปี กำลังอยากรู้อยาเห็นและมีความสนใจในแบบที่วัยรุ่นมี เธอต้องการอิสระ และอยากมีความคิดเห็นการตัดสินใจเป็นของตนเอง เธอต้องการไปเที่ยวคอนเสิร์ตเพื่อดูวงดนตรีที่เธอชอบอย่างวง H.E.R กับเพื่อนสนิทของเธอ แต่ทว่าไม่ว่าจะพูดอย่างไร แม่ก็ไม่ยอมให้เธอไป ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอตั้งเงื่อนไขนึงเข้าไปใน Yes Day ว่า “หากแม่พูดคำว่า No เมื่อไร เธอจะตัดสินใจไปคอนเสิร์ตทันทีโดยไม่มีแม่”
ตัวละครที่ 4: Nando Torres รับบทโดย Julian Lerner (ลูกชายคนกลาง)
หนุ่มน้อยวัยเด็กที่ชื่นชอบและหลงใหลในวิทยาศาสตร์ ตัวป่วนที่เห็นบ้านเป็นห้องทดลอง เขามักโดยแม่สั่งห้ามให้ทำโน้นนี่อยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาเหมือนเก็บกดบวกอยากระบายความในใจ ทำให้เขาเอาการบ้านที่จะต้องส่งอาจารย์นั้น มาเป็นพื้นที่ในการระบาบความในใจที่มีต่อแม่ของเขา
ตัวละครที่ 5: Ellie Torres รับบทโดย Everly Carganilla (ลูกสาวคนเล็ก)
Ellie น้องเล็กคนสุดท้อง เป็นเหมือนเด็กน้อยตัวสนับสนุนพวกพี่ๆ เธอสนิทและมักอยู่กับพ่อมากกว่าแม่ แต่ทว่าเธอก็ไม่ใช่ไม่รักแม่ของเธอ
รีวิว Yes Day Netflix :
ต้องบอกก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งหนัง Feel Good ที่ไม่ได้มีพล็อตเรื่องหรือความแปลกใหม่ใดๆ พอคาดเดาสถานการณ์ของเรื่องได้บ้าง แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสามารถดูหนังเรื่องนี้ได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่เบื่อเลยคือ ความอบอุ่นและการนำเอา Insight ของครอบครัวจริงๆ เข้ามาในเนื้อเรื่อง บ่อยครั้งที่ในตอนเด็กๆ เรามักสงสัยและพลอยรำคาญความเยอะแยะหรือการขีดกรอบความคิด การอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ต่างๆ คำสั่งใดๆ ที่แม่มีให้เราเสมอๆ เรามักไม่เข้าใจว่าทำไม ในเมื่อเรามีชีวิตเป็นของตัวเราเองได้ แต่ทำไมท่านถึงทำกับเราเหมือนเด็ก และแน่นอนคนเป็นพ่อมักจะเป็นตำรวจดีที่เหมือนจะเข้าใจลูกๆ แต่ก็ขัดคำสั่งแม่ไม่ได้ ซะงั้น
แต่ทว่าหนังเรื่องนี้สอนให้เรารู้ถึงความในใจของคนที่เรารักทั้งสองฝ่าย อย่างที่เรารู้ๆ กันพอเราเป็นเด็กเราไม่มีวันเข้าใจหรอกว่า การที่พ่อและแม่หรือคนที่เขารักเรามองเรานั้น เขาไม่ได้มองว่าเราเติบโตแล้วแค่ไหน แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรเราจะยังเป็เด็กสำหรับเขาเสมอ สิ่งที่เขาทำนั้นอาจจะเป็นน่าเบื่อและสร้างความอึดอัดให้กับเรา แต่ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อความรักและความเป็นห่วง กลับกันลูกๆ เปรียบเสมือนกระจกเงาที่คอยสะท้อนผลลัพธ์ของความรักที่มาในรูปแบบความห่วงใยที่บางครั้งมันมากจนเกินไปให้เราได้เห็น ในบางครั้งเราลืมนึกไปว่า “สุดท้ายแล้ว เขาก็ต้องใช้ชีวิตของเขา” บางครั้งการปล่อยให้เขา ไปเผชิญโลกในแบบที่เขาอยากลอง ก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่จะคอยสอนบอกย้ำเตือนกับเขาเองว่า สิ่งที่เขาคิดถูกหรือผิด เหมาะสมและสมควรมากน้อยแค่นั้น
สิ่งเหล่านี้จะทำให้เขารู้ว่าทุกความรักที่เราให้ ที่เราบอกเป็นเพราะเรารักและห่วงเขา จนบางครั้งคนเป็นพ่อเป็นแม่อาจจะกลายเป็นตำรวจที่ดีและตำรวจที่เลวในบางเวลาเดียวกัน สุดท้ายเราว่าสิ่งที่หนังเรื่องนี้ต้องการจะบอกเราเลยคือ “ไม่ว่าเราจะดีหรือร้ายในสายตากันและกันมากแค่ไหน ครอบครัวก็คือครอบครัว ครอบครัวคือสถานที่ที่คอยอ้าแขนรับเราไว้เสมอ”
หากสาวๆ คนไหนอยากรับชมภาพยนตร์เรื่อง Yes Day Netflix (คลิกเพื่อรับชม) เราแนะนำเลยค่ะ เพราะว่าเมื่อไรที่เรายิ่งรักใครมาก เราก็อยากให้คุณดูเรื่องนี้มากเช่นกัน ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ และพบกันใหม่กับบทความหน้า บ๊ายบายค่า
Photo Credit:
Stay connected