จากความรักหวาน ๆ มาตลอด อยู่ความรักก็เริ่ม ๆ เปลี่ยนไป  แฟนดูไม่อินกับเรา แต่ไม่ได้บอกเลิกเป็นเรื่องเราแบบจริงจัง แต่เรายังคงอิน ยังคงรักเค้ามาก ๆ แต่เรื่องของความรัก คนสองคนต้องมีความรู้สึกที่ตรงกัน และเท่ากัน แต่ถ้าความรักที่เขาส่งให้มันน้อยลงมากจนเราสังเกตได้แล้ว และถ้ามันเริ่มที่จะลดแล้ว มันก็ยากที่จะให้เค้ามาคลั่งรักเราเหมือนเดิม เป็นอะไรที่ยาก ความสัมพันธ์จะมีแต่ความเหนื่อย และเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว ใครเริ่มไม่แน่ใจกับความสัมพันธ์ที่เป็น เป็นคลั่งรักอยู่ฝ่ายเดียวหรือเปล่า !? เราลองเช็ค 8 อาการชี้ชัด คลั่งรักอยู่ฝ่ายเดียว พร้อมแล้ว เราไปเช็คพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

คลั่งรักอยู่ฝ่ายเดียว

 

8 อาการชี้ชัด คลั่งรักอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าคบนาน ๆ ระวังเหนื่อย

 

1. แฟนทำนิสัยแบบเดิม ไม่พยายามปรับตัว ในสิ่งที่เราไม่ชอบ

 

คนทุกคนอาจจะมีนิสัยที่แตกต่าง ๆ มีนิสัยแปลก ๆ ที่เป็นนิสัยที่ปรับยาก เป็นก่อนที่จะคบกับแฟน แต่ถ้าเรามีแฟน เรามักพยายามปรับบางนิสัย เพื่อให้เข้าใจกันยิ่งขึ้น ไม่ใช่การเห็นแก่ตัว ทำนิสัยเดิม ๆ พฤติกรรมเดิม ๆ ที่ทำตอนโสด ซึ่งพอมีแฟนแล้ว การกระทำนั้นส่งผลต่อความรู้สึกแฟน ซึ่งในตอนคบแรก ๆ เรายังอดทนได้ แต่ถ้าเราได้ลองเปิดใจ พูดคุยกับเขา ถึงเหตุผล ในสิ่งที่เราไม่ชอบ แต่ถ้าเค้าไม่ได้รับฟัง หรือรับฟังแต่ปล่อยผ่าน ไม่ได้วี่แววในการปรับปรุงตัวเอง ในบางนิสัยที่เราทนไม่ได้จริง ๆ เราอยู่ต่อมีแต่เหนื่อยกับเหนื่อย การกลับมารักตัวเองอาจจะดีกว่า


2. เขาไม่อยากออกไปเที่ยวด้วย เราต้องแพลนทริปเองตลอด

 

เขาไม่ได้อยากออกไปเที่ยว หรือออกไปนอกสถานที่กับเรา แล้วสังเกตได้ชัดว่าเค้าอยากไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน หรือไปเที่ยวคนเดียวมากกว่าการอยู่กับเรา ถ้าเราชวน เขาจะบ่นอิดอออด บอกขี้เกียจบ้าง ไม่ว่างบ้าง หรือไม่ในวันที่เขาว่าง ๆ เขาจะไม่อยากออกมาเจอคุณเหมือนก่อน ๆ  แล้วในทุก ๆ ทริปจะกลายเป็นว่าคุณคนเดียวที่วางแพลนทริปกับเขา พอนาน ๆ เข้า เชื่อซิ ว่ายังไงเราเองเนี่ยแหละที่เป็นคนเหนื่อย


3. ไม่มาทำความรู้จัก ’คนสำคัญ ’ ของแฟน หรือ ไม่พามารู้จักครอบครัวตัวเอง

 

ในสังคมที่เราอยู่ ความรักจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนสองคน แต่ความรักจำเป็นที่ต้องมีสังคม เราจำเป็นต้องทำความรู้จักกับพ่อแม่แฟนเพื่อนสนิท รุ่นพี่รุ่นน้อง ซึ่งถ้าอยากจะมาดอง เป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ เราก็จำเป็นที่ต้องทำความรู้จักกับคนในสังคมเขา และเขาควรพาเรามาทำความรู้จักกับคนสำคัญของเขา


4. อยากได้อะไรต้องขอให้เขาทำให้ตลอด

 

จากที่เมื่อก่อนมีอะไรก็เสิร์ฟให้ทุกอย่าง บริการดูแลประดุจเราเป็นเจ้าหญิง ตอนนี้เรื่องง่ายๆ ก็ต้องขอ ทั้งที่บางเรื่องเป็น common sense ที่ควรทำให้แฟนอยู่แล้ว อย่าง ตอนกินข้าว เขาก็รินน้ำแต่แก้วตัวเองจนเธอต้องบอกว่า ” รินให้เราหน่อยได้มั้ย ” วันสำคัญไม่มีแม้แต่คำบอกรัก ไม่มีของขวัญ จากคุยแชทกันทั้งวัน กลายเป็นแชทหนักขวา คุยอยู่ฝ่ายเดียว จากสิ่งที่เขาเคยทำให้เราตลอด กลายเป็นว่าเราต้องขอให้เขาทำให้ นั้นแปลได้ง่าย ๆ ว่าเขาหมดรักเราแล้ว


5. หมดความใคร่ ไม่อยากสัมผัส จับมือ กอด จุ๊บ หรือมี SEX

 

เป็นแฟนกัน มันจะมีความรู้สึกที่ว่าอยากอยู่ด้วยกัน อยากอ้อน อยากจับมือ อยากกอด อยากหอม อยากจุ๊บ รวมถึงอยากมี Sex ถ้าเค้ายังรักเรา เขาจะต้องอยากอยู่ใกล้ ๆ อยากสัมผัสเราบ้าง คิดง่าย ๆ ถ้าเราไม่ได้ชอบหรือสนใจใคร เธอก็จะอยากรักษาระยะห่าง ไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งมาก ไม่ไปสัมผัสตัวถ้าไม่จำเป็นถูกไหม ถ้าแฟนทำกิริยาแบบเดียวกันนี้กับเรา ก็คงคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ว่า เขาก็มองเธอในมุมแบบนั้นแหละ ก็คือไม่ได้มองแบบคนรักอีกต่อไปแล้วค่ะ


6. มองว่าที่เธอเอาใจคือ ’หน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว’ ไม่เอ่ยคำหวาน ไม่ขอบคุณสักคำ

 

จากเป็นแฟนดี ๆ อยู่ ๆ กลายเป็นคนรับใช้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จากที่เมื่อก่อน แค่ทำอะไรให้เล็กน้อยสุด ๆ หยิบของให้รินน้ำให้ ให้ของขวัญเป็นการ์ดใบเดียว ก็ขอบคุณ บอกรักกันทุกวัน ตอนนี้ทำเฉย เหมือนหน้าที่ที่เธอต้องทำให้ฉัน อยู่แล้วนี่  แฟนกลับไม่มีความเห็นใจกันและกัน หรือมอบคำให้กำลังใจ และบอกรัก ถึงจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่คำว่า ” เรารักเธอ “, ” ขอบคุณเธอมากนะ “, ” วันนี้เหนื่อยมั้ย กินข้าวหรือยัง “ เป็นคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายหายท้อ ทำให้มีแรงสู้ต่อไป และยังต่อความรักไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีวันหมดอายุ ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายนึงหยุดพูดเมื่อไหร่ รักครั้งนี้ก็เตรียมนับวันถอยหลังได้เลย


7. ยิ่งคบยิ่งออกลาย นิสัยแย่ลงเรื่อย ๆ โดยไม่สนว่าเธอจะรู้สึกยังไง

 

จากข้อแรกที่บอกว่ามีนิสัยแปลก ๆ อันนั้นอาจจะหมายถึงเรื่องเล็กน้อย แต่ทำบ่อยแล้วมัน รำคาญใจ เช่น กินมูมมาม แคะขิ้ฟัน พูดเสียงดังโหวกเหวก สกปรก ไม่อาบน้ำ เป็นต้น แต่ยังมีนิสัยที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นไปอีก เช่น ขี้ขโมยของ ดื่มเหล้าหนัก สูบบุหรี่จัด ใช้เงินเกินตัวจนเป็นหนี้ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เรียกง่าย ๆ ก็ไม่สนใจว่าเธอจะคิดยังไงนั่นแหละ ก็จะทำ จะทำไม หากแฟนเป็นแบบนั้น มีสองทางคือหนึ่ง เขาเกินเยียวยาแล้ว และสอง เธออาจไม่ใช่ ‘ คนที่ใช่มากพอ ‘ ที่เขาจะยอมเปลี่ยนตัวเองให้ค่ะ ไม่ว่าจะทางไหนก็ไม่ควรไปต่อ


8. เป้าหมายในอนาคตของเธอกับเขา หันเหกันไปคนละทาง

 

เรื่องนี้จะเรียกว่าสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ คนสองคนที่ต่างที่มา ต่างพื้นเพ จะมาอยู่ร่วมกันไปอีกหลายสิบปี นอกจากความรักแล้ว เราต้องมีเป้าหมายที่มองตรงกันด้วย เพื่อจับมือเดินกันไปอย่างมั่นคง ไม่ทะเลาะกันจนแตกหักระหว่างทาง 

 

 

นี้เป็นอาการ คลั่งรักอยู่ฝ่ายเดียว เพื่อน ๆ คนไหนเจอแฟนเป็นแบบนี้ในหลาย ๆ ข้อ ต้องมุปอรเลยนะ เพราะทุ่มเทความรักไปมันก็เท่านั้น เราต้องทุ่มเทความรักให้ถูกคน  อย่าทนความสัมพันธ์ที่ Toxic อย่ายอมเค้าเอาเปรียบเราฝ่ายเดียว เชื่อมั่นตัวเองไว้ให้มาก ๆ ว่าเราจะได้เจอคนที่ดีที่เหมาะกับเรากว่านี้  เราทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ออกมาแล้วกับความสัมพันธ์ที่ Toxic

 

 

 

Photo Credit:

p1

Source Credit:

sistacafe

lamunlamai

Comments

comments