เคยบ้างไหมคะซิสที่รู้สึกว่า ชีวิตนี้ถูกเอาเปรียบเสียเหลือเกิน ต้องยอมเป็นฝ่ายเสียสละ ทำนั่นทำนี่ ทั้งที่บางทีธุระของตัวเองก็ยังไม่เสร็จ หรือยอมทำอะไรเพื่อใครบางคน ทั้งที่ตัวเองก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่หากไม่ยอมทำก็กลัวจะให้คนอื่นผิดหวัง ถ้าซิสคนไหนเป็นแบบนี้อยู่ แสดงว่ามีบุคลิกแบบ “อะไรก็ยอม People Pleaser” ซึ่งมันไม่ได้ส่งผลดีเลยนะ กับการที่จะต้องทำให้คนอื่นพอใจ แต่ตัวเองเดือดร้อน วันนี้เรามารู้จักนิสัยแบบนี้กันสักหน่อย แล้วมาดูกันว่า มันส่งผลเสียยังไง แล้วเราจะแก้ไขได้ยังไงบ้าง

 

นิสัย “อะไรก็ยอม People Pleaser” ส่งผลเสียมากกว่าผลดีเห็น ๆ

 

เป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่คนเรามักจะอยากให้คนอื่นชื่นชม ชื่นชอบ ยอมรับ ถึงปากจะบอกว่า ไม่หรอก หรือทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมล่ะคะว่า เรารู้สึกดีที่มีคนชื่นชม จนบางครั้งเราอาจจะเสพย์ติดความรู้สึกดี ๆ เวลาถูกชื่นชมเอาไว้ จนต้องยอมทำอะไรก็ตามที่คนอื่นคาดหวัง เพื่อให้ถูกชม นี่แหละมันเลยกลายเป็นหลุมพราง ที่ทำให้เรากลายเป็นคนประเภท อะไรก็ยอม หรือ People Pleaser นั่นเองค่ะ

อะไรก็ยอม People Pleaser

People Pleaser คืออะไร

คนที่มีบุคลิกแบบ People Pleaser พูดง่าย ๆ คือ คนที่พยายามอย่างหนักเพื่อจะทำให้คนอื่นพึงพอใจ ไม่ว่าตัวเองจะต้องเหนื่อย เสียเวลา หรือต้องเสียสละมากแค่ไหนก็ตาม คนประเภทนี้มักจะเป็นคนที่รู้สึกไม่มั่นคงและขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ก็จะมักจะเป็นคนที่เพอร์เฟ็กชั่นนิส คือต้องมีการซ้อมพูดกับตัวเองก่อนที่จะโทร.หาใคร เพราะกลัวความผิดพลาด คนประเภทนี้จะรู้สึกดีมาก ๆ ถ้ามีคนชม เพราะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญและมีประโยชน์

อะไรก็ยอม People Pleaser

10 สัญญาณที่บอกว่าเป็นคนประเภท People Pleaser

ใครที่กำลังสงสัยว่า ตัวเองเป็นคนแบบ People Pleaser หรือเปล่า เป็นคน “อะไรก็ยอม” แบบเกินพอดีหรือเปล่า ลองมาเช็ก 10 สัญญาณนี้กันดูค่ะ

  • ยอมไปเที่ยว ไปแฮงก์เอ๊าต์ ไปปาร์ตี้ ทั้งที่ไม่อยากไป
  • พูดว่า “ขอโทษ” ตลอด พูดบ่อยเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
  • รู้สึกวิตกกังวลเวลาคนอื่นรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจ
  • มักจะหัวเราะตามคนอื่น แม้จะรู้สึกว่าเรื่องนั้นไม่ตลกก็ตาม
  • เสนอตัวไปช่วยคนอื่นเสมอ แม้ว่าจะกำลังยุ่งอยู่ก็ตาม
  • ต้องพยายามทำเป็นสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทั้งที่เบื่อมาก
  • ลดคุณค่าของตัวเองเพื่อคนอื่น แล้วก็ต้องมารู้สึกเสียใจทีหลัง
  • รู้สึกว่าต้องมารองรับอารมณ์คนอื่น หรือต้องรับผิดชอบความรู้สึกคนอื่น
  • ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง
  • มักจะปฏิเสธไม่เป็น

อะไรก็ยอม People Pleaser

หยุดการเป็น People Pleaser กันเถอะ

สู้เขาบ้างเถอะหญิง !  เลิกเป็นคน “อะไรก็ยอม” กันดีกว่า ลองปรับเปลี่ยนนิสัยของตัวเองบ้าง คนจะได้รู้ว่า เราไม่ได้เป็นคนที่ยอมถูกเอาเปรียบได้ง่าย ๆ นะ มาดูกันค่ะซิส ว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะหยุดการเป็นคน People Pleaser 

1. ลองพูดคำว่า “เดี๋ยวจะติดต่อกลับไป” 

เป็นคำปฏิเสธแบบสุกาพที่สุดแล้ว ว่าตอนนี้เราไม่สะดวกเลย จะให้ทำอะไรให้ทันทีคงทำไม่ได้ ลองพูดคำว่า “เดี๋ยวคุยกันอีกที” “เดี๋ยวจะติดต่อกลับไป” เพื่อเป็นการบอกว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมช่วย ถ้าเขารีบมากเขาอาจจะไปให้คนอื่นทำ หรือทำเองก็ได้ เขาจะได้รู้สึกเกรงใจเราบ้าง ว่าเราก็ไม่ได้ว่างสแตนบายธุระของเขาขนาดนั้น

2. หยุดคิดสักหน่อย

คนที่ปฏิเสธคนอื่นไม่เป็นอย่างพวก People Pleaser มักจะมีปฏิกิริยาตอบกลับอัตโนมัติเวลามีคนมาขอความช่วยเหลือ ดังนั้นลองหยุดคิดสักนิดนึงว่า สิ่งที่เขาจะให้เราช่วยน่ะ เราสามารถทำได้ไหม ช่วยแล้วจะเบียดเบียนตัวเองหรือเปล่า เราจะเดือดร้อนไหม แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธ และไม่ต้องกังวลกับความเงียบ เพราะความเงียบเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และยังทำให้เราดูมั่นใจและมีพลังมากขึ้นอีกด้วย

3. อย่าพูดว่า “ทำไม่ได้” ให้พูดว่า “ไม่ทำ”

คือถ้าในภาษาอังกฤษน่ะ คำว่า “I Can’t” มันจะทำให้คนฟังรู้สึกแย่ แบบว่าพูดว่า ทำไม่ได้ มันเหมือนเป็นปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยและไม่มีความพยายาม แต่ให้พูดคำว่า “I Don’t” แทน คือกำหนดขอบเขตของเราให้รู้ไปว่า เราไม่ทำ เช่น เราไม่ดื่มเหล้า เราไม่เที่ยวกลางคืน เราไม่ทำงานส่วนนี้ มันเกินสิ่งที่เราทำเป็น ฯลฯ เพื่อบ่งบอกบอกเจตจำนงให้เขารู้ถึงการตัดสินใจของเรา ว่าเราเลือกที่จะไม่ทำสิ่งนี้ด้วยตัวเอง การพูดว่า “ไม่” เป็นการท้าทายอย่างหนึ่งในการต่อต้านคนอื่นนะ ถ้าครั้งหน้าต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำ ลองพูดอย่างหนักแน่นว่าไม่ทำ แทนที่จะบอกว่าทำไม่ได้ เพื่อไม่ให้เขาโน้มน้าวให้เราลองพยายามทำ

อะไรก็ยอม People Pleaser

4. อยู่ให้ห่างคนที่ท็อกซิก

ตอนที่ซิสกำลังอ่านอยู่ มีใครที่เรานึกถึงอยู่ในใจมั้ยคะ ว่าคนนี้แหละชอบบังคับเรา คนนี้แหละชอบมาเอาเปรียบเรา คนนี้ชอบใช้งานเรา คนที่ทำให้เราเสียเวลาและพลังงาน ถ้าใช่ก็คนนั้นแหละค่ะ พยายามอยู่ห่างกับเขาไว้ ไม่ต้องกังวลหรอก เราทุกคนย่อมมีคนประเภทนี้อยู่ในชีวิตทั้งนั้น สิ่งทำเราควรทำก็แค่พยายามตัดเขาออกจากชีวิตให้มากที่สุด ไม่อย่างนั้นจะทำให้เราเป็นทุกข์เสียเอง

5. หยุดพูด “ขอโทษ” ซ้ำ ๆ

การที่เราไม่ทำตามความต้องการของคณอื่นมันไม่ใช่ความผิดของเรานะ เราต้องจัดลำดับความสำคัญสิ่งที่ต้องทำ และต้องสู้เพื่อตัวเองบ้าง จำไว้ว่าถ้าเราไม่สู้เพื่อตัวเอง ใครจะมาสู้เพื่อเรา การพูดขอโทษซ้ำ ๆ มันเหมือนยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าเราผิด และทำให้เรารู้สึกผิดไปเรื่อย ๆ ที่จะต้องปฏิเสธ ไป ๆ มา ๆ ก็กลับไปวนลูปเดิม ว่าต้องทำตามความต้องการของคนอื่นเสมอ ๆ เก็บคำขอโทษไว้ในเรื่องที่มันผิดพลาดจริง ๆ ดีกว่า

6. อย่ายึดติดกับคนอื่นมากเกินไป

ซิสลองไปตรวจสอบความรู้สึกและความต้องการของตัวเองดูค่ะ ว่าความสุขของตัวเองมาจากการถูกชมจริง ๆ หรือเปล่า หรือสามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเอง ถ้าเราทำอะไรที่เรารัก เรามั่นใจ เราก็ไม่จำเป็นต้องเอาความสุขของเราไปผูกอยู่กับคนอื่น ดังนั้นพยายามสร้าง Self-Esteem เยอะ ๆ ไม่ต้องไปฟังคำชมจากคนอื่นมาก หรือได้รับคำชมก็ไม่ต้องรู้สึกดีจนมากเกินไป ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องพยายามเอาใจเขาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองเรื่อย ๆ

7. จำไว้ว่า เราไม่ใช่ของตาย

ฝรั่งเขานิยามคำนี้ว่า “คุณไม่ใช่พิซซ่า” เพราะอะไร? เพราะพิซซ่าเป็นอาหารที่ต้องอยู่ในทุกปาร์ตี้ แต่พิซซ่าคืออาหารธรรมดาสุด ๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นค่าเริ่มต้น ก็คือต้องมีแหละ แต่ไม่ค่อยมีใครว้าว ไม่มีใครเห็นค่า ดังนั้นซิสต้องจำไว้ว่า ซิสน่ะไม่ใช่พิซซ่า แต่ลองทำตัวเป็นอาหารว้าว ๆ จานอื่น อย่างพวก เครมบรูเล่ สเต็กเนื้อ เพื่อสร้างคุณค่าให้ตัวเอง อย่าทำตัวให้เป็นของตายค่ะ

 

พยายามสร้างคุณค่าในตัวเองให้เยอะ ๆ และรู้จักปฏิเสธเสียบ้าง เราจะได้ไม่ต้องเป็นคนประเภท People Pleaser ให้ใครมาเอาเปรียบง่าย ๆ เป็นกำลังใจให้น้องซิสทุกคนนะคะ

 

Credit Information from Mission To The Moon, medium.com, scienceofpeople.com

Credit Pictures from Freepik

Comments

comments