เชื่อว่ามีคู่รักหลายคู่ที่แต่งงานกันไป แต่ยังรู้สึกว่าควรใช้ชีวิตก่อน หาเงิน สร้างฐานะให้มั่นคงก่อน ค่อยคิดจะมีลูก ซึ่งบางทีอาจใช้เวลาอีกนาน และร่างกายของผู้หญิงเราก็เสื่อมโทรมลงทุกวัน โดยเฉพาะสุขภาพภายในและไข่ เพราะเขาว่ากันว่า ยิ่งอายุมากขึ้น คุณภาพของไข่ของผู้หญิงเราก็จะยิ่งเสื่อมลง ดังนั้นจึงมีวิทยาการทางการแพทย์ที่เรียกว่า การฝากไข่ วันนี้ซิสจะมาบอกให้ฟังกันว่า สาว ๆ ควรทำไหม ขั้นตอนเป็นยังไง แล้วควรทำเมื่อไหร่ ตามมาดูกันเลยค่ะ
การฝากไข่ ควรทำไหม ขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้าง
เดี๋ยวนี้วิทยาการทางการแพทย์พัฒนาไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกับเรื่องการวางแผนครอบครัว วางแผนการมีบุตรต่าง ๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมจะมีลูกในตอนนี้ หรือมีแนวโน้มจะมีลูกยากในอนาคต ซึ่งการฝากไข่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่กำลังได้รับความสนใจมาก ๆ ในตอนนี้ เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าการฝากไข่คืออะไร เหมาะกับใคร แล้วเราควรทำไหมนะ
การฝากไข่คืออะไร
การฝากไข่ หรือ Eggs Freezing เป็นการเก็บรักษาเซลล์สืบพันธุ์ของผู้หญิง หรือไข่ ที่มีสภาพดี และอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ออกมาจากรังไข่มาแช่แข็งในห้องปฏิบัติการ ด้วยการใช้ไนโตรเจนเหลวที่มีอุณหภูมิประมาณ -195 องศาเซลเซียส เพื่อทำให้เซลล์หยุดทำงานอย่างรวดเร็ว เป็นการคงสภาพและประสิทธิภาพของเซลล์ไว้ในสภาพเดิมได้ แล้วพอเราพร้อมที่จะมีลูกแล้ว ก็นำไข่มาผสมกับสเปิร์ม เป็นการปฏิสนธิภายนอก จนเมื่อเป็นตัวอ่อนแล้วก็นำกลับไปฝังตัวที่ผนังมดลูก เกิดการปฏิสนธิ และเจริญเป็นตัวอ่อนในครรภ์ได้
ทำไมต้องฝากไข่
ตามปกติแล้ว วัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิงจะดีที่สุดตอนอายุ 25 ปี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะพร้อมมีลูกในช่วงนั้น อาจจะด้วยสภาพเศรษฐกิจ สังคม หน้าที่การงานใด ๆ กว่าจะพร้อมมีลูกจริง ๆ บางคนก็เลย 35 ปีไปแล้ว ซึ่งช่วงนั้นโอกาสตั้งครรภืตามธรรมชาติก็จะยากขึ้น ซึ่งคุณหมอบอกว่า ตั้งแต่เกิดมาผู้หญิงมีเซลล์ไข่ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเป็นจำนวน 1 – 2 ล้านเซลล์ แต่ก็จะเริ่มฝ่อตั้งแต่เกิดเช่นเดียวกันซึ่ง ในแต่ละเดือนจะมีไข่ที่โตประมาณ 1,000 ใบ แต่จะมีไข่ที่ตกเพียง 1 ใบต่อเดือนใบอื่น ๆ ก็จะสลายฝ่อไป ยิ่งเวลาผ่านไป เซลล์ไข่ในตัวเราก็จะหายไป ไม่มีการสร้างขึ้นใหม่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมยิ่งอายุเยอะยิ่งมีลูกยาก การฝากไข่จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ค่อนข้างการันตีการมีลูกได้เมื่อพร้อม
ใครบ้างที่ควรฝากไข่
ซิสเชื่อว่ามีน้องซิสหลายคนแหละที่คิดว่า ทำไมจะต้องฝากไข่ด้วย ทำไมไม่ใช้วิธีธรรมชาติ แต่มันก็มีจริง ๆ นะคะ ที่คนทำทุกวิธีแล้ว แต่ยังไม่มีลูก ดังนั้นการฝากไข่จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนต่อไปนี้ค่ะ
– คนที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ แต่กลัวว่าอายุเยอะขึ้นแล้วจะมีลูกยาก โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
– คนที่รู้ตัวว่าสุขภาพภายในไม่ค่อยดี หรือมีลูกยากแน่นอน
– คนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ เสี่ยงต่อการมีลูกยาก
– ครอบครัวเคยมีประวัติประจำเดือนหมดเร็วคือเร็วกว่าอายุ 47 – 50 ปี เพราะถ้าคนในครอบครัวประจำเดือนหมดเร็ว เราก็อาจจะมีสิทธิ์ประจำเดือนหมดเร็วด้วย ทำให้โอกาสการมีลูกก็น้อยลง ระยะเวลาที่สามารถตั้งครรภ์สั้นกว่าคนอื่น ๆ
– มีปัญหาพันธุกรรมเกี่ยวกับรังไข่ เป็นปัญหาที่ทำให้รังไข่เสื่อมเร็ว
– ต้องเข้ารับการผ่าตัดรังไข่ เช่น การผ่าตัดถุงน้ำรังไข่ เนื้องอกรังไข่ หรือช็อกโกแลตซีสต์ เป็นต้น
– คนที่กำลังรักษามะเร็ง หรือเสี่ยงเป็นมะเร็ง เพราะการฉายแสง หรือการใช้เคมีบำบัดส่งผลกระทบต่อจำนวนและคุณภาพของเซลล์ไข่ บางคนอาจโรคร้ายต้องตัดรังไข่ ซึ่งถ้ารักษาหายแล้วและอยากมีลูก การฝากไข่ช่วยได้
เมื่อไหร่ที่ควรฝากไข่
จริง ๆ แล้ว การฝากไข่สามารถทำได้ทุกช่วงอายุเลยค่ะ แต่แนะนำว่า ควรฝากก่อนอายุ 35 ปี เพราะอย่างที่บอกว่า ยิ่งอายุมาก จำนวนเซลล์ไข่ของผู้หญิงก็จะลดลง เซลล์ไข่คุณภาพดีก็จะน้อยลงตามไปด้วย ดังนั้นหากฝากได้ในช่วงอายุ 25 – 30 ปีได้ก็จะดีค่ะ เพราะสมมติเราฝากไข่ตั้งแต่อายุ 25 ปี แต่พร้อมมีลูกตอนอายุ 35 ปี คุณภาพไข่ของเราก็จะยังเป็นไข่ที่อายุ 25 ปีค่ะ
การฝากไข่ทำยังไง
ถ้าซิสอยากจะฝากไข่ ก็จะมีขั้นตอนคือ ตรวจเลือด และตรวจโรคติดเชื้อต่าง ๆ แล้วจึงเริ่มจากการผ่านกระบวนการกระตุ้นไข่และการเก็บไข่ โดยการดูดเซลล์ไข่ผ่านทางช่องคลอด คัดเอาไข่ที่อยู่ในระยะสมบูรณ์ เพื่อแช่แข็ง และเก็บรักษาไว้ในไนโตรเจนเหลว โดยจะเก็บครั้งละ 10 – 20 ใบ ตามจำนวนไข่ต่อรอบเดือนของผู้หญิง ซึ่งการฝากไข่หนึ่งครั้ง จะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันแรกที่พบแพทย์ ฉีดฮอร์โมนกระตุ้นไข่ตก จนถึงวันเก็บไข่ ทั้งยังสามารถเก็บไข่ได้นานไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่ยังมีสารรักษาความเย็นเพียงพอ แต่ก็แนะนำว่า ให้นำไข่ออกมาใช้ก่อนอายุ 50 ปี เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ได้ค่ะ แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะ ว่าวิธีการนี้ไม่สามารถเลือกเพศลูกได้นะคะ
ข้อดีข้อเสียของการฝากไข่คืออะไร
หากเปรียบเทียบข้อดี – ข้อเสียของการฝากไข่ ก็ต้องบอกว่ามีข้อดีเยอะมากพอสมควรค่ะ เช่น รักษาเซลล์สืบพันธุ์ที่คุณภาพดี มีลูกตอนอายุมากก็ทัน, จะช่วยลดโอกาสในการที่ลูกจะเป็นดาวน์ซินโดรม หรือโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากแม่ที่อายุมาก, ป้องกันการมีบุตรยาก, ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถวางแผนการมีลูกได้ด้วยตัวเอง ส่วนข้อเสียก็คือ มีราคาสูง และมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาไข่ต่อปี และอาจทำให้ผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์รู้สึกกังวล เนื่องจากต้องฉีดยากระตุ้นไข่ และเก็บไข่ผ่านทางช่องคลอด
ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่ประมาณเท่าไหร่
โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่ จะอยู่ประมาณ 100,000 – 150,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานพยาบาล นอกจากนั้น ยังมีค่าฝากไข่รายปีอีก ประมาณ 1,500 – 5,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล และจำนวนไข่ที่ต้องการเก็บค่ะ
.
อย่างที่ซิสบอกไปว่า การฝากไข่มีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับคนที่อยากวางแผนมีลูกแน่ ๆ แค่ยังไม่พร้อมในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรไปปรึกษาคุณหมอกันก่อน เพื่อหาวิธีวางแผนครอบครัวที่เหมาะสมที่สุดค่ะ
.
Credit Information from www.ekachaihospital.com, hdmall.co.th, beyondivf.com
Credit Pictures from Freepik
Stay connected