ก่อนจะเริ่มดูซีรีส์ใหม่ปี 2023 เพื่อน ๆ ตามเก็บซีรีส์ดัง 2022 ครบแล้วหรือยัง !? ถ้ายัง วันนี้เราพาเพื่อน ๆ ไปเช็คลิสด์ซีรีส์ 2022 และ ย้อนดูซีรีส์ดัง 2022 แต่ละเรื่องที่คัดมา บอกเลยว่ากระแสมาแรงฉุดไม่อยู่ สนุกแบบที่หยุดดูไม่ได้ ใครยังตามเก็บไม่ครบ แนะนำให้ตามเก็บให้ครบก่อน อยากรู้แล้วซิว่าจะมีซีรีส์เรื่องไหนบ้าง พร้อมแล้วเราไปดูกันเลย !
ที่สุดของที่สุด ! ย้อนดูซีรีส์ดัง 2022 กระแสแรง สนุกสุดแบบที่ไม่ควรพลาด
1.All of Us Are Dead
เริ่มต้นด้วยเรื่องแรก ซีรีส์ที่ผ่านการดัดแปลงมาจากเว็บตูนยอดนิยม แนวเกี่ยวกับซอมบี้ แนวเกี่ยวกับซอมบี้ มีทั้งสิ้น 8 ตอน โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับ เหตุการณ์สุดสยองขวัญ เกิดที่ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ที่อยู่ ๆ ก็ถูกครอบงำโดยไวรัสซอมบี้ ทำให้เหล่านักเรียนในโรงเรียนติดเชื้อลุกลามกันอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงนักเรียนบางส่วนที่ถูกทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยวตามส่วนต่าง ๆ ของโรงเรียน เราจะได้เห็นการต่อสู้ของเหล่านักเรียน การเอาชีวิตรอดให้พ้นวิกฤตที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะมีพล็อตเรื่องซอมบี้คล้าย ๆ กับ Train to Busan, Rampant, Peninsula, Kingdom และ #Alive แต่เรื่องนี้กลับได้รับกระแสดี และหลายคนรอติดตามชมในซีซันหน้า ใครยังไม่ได้ดูซีซั่นนี้ต้องรีบดู เพราะในปี 2023 เตรียมลง Netflix พร้อมให้เรารับชมแล้วค่ะ
2.Twenty Five, Twenty One
ซีรีส์แนวรอมคอม อบอุ่นหัวใจ บอกเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1998 – 2021 โดยในเรื่องที่ได้นำพาคนทั้ง 2 มาเจอกันตั้งแต่วัยเยาว์ไปจนถึงวัยทำงานโดยจะเล่าถึงเรื่องราวใน 4 ช่วงเวลา เขาอายุ 22 ส่วนเธออายุ 18 ปีในช่วงเวลานี้ทั้งสองได้พบกันเป็นครั้งแรกแต่การพบกันในครั้งนี้ก็จบลงด้วยการที่ทั้งคู่ทำร้ายซึ่งกันและกัน แต่เมื่อทั้งคู่อายุ 24 และ 20 ปี พวกเขาทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้งและเรียนรู้ที่จะเชื่อใจซึ่งกันและกัน และเมื่ออายุ 25 และ 21 พวกเขาก็ตกหลุมรักกัน เป็นซีรีส์จะถ่ายทอดเรื่องราวความรัก การเติบโต มิตรภาพของเหล่าคนวัยเยาว์ และการถ่ายทอเเรื่องราวความรักของคน 2 คนนี้ ที่ทำเอาใครหลายคนซึ้งไปตาม ๆ กัน
3.Sweet Tooth
Sweet Tooth ถูกดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดัง เรื่องราวเกี่ยวกับ อยู่ ๆ เกิดเหตุการณ์โรคระบาดขึ้น ที่พรากชีวิตของผู้คนไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติขึ้นตามมาไม่หยุด เมื่อเหล่าเด็กทารกแรกเกิดเริ่มกลายร่างเป็นไฮบริดหรือพวกครึ่งคนครึ่งสัตว์อย่างไม่ทราบสาเหตุ และด้วยความชุลมุนวุ่นวายที่ไม่อาจควบคุมได้ โลกก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความพินาศในที่สุด
จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 10 ปี โลกที่เหมือนจะหยุดนิ่งมานานก็ค่อย ๆ กลับมาเคลื่อนที่อีกครั้ง เมื่อ กัส (คริสเตียน คอนเวอรี) ไฮบริดลูกครึ่งกวางที่เติบโต และอาศัยอยู่ท่ามกลางผืนป่าอันสงบสุข ได้พบกับ เจพเพิร์ด (นอนโซ อะโนซี) ชายพเนจรร่างใหญ่โดยบังเอิญ กัสจึงอ้อนวอนขอให้เจพเพิร์ดช่วยเขาตามหาแม่ของตัวเองตามที่ ริชาร์ด (วิลล์ ฟอร์เท) พ่อผู้ล่วงลับได้ทิ้งเบาะแสสำคัญไว้ให้ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยเพื่อตามแม่ของกัสบนโลกสีเทาอันกว้างใหญ่ พร้อมกับต้องคอยหลบหนีการตามล่าของกองกำลังลาสต์เมนที่กำลังไล่ล่าเหล่าไฮบริด เนื้อเรื่องมีสนุก ดูเพลิน สร้างความตื่นเต้นให้เราได้ตลอดทั้งเรื่อง
4.The Glory
ซีรีส์เรื่องใหม่ที่พึ่งเข้า Netflix เมื่อวัน 30 ธํนวาคมที่ผ่านมา เนื้อเรื่องเล่าถึงนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งที่ชื่อว่า มุนดงอึน (ซงฮเยคโย) เธอใฝ่ฝันมาตลอดว่าวันหนึ่งเธอจะได้ทำงานเป็นสถาปนิก แต่ผลปรากฏว่าเธอได้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในโรงเรียน เธอลาออกจากโรงเรียนมัธยม เพราะถูกรังแก จากนั้นไม่นานเธอก็วางแผนแก้แค้นคนที่ทำให้เธอสูญเสียอนาคต เมื่อมุนดงอึนโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ถึงเวลาแก้แค้นของเธอ คนที่ทำร้ายเธอตอนนั้นแต่งงาน และมีลูกแล้ว ซึ่งลูกของพวกเขาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาแล้ว ส่วนมุนดงอึนในปัจจุบันก็ได้กลายเป็นครูประจำชั้นของเด็กคนนั้น แน่นอนว่าแผนการแก้แค้นที่โหดเหี้ยมกำลังเริ่มต้นขึ้นค่ะ
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ได้นางเอกดังอย่างซองเฮเคียว ประกบคู่กับนักแสดงรุ่นน้องอีโดฮยอน เนื้อหาเรื่องนี้มีความเข้มข้น ลุ้นระทึกไปกับนางเอกในทุก ๆ ตอน ซึ่งในซีซั่นนี้มีทั้งหมด 8 ตอน และยังไม่จบเพียงเท่านี้ เรื่องนี้ยังมีต่อในซีซั่นหน้าอีกด้วย ใครชอบหนังสไตล์ล้างแค้น เดือด ๆ ต้องเรื่องนี้เลยค่ะ
5.Wednesday
อีกหนึ่งเรื่องมีเป็นกระแสดังมากเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลก โดยหนึ่งในสิ่งที่ผู้ชมส่วนใหญ่ชื่นชอบคงหนีไม่พ้นตัวละครหลักอย่าง Wednesday Addams ที่มีคาแร็คเตอร์ที่มีความเอกลักษณ์ มีความปากแซ่บ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องหลงรัก โดยตัวละครนี้ มีนักแสดงนำ คือ Jenna Ortega (เจนน่า ออร์เทก้า) นักแสดงสาวดาวรุ่งวัย 20 ปีที่สามารถถ่ายทอดคาเรคเตอร์มาได้อย่างน่าสนใจ
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เวนส์เดย์ (เจนนา) เด็กสาวที่เป็นเหมือนขบถสังคมในสายตาของใครหลายคน แต่กลับเฉิดฉายได้อย่างโดดเดี่ยว แต่แล้วพ่อแม่ของเธอก็ได้ส่งเธอเข้าสู่โรงเรียนเนเวอร์มอร์ แสนแปลกประหลาด โรงเรียนที่จะนำพา เวนส์เดย์ไปพบพากับเรื่องราวเหตุการณ์ฆาตกรรมทั้งในเมือง โรงเรียนที่เธอจะต้องไขปริศนาที่พ่อแม่ของเธอเข้าไปพัวพันเมื่อ 25 ปีก่อน
6.Extraordinary Attorney Woo
ซีรีส์เกาหลีอีกหนึ่งเรื่องเลยที่แนะนำให้ดู เนื้อหาตลกให้แง่คิดดี ๆ แก่เรา เรื่องนี้เกี่ยวกับ ทนายความสาว วัย 27 ปี ที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ หรือ โรคบกพร่องในการเข้าสังคม และยังมีพฤติกรรมความสนใจหรือชอบทำอะไรแบบซ้ำ ๆ แต่เธอเป็นอัจฉริยะที่มีไอคิวสูงถึง 164 ความจำเป็นเลิศ และเธอยังเรียนจบจากสถาบันนิติศาสตร์ สาขากฎหมาย ทำให้เธอได้เข้ามาเป็นทนายความในสำนักงานกฎหมาย เมื่อเธอได้เข้ามาทำงานก็มีคนที่พากันกังขาในตัวเธอ และเธอก็ได้พบกับ อีจุนโฮ (รับบทโดย คังแทโอ) หนุ่มหล่อประจำสำนักงานที่จะกลายมาเป็นผู้ช่วยเธอในการไขคดี
7.The Good Doctor
ซีรีส์เกี่ยวกับวงการแพทย์ที่เนื้อเรื่องมีความเข้มข้นไม่แพ้ซีรี่ย์แพทย์เรื่องอื่น ๆ แต่จุดเด่นที่สร้างความประทับใจคือตัวเอกของเรื่องเป็นคนที่มีอาการออทิสติก แต่มีพรสวรรค์ด้านการแพทย์จึงได้รับโอกาสเข้ามาทำงานในโรงพยาบาล ที่แม้ว่าจะโดนข้อกังขา และได้รับความไม่วางใจจากคนไข้บ่อยครั้ง แต่เขาก็ดูแลคนไข้อย่างเต็มกำลังทุกครั้ง ซีรี่ย์มีทั้งหมด 3 ซีซั่น ดูได้ยาว ๆ ไม่มีเบื่อเลยค่ะ
8. Business Proposal
ซีรีส์แนวรอมคอมสุดคิ้ว ชวนฟิน สร้างมาจากเว็บตูนชื่อดัง เรื่องราวของ ชินฮารี ( คิมเซจอง) พนักงานในบริษัทแห่งหนึ่ง เธอเป็นหญิงสาวธรรมดาที่ไม่ได้โดดเด่น แต่เมื่อไหร่ที่เธอได้แต่งหน้าและแต่งตัวเธอจะกลายเป็นสาวสวยราวกับคนละคน แต่แล้วเรื่องราววุ่นๆ ก็เริ่มขึ้น เมื่อเพื่อนสนิทของเธอ จินยองซอ ( ซอลอินฮา) หญิงสาวที่มีฐานะร่ำรวย ได้จ้างให้ชินฮารีไปนัดบอร์ดแทน โดยให้ชินฮารีปลอมตัวเป็นจินยองซอ แต่ก็มีเรื่องน่าตกใจ เมื่อคนที่เธอต้องมาเดทด้วยก็คือ คังแทมู ( อันฮโยซอบ) CEO ของบริษัทที่ชินฮารีทำงานอยู่นั่นเอง! แน่นอนว่าเขารู้ได้เลยว่าเธอไม่ใช่คู่เดทตัวจริงของเขา คังแทมูจึงได้เสนอให้ชินฮารีมาแต่งงานในนามกับเขาเพื่อธุรกิจ
เราได้พาทุกคน ย้อนดูซีรีส์ดัง 2022 กันไปแล้ว ใครพลาดเรื่องไหนไป แนะนำให้เปิดใจลองดู ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เนื้อหาดี สนุก ดูได้ทุกเพศทุกวัยเลยจริง ๆ วันนี้เราขอตัวไปก่อน เจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย
Photo Credit:
Source Credit:
Stay connected