สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Netflix ได้ปล่อยซีรีส์แนวว Drama – Thriller ที่สร้างมาจากเรื่องจริงที่น่าเศร้าสลดใจอีกทั้งยังเป็นโศกนาฎกรรม ของชาว Milwaukee ประเทศสหรัฐอเมริกาไม่น้อยเลยทีเดียวนั่นก็คือ “DAHMER – Monster: The Jeffrey Dahmer Story” ด้วย Background และเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ทำให้ Clubsister อย่างเราไม่พลาดที่จะ รีวิวพร้อมเจาะลึกเชิงจิตวิทยากับ “ซีรีส์ Dahmer” ใน Netflix นี้กันเสียหน่อย มาดูกันว่าเพราะอะไร เหตุผลอะไรที่ทำให้คนคนนึงกลายเป็นปีศาจ ฆาตกรต่อเนื่อง 17 ศพมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี
รีวิวพร้อมเจาะลึกเชิงจิตวิทยากับ “ซีรีส์ Dahmer” ใน Netflix
**บทความนี้เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวและอ้างอิงจากข่าวเท่านั้น
***ทางนักเขียนขอร่วมแสดงการไว้อาลัยบุคคลที่ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวนี้
****บทความนี้มีการเปิดเผยข้อมูลและบางฉากในเรื่อง
เรื่องย่อและที่มาของเรื่อง
ซีรีส์ Dahmer หรือซีรีส์ที่สร้างพร้อมทั้งเป็นเหมือนเสียงสะท้อนความคิดและการกระทำ รวมถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากฆาตกรชายต่อเนื่องที่มีเชื้อสายอเมริกาโดยแท้อย่าง Jeff Dahmber หรือในชื่อเต็มที่ว่า Jeffrey Lionel Dahmer บางคนอาจจะรู้จักในชื่อ Milwaukee Cannibal หรือ Milwaukee Monster
โดยฉายาดังกล่าวถูกตั้งขึ้นจากข้อหา ฆาตกรรมเหยื่อ พร้อมแยกชิ้นส่วน (จากข่าวและในตัวซีรีส์มีการบอกว่านำไปรับประทานด้วย) ทั้งหมด 17 ศพ อย่างไตร่ตรองและคิดอย่างถี่ถ้วน ตั้งแต่ปี 1978 – 1991 โดยเหยื่อของ Dahmer ส่วนใหญ่จะเป็นคนปิวสี คนเอเชีย และ คนที่อพยพ ว่ากันง่ายๆ ไม่ใช่คนที่เป็นชาวอเมริกาโดยพื้นเพ
Photo Credit 1: joblo
ซึ่งเรื่องราวของ Dahmer เป็นที่น่าสนใจของแหล่งข่าวและผู้คนเป็นอย่างมากว่า ชายผู้ซึ่งอายุ 20 ตอนปลาย ที่ดูภายนอกหน้าตาค่อนข้างโอเค แต่ทำไมถึงมีจิตใจที่เหี่ยมโหดอำมหิตได้ขนาดนี้ ไม่เพียงแค่นั้น ทำไมตำรวจและทางการถึงปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี โดยที่ไม่มีใครรับรู้เลย
ตัวละครสำคัญของเรื่อง
ตัวละครที่ 1: Jeffrey Lionel Dahmer
แสดงนำโดย: Evan Peters
Photo Credit 2: cnet
หากใครที่เป็นคอหนัง Horror ชื่อดังของอเมริกาที่เรียกได้ว่า ชาว Streming จำต้องรู้จักทุกคนนั่นก็คือ American Horror Story และในครั้งนี้ Evan พลิกบทบาทความหลากหลายของตัวละคร
มาแสดงเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่เรียกได้ว่าเหี้ยมโหดและจิตสุดอย่าง
Jeff Dahmer Jeff Damher หรือ Jeffrey Lionel Dahmer เป็นลูกชายคนโตของ ไลโอเนล และ จอยซ์ ในวัยเยาว์ช่วงอายุประมาณ 1 – 3 ขวบนั้น เขาเป็นเด็กชายที่ดูเหมือนจะไม่มีภาวะผิดปกติอะไร แต่ทว่าตอนเขาอายุ 4 ขวบ ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนและเป็นการผ่าตัดใหญ่ จากโรคลำไส้ หลังจากนั้นมา เขากลายเป็นเด็กชายที่เก็บตัว ไม่พูด และดูเก็บกด
ตัวละครที่ 2: Lionel Dahmer
แสดงนำโดย: Richard Jenkins
Photo Credit 3: radiotimes
ตัวละครตัวนี้ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่น่าสงสารไม่น้อยไปกว่า เหยื่อหรือผู้เคระห์ร้ายจากในซีรีส์ Dahmer เลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Jeff ชื่นชอบการทดลองต่างๆ กับบเหยื่ออีกด้วย นั่นก็คือคุณพ่อของ Keff หรือ Lionel Dahmer ชายผู้ซึ่งหย่าร้างจากภรรยาและแบ่งลูกชายทั้งสองในตระกูล เขาเป็นคนเลี้ยงดู Jeff ลูกชายคนโต ที่ดูเข้าถึงได้ยาก ถึงแม้เขาจะทำงานหนักหรือไม่ค่อยมีเวลาให้กับเจฟ แต่คนดูอย่างเราสัมผัสได้ว่า เขารักเจปอย่างสุดหัวใจ
ตัวละครที่ 3: Glenda Cleveland
แสดงนำโดย: Niecy Nash
Photo Credit 4: looper
เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ค่อนข้างสำคัญมากๆ ในซีรีส์ Dahmer เพราะเธอเป็นเพื่อนบ้านที่รับรู้และสังเกตเห็นถึงพฤติกรรมที่ดูไม่ชอบมาพากลในตัวของเจฟมาโดยตลอด
ตัวละครที่ 4: Tracy Edwards
แสดงนำโดย: Shaun J. Brown
Photo Credit 5 : netherlands
ตัวอีกหนึ่งตัวละครที่เหมือนบทจะน้อย แต่บอกได้เลยว่าเป็นเหยื่อคนสุดท้ายที่ทำให้ Dahmer ถูกจับกุม และ สิ้นสุดการสังหารเหยื่อทั้งหมดได้
ตัวละครที่ 5: Sayamone Sinthasomphone
แสดงนำโดย: Somlit Inthalangsy
Photo Credit 6: womenshealthmag
หนุ่มชาวลาววัยเพียง 14 ปี เป็นชาวอพยพย้ายถิ่นฐาน ที่เป็นเหยื่อชาวเอเชียเพียงคนเดียวที่เจฟสังหารอย่างเหี้ยมโหด (ก่อนที่จะลงมือสังหารนั้น จริงๆ แล้วตัวของเหยื่อเองหนีรอดออกมาได้แล้ว และพบกับตำรวจแล้ว แต่ทว่าด้วยคำพูดของเจฟทำให้ตำรวจปล่อยให้เจฟพาตัวเขากลับไปยังนรกอีกครั้ง)
ตัวละครที่ 6: Tony Hughes
แสดงนำโดย: Rodney Burford
Photo Credit 7: thetab
นายแบบมือสมัครเล่น ที่เป็นคนหูหนวก เขาเดินทางจากบ้านเกิดเพื่อมายังเมือง Milwaukee เพื่อตะกายดาวเป็นนายแบบมืออาชีพและเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเฉพาะทางสำหรับผู้ที่พิการทางด้านการได้ยิน
วิเคราะห์และรีวิว
Photo Credit 8: newyorker
เอาละต่อมาเป็นที่การวิเคราะห์ตัวละครและสภาพจิตใจของเจฟกันบ้าง หากใครได้มีโอกาสดูซีรีส์ Dahmer เรื่องนี้แล้วละก็จะรู้ได้ทันทีว่า จริงๆ แล้วพื้นแท้ในจิตใจของเจฟเอง เขาไม่ได้เป็นคนที่มีพิษมีภัย เป็นเพียงเด็กชายคนนึงที่ต้องการความรักจากคนรอบข้าง ความเข้าใจ และต้องการเป็นที่ยอมรับเท่านั้น ด้วยครอบครัวที่แม่ป่วยเป็นโรคจิตเวช และพยายามฆ่าตัวตายตลอดเวลา (คาดเดาว่าซึมเศร้า) พ่อที่ไม่มีเวลาให้ทำแต่งาน ทุกครั้งที่พ่อกับแม่เจอกันก็ต้องทะเลาะกันทุกที
Photo Credit 9 : wegotthiscovered
ด้วยเหตุนี้ทำให้เจฟขาดการดูแลและเอาใจใส่ เกิดภาวะความเครียดและเก็บกดตั้งแต่ยังเด็ก
เมื่อโตขึ้นเข้าเรียน เพื่อนร่วมชั้นก็มองว่าเขาเป็นเด็กประหลาด ไม่ได้เป็นที่ยอมรับเสียเท่าที่ควร ว่ากันง่ายๆ ชีวิตของเจฟตั้งแต่เด็กยันโดต เขาแสวงหาการยอมรับและความรักมาโดยตลอด นั่นจึงทำให้คนดูอย่างเราสังเกตเห็นได้ว่า พ่อ เป็นเหมือนเพียงคนเดียวในครอบครัวที่เขากล้าที่จะพูดด้วย หรือเรียกร้องความเข้าใจ (อย่างฉากดังกล่าว เราจะเห็นว่าพ่อและเจฟพูดคุยกัน แต่ทว่าก็ยังมีช่องว่างระหว่างกันอยู่ ฉากนี้สะท้อนให้เห็นกำแพงบางๆ แห่งความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้นระหว่างพ่อและลูกคู่นี้)
Photo Credit 10: nytimes
ไม่เพียงแค่นั้นพ่อยังเป็นเหมือนคนปูทางที่ทำให้เขารักและชอบการสตาฟสัตว์ การชำแหละศพสัตว์ รวมถึงการทดลองต่างๆ ที่เกี่ยวกับอวัยวะอีกด้วย นอกจากนี้เรายังเห็นได้อีกว่าเจฟ เป็นเด็กชายที่มีรสนิยมทางเพศกับเพศเดียวกัน อีกทั้งยังชื่นชอบอวัยวะที่มันวาวและนูน เขาจะรู้สึกมีอารมณ์แทบทุกครั้งที่ได้สัมผัสกันมัน นอกจากเรื่องนี้แล้ว
ในประวัติจริงๆ ทางการระบุว่าเจฟนั้นป่วยเป็นโรค BPD borderline personality disorder (คล้ายไบโพล่าแต่รุนแรงกว่า)โดยจะมีอาการที่ผู้แวยจะเครียดง่าย อารมณ์สวิงอย่างสุดขั้ว เวลาดีใจจะดีใจมาก เวลาเศร้าหรือโกรธ จะทวีคูณมากด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีความไม่ไว้วางใจสังคม โดยสาเหตุการเกิดส่วนมากเกิดจากพันธุกรรมและความเครียดจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก
ถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะสร้างความประทับใจอีกทั้งสะท้อนสังคมในเรื่องการเหยียดสีผิวที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน จนทำให้เกิดโศกนาฎกรรมนี้ขึ้น แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ซีรีส์ Dahmer เรื่องนี้ถูกกระแสสังคมโดยเฉพาะญาติหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่างพ่อแม่และญาติของเหยื่อ พลเมือง Milwaukee เกิดคำถามและข้อสงสัยของการนำประวัติในเรื่องนี้ขึ้นมาเผยแพร่ใหม่อีกครั้งด้วยเช่นกัน
Stay connected