ฮาย ฮาย สาวๆ ชาว Clubsister ที่น่ารักทุกๆ คนค่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้มีซีรีส์ญี่ปุ่นที่อยู่ๆ ก็ได้รับกระแสและเป็นที่นิยมกันอย่างล้นหลามสำหรับแฟนคลับ Netflix จนทางเรา ก็อดพูดถึงไม่ได้ และด้วยเหตุนี้ทำให้กระแสซีรีส์ญี่ปุ่นเป็นที่จับตามองขึ้นมาอีกครั้ง วันนี้ซิสเลยขอแนะนำและเอาใจชาวแจ๊ปและนิปปอนกันซักนิดกับ “แนะนำ 4 ซีรีส์ญี่ปุ่นบน Netflix ที่ชาวแจ๊ปทุกคนไม่ควรพลาด!” บอกเลยว่า แต่ละเรื่องนั้นเด็ดๆ ทั้งนั้น งั้นอย่ารอช้าไปเริ่มที่เรื่องแรกกันเลยค่า
“แนะนำ 4 ซีรีส์ญี่ปุ่นบน Netflix ที่ชาวแจ๊ปทุกคนไม่ควรพลาด!”
เรื่องที่ 1: Alice in Borderland (คลิกเพื่อรับชมซีรีส์)
จำนวนซีซั่น: ณ ปัจจุบัน 1 ซีซั่น (ซีซั่น 2 ในปี 2021)
เฉลี่ยเวลาต่อตอน: 30 นาที
และซีรีส์ญี่ปุ่นบน Netflix เรื่องแรกที่เราอยากจะแนะนำให้สาวๆ ได้รู้จักกันนั้น เป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าฮอทฮิตในตอนนี้ อีกทั้งเมื่อเริ่มฉายไม่กี่วันก็ไต่อันดับขึ้นมาครอง Top 3 กันเลยทีเดียว และจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่อง Alice in Borderland เป็นซีรีส์น้องใหม่จาก Original Netflix Japan ที่ถูกสร้างมาจากมังงะชื่อดังที่ใช้ชื่อว่า “อลิสในดินแดนรณะ” ไม่เพียงแค่นั้นก่อนที่ทาง Netflix จะนำมาทำเป็นซีรีส์เรื่องเด็ดนี้ ได้นำไปทำเป็นอนิเมะมาก่อน
โดยเป็นเรื่องราวของ “อริสุ เรียวเฮ” หรือที่เพื่อนๆ ของเขาเรียกว่า อลิส ชาวหนุ่มวัยรุ่นตอนปลายที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว เขาเป็นคนสมองดี ช่างสังเกตและชอบเล่นเกม แต่ทว่าเป็นคนไม่เอาไหน ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย เรียกได้ว่าครบเครื่องฉบับ Loser เลยก็ว่าได้ จนวันหนึ่งเขาหนีออกจากบ้านเพื่อนไปเที่ยวเล่นในเมืองกับเพื่อนสนิทของเขาทั้ง 2 คนนั่นก็คือ โชตะ และ คุราเบะ
แต่ทว่าในขณะที่พวกเขาสามคนก่อเรื่องและเข้าไปหลบในห้องน้ำนั้น อยู่ๆ ไฟฟ้าก็ดับ เครื่องมือสื่อสารใช้การไม่ได้ ทำให้อลิสเริ่มสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในเมือง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ “อลิสในดินแดนมรณะแห่งนี้”
สิ่งที่ทำให้เราชอบซีรีส์ญี่ปุ่น บน Netflix เรื่องนี้เลยคือ การสะท้อนเรื่องราวและปมในอดีตของแต่ละตัวละคร ทำให้เราเห็นทัศนคติ ความคิดความอ่าน อีกทั้งสิ่งเหล่านี้หล่อหลอมรวมกันเป็นพฤติกรรมและลักษณะนิสัยของแต่ละตัวละคร ด้วยเหตุนี้ทำให้มิติแต่ละตัวละครที่โผล่มาในแต่ละตอนนั้น ยิ่งน่าค้นหายิ่งจึ้น
ไม่เพียงแค่นั้นซีรีส์ใช้โทนสีภาพและวิธีการเล่าเรื่องที่เจ๋งไม่น้อยกว่าซีรีส์ชื่อดังเรื่องอื่นๆ เลยก็ว่าได้ ในตอนที่อึดอัดและต้องการให้คนดูอย่างเรารู้สึกเช่นเดียวกับตัวละครในเรื่อง โทนสีภาพจะคุมโทนเทา / ดำ / แดง แบบนี้เรื่อยๆ แต่พอถึงฉากที่ต้องการให้ตัวละครในเรื่องรู้สึกปลดปล่อยโทนสีภาพเปลี่ยนสวิงมาเป็นสีอมฟ้าและขาวได้ดี
แต่สิ่งที่ชอบเป็นที่สุดของซีรีส์เรื่องนี้เลยคือ การสะท้อนคำถามที่เหล่ามนุษย์ทุกคนล้วนพยายามที่จะหาคำตอบกับมันอยู่เสมอว่า “คนเราเกิดมามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร” เราเชื่อว่าใครต่อใครหลายคนล้วนต้องการคำตอบกับเรื่องนี้ (ตัวเราเองก็ด้วยเช่นกัน) ซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่ของคนเราได้ดีเลยทีเดียว เพราะแบบนี้เลยทำให้เราไม่สามารถรอซีซั่น 2 ได้ไหม ก็เลยจัดการอ่านมังงะมันซะเลย หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวเพิ่มเติมในส่วนของมังงะเรื่องนี้ได้นะคะ (คลิกเพื่ออ่านบทความ)
เรื่องที่ 2: Million Yen Women (คลิกเพื่อรับชมซีรีส์)
จำนวนซีซั่น: 1 ซีซั่น
เฉลี่ยเวลาต่อตอน: 30 นาที
ซีรีส์ญี่ปุ่นบน Netflix เรื่องถัดไปที่เราอยากจะนำเสนอให้สาวๆ ได้ลองรับชมดูนั้น บอกเลยว่าเป็นแนวใกล้เคียงกับเรื่องแรกเลยก็ว่าได้ แต่อาจจะไม่โหดร้ายและเลือดสาดเท่า เน้นไปทางจิตวิทยาและสืบสวนสอบสวนเสียมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้คือ “MillionYen Women” เป็นซีรีส์ Netflix Japan ที่ถูกดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดังที่มีชื่อว่า 100 man en no Onna tachi
โดยเรื่องราวพูดถึง “ชิน มิชิมะ” นักเขียนไส้แห้งที่ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงานใดๆ อยู่ๆ ก็มีสาวสวยทั้ง 5 คนได้แก่ มินามิ, ฮิโตมิ, ยูกิ, มิโดริ และ นานากะ ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่เป็นคนแปลกหน้าที่มาเจอกัน โดยสาวๆ ทั้งหมด 5 คนนั้น ขอมาเช่าบ้านอยู่กับพระเอกด้วย โดยมีค่าเช่าบ้านให้กับพระเอกเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านเยน ต่อเดือน (ราวๆ 290,000 บาท)
อีกทั้งยังมีกฏข้อห้ามในการอยู่ร่วมกันดังนี้ 1. ห้ามชินตั้งคำถามเกี่ยวกับที่มาที่ไปของผู้พักอาศัย 2. ห้ามเข้าห้องนอนของผู้พักอาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. ทุกคนต้องทานอาหารเย็นร่วมกันทุกวัน 4. ชิน ผู้ให้เช่าต้องดูแลและบริการทุกๆ อย่างในบ้านให้กับผู้อยู่อาศัย ด้วยเหตุนี้ทำให้ชินเกิดคำถามมากมายในหัว อีกทั้งเรื่องราวที่น่าวุ่นวายใจก็ได้เกิดขึ้นกับเขาด้วยเช่นกัน
ซีรีส์ญี่ปุ่นบน Netflix เรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่เรายอมเปิดใจดูซีรีส์สัญชาติญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ (แต่โดยปกติดูหนังญี่ปุ่นอยู่แล้ว) เพราะตอนที่เริ่มฉายเมื่อปี 2018 นั้น เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาไม่ใช่น้อย ด้วยการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งการเริ่มต้นเรื่องที่มีความลึกลับซับซ้อน
ไม่ใช่แค่เพียงตัวละครอย่างพระเอกของเรื่องเอกที่มีคำถาม คนดูอย่างเราก็มีคำถามว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นจากอะไร เพราะอะไรทำไม หญิงสาวปริศนาที่ไม่รู้จักกัน ถึงจำเป็นต้องมาอยู่ที่เดียวกับพระเอก ไม่เพียงแค่นั้นอีกหนึ่งสเน่ห์ของซีรีส์ญี่ปุ่น บน Netflix เรื่องนี้ ที่ทำให้เราติดจนงอมแงม นั่นก็คือ การสร้างปมและ Background ของตัวละคร
ซึ่งนี่อาจจะเป็นเอกลักษณ์หนึ่งที่ทำให้เราอยากดูซีรีส์ญี่ปุ่นก็เป็นได้ เพราะในแต่ละคน มีที่มาที่ไปและจุดเริ่มต้นที่ต่างกัน อีกทั้งสิ่งที่เรื่องนี้คอยสอนและบอกเราเลยคือ “คนทุกคนมีจุดมุ่งหมาย และมนุษย์เราทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา จนบางครั้งก็ลืมมองสิ่งรอบข้างไป”
เรื่องที่ 3: Kantaro: The Sweet Tooth Salaryman (คลิกเพื่อรับชมซีรีส์)
จำนวนซีซั่น: 1 ซีซั่น
เฉลี่ยเวลาต่อตอน: 25 นาที
หากสาวๆ คนไหนเป็นสายกินและเป็นสายของหวานแล้วละก็ ไม่ควรพลาดซีรีส์ญี่ปุ่นบน Netflix เรื่องนี้เป็นอันขาด และนั่นก็คือ Kantaro: The Sweet Tooth Salaryman โดย Kantaro เป็นซีรีส์ที่สร้างมาจากมังงะที่ใช้ชื่อเดียวกัน
พูดถึงเรื่องราวของหนุ่มวิศวะคอมพิวเตอร์ ผู้ลาออกจากวงการอิเล็กทรอนิกส์ ผันตัวมาเป็นเซลล์แมนให้กับสำนักพิมพ์ เพื่อเหตุผลเดียวคือ เขาจะได้สามารถทานขนมหวานในเวลางานได้ เพราะเซลล์แมนตามสำนักพิมพ์นั้น จะต้องออกเดินสายไปตามย่านต่างๆ ในเวลาทำงาน
ดังนั้นความสุขของเขาคือการได้เพลิดเพลินกับของหวาน จานโปรดได้แทบทุกวัน
สำหรับเรา เราว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์ญี่ปุ่นบน Netflix ที่ดูง่าย ดูสนุก แถมในหนึ่งตอนใช้เวลาดูแค่ 25 นาที ซึ่งสิ่งที่ถูกใจเราเลยก็คือ บุคลิกของพระเอกที่ให้ความชอบอย่างขนมหวาน ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิตเขา ซึ่งร้านในแต่ละร้านที่พระเอกไปจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งสิ่งที่ทำให้เราเพลิดเพลินมากที่สุดนั่นก็คือ การบรรยายถึงประวัติ / เบื้องหลัง / ที่มาของร้าน รวมถึงวิธีการทำเมนูนั้นๆ
และสิ่งที่ทำให้สะกดสายตาและยั่วต่อมรับรสของเราเลยก็คือการบรรยายที่มาพร้อมกับภาพประกอบที่ดีเยี่ยมไม่มีที่ติ (มีการซูม ingredient ใส่ภาพ Slow เข้าไป สวยมาก) และในแต่ละตอนพระเอกจะมีการแนะนำแต่ละร้านที่ไม่เหมือนกัน แถมมีกิมมิคและเรื่องราวการเล่าที่สนุก ตามสไตล์มังงะ แต่สิ่งที่ขัดใจอยู่อย่างเลยคือ พอถึงฉากที่พรรณนาความอร่อย เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างยืดไปนิด เข้าใจแหละว่าอยากบรรยาย ออกมาให้เข้าใจมากที่สุด เห็นภาพมากที่สุด แต่มันยืดจนบางตอนมันทำให้เราง่วง (ขอโทษจ้า)
สุดท้ายใช่ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นแค่ซีรีส์เพื่อความบันเทิงอย่างเดียวซะเมื่อไหร่ เขายังสอนเรื่องการรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ตนเอง เพราะถึงแม้ว่าพระเอกของเราจะแอบไปทานขนมในเวลาทำงาน
แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่เคยทำให้หน้าที่การงานของเขาเสียหายเลยซักครั้ง แถมยังทุ่มเทกับมันเต็มที่เสียด้วยซ้ำ งั้นเอาเป็นว่าใครที่เป็นสายกิน สาวกขนมหวาน ชอบเข้าคาเฟ่ ก็อย่าลืมดูเรื่องนี้กันนะคะ
เรื่องที่ 4: Kakegurui (คลิกเพื่อรับชมซีรีส์)
จำนวนซีซั่น: 2 ซีซั่น
เฉลี่ยเวลาต่อตอน: 25 นาที
และแล้วเราก็ดำเนินมาจนถึงซีรีส์ญีปุ่นบน Netflix เรื่องสุดท้ายกันแล้ว เช่นเคยเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ติดตามมาจากอนิเมะใน NETFLIX พอรู้ว่านำมาทำเป็นซีรีส์ภาพ LIVE ก็ยังคงตามต่อไปอยู่ นั่นก็คือ “Kakegurui”
พูดถึงเรื่องราวในโรงเรียนเอกชนชื่อดังอย่าง “เฮียคคะโอ” โรงเรียนที่เชี่ยวชาญทางด้านการพนันในรูปแบบต่างๆ รวมถึงศาสตร์แห่งการเจรจาต่อรอง จนมาวันหนึ่งมีเด็กนักเรียนใหม่ชื่อว่า “ยูเมะโกะ” ที่เข้ามาสร้างแรงสั่นสะเทือนในโรงเรียนและพร้อมที่จะล้มเซียนพนันทุกคนเพียงเพราะ “คลั่งไคล้ในการพนัน”
ขอสารภาพตรงนี้ก่อนเลยว่าที่มาดูซีรีส์ญี่ปุ่นบน Netflix เรื่องนี้เพราะ นางเอกเลยก็ว่าได้ (นางเอกของเรื่องภาคคนแสดงนั๊ลล๊าก) โดยเนื้อหาของเรื่องก็ยังคงหนีไม่พ้นจิตวิทยาของคน ไม่ว่าจะเป็นการหลอกล่อทางด้านอารมณ์ ความรู้สึก รวมถึงการความคิด และนำเสนอสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์โดยพื้นฐานได้เป็นอย่างดี
บอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้รวบรวมข้อมูลจำพวกนี้ได้อย่างครอบคลุมแทบทั้งหมด เพราะอย่างนี้เราจึงติดใจซีรีส์เรื่องนี้เข้าให้เต็มเปา จนถึงขั้นไปหาซื้อมังงะมาอ่านเลยทีเดียว ในเวอร์ชั่นมังงะก็เข้มข้นไม่น้อยหน้าซีรีส์เลยก็ว่าได้
Photo Credit:
Stay connected