เรียกว่าถึงทีของนกน้อยอากาเซ่ที่กำลังได้รับข่าวดี ว่า 7 หนุ่มวง GOT7 กำลังจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในรอบ 1 ปีกว่า ๆ เพื่อออกอัลบั้มและมีเพลงใหม่ให้พวกเราได้ฟังกัน โดยมีข่าวจากสำนักข่าวของเกาหลีรายงานว่า GOT7 Comeback ในเดือนพฤษภาคมนี้แน่นอน เอาละค่ะ ก่อนที่จะได้ไปกรี๊ดกันดัง ๆ ตอนเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ เราไปวอร์มเสียงกรี๊ด ด้วยการรวบรวมผลงานเดี่ยวของสมาชิกแต่ละคน เป็นการชิมลางกันก่อนดีกว่า ไปดูกันค่ะว่าแต่ละคนมีงานอะไรให้เราได้ตามเก็บกันบ้าง
ส่องผลงานเดี่ยวชิมลาง ก่อน GOT7 Comeback
หลังจากที่หนุ่ม ๆ GOT7 ทั้ง 7 คน ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับค่ายเก่าอย่าง JYP Entertainment พวกเขาก็เลือกที่จะไปอยู่ในสังกัดที่ตอบโจทย์แนวทางการทำงานของตัวเองที่สุด และยังยืนยันกับเหล่าแฟนคลับว่าไม่ได้ยุบวง เพียงแต่แยกย้ายกันไปโฟกัสงานของแต่ละคนก่อนเท่านั้น และให้สัญญาว่าจะกลับมารวมตัวกันเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งหลังจากการรอคอยมานานกว่า 1 ปี เหล่าอากาเซ่ หรือแฟนคลับของ GOT7 ก็ยิ้มออกเสียที เพราะมีข่าวยืนยันแล้วว่า GOT7 กำลังจะ Comeback ว่าแต่ในระหว่าง 1 ปีที่ผ่านมา สมาชิกแต่ละคนไปทำอะไรบ้าง เรามาดูกันค่ะ
Jay B (เจบี หรือแจบอม)
หัวหน้าวงคนชิค เป็นสมาชิกที่มีแพสชั่นเรื่องการทำเพลงเสมอมา เพราะเขาเคยทำเพลงเองเพื่อปล่อยให้แพลตฟอร์ม Soundcloud มาตั้งแต่ยังอยู่ค่ายเดิม หลังจากที่หมดสัญญากับค่ายเก่า เจบีใช้เวลาตัดสินใจในการเซ็นสัญญากับต้นสังกัดใหม่อยู่พักใหญ่ จนในที่สุดก็เลือกไปอยู่กับค่าย H1GHR MUSIC ที่มีผู้บริหารคือ เจย์ ปาร์ค เรียกว่าเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของวงที่ประกาศต้นสังกัดใหม่เลยทีเดียว
หลังจากที่เริ่มต้นชีวิตในสังกัดใหม่ เจบีได้ปล่อยซิงเกิลแรกในเพลง Switch It Up โดยแนวเพลงของเจบีจะเป็นแนว อาร์แอนด์บี และ ฮิปฮอป และได้ปล่อยอีพีอัลบั้มชุดแรกในฐานะศิลปินเดี่ยว “SOMO:FUME” ตามมา และหลังจากนั้นในต้นปี 2022 ที่ผ่านมา เจบีได้ปล่อยอัลบั้มในนาม Def. ซึ่งเป็นชื่อในวงการเพลงของเขา กับอัลบั้มที่ชื่อว่า “LOVE.”
นอกจากการทำเพลงแล้ว เจบียังได้ทำหน้าที่เป็นดีเจ จัดรายการวิทยุ STATION Z (JAY B’s R&B) ทุกวันพุธเวลา 22.00 น. (เวลาไทย) มาตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2021 จนถึงปัจจุบัน และกำลังจะยุติบทบาทในวันพุธที่ 27 เมษายน 2022 นี้ คาดว่าเพื่อเตรียมการคัมแบ็กของ GOT7 อย่างเต็มที่นั่นเอง
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเจบีเคยให้สัญญาว่าจะดูแล GOT7 ให้ดีที่สุด ล่าสุดเขาได้ทำการยื่นขอซื้อเครื่องหมายการค้าของวง JJ Project และ Jus2 ยูนิตย่อยของวง GOT7 มาเป็นลิขสิทธิ์ของตัวเองเป็นทีเรียบร้อย และกำลังยื่นขอจดทะเบียนเปิดบริษัท 528 Hz เป็นค่ายเพลงของตัวเอง ดูแลครอบคลุมทั้งงานเพลง สินค้าลิขสิทธิ์ต่าง ๆ รวมถึงรายการวาไรตี้ ซึ่งตอนนี้สถานะของค่ายคือกำลังรออนุมัติอยู่ เรียกว่าเป็นความสำเร็จอีกครั้งที่แฟนคลับต้องปรบมือรัว ๆ
Mark (มาร์ค)
พี่ใหญ่หน้าเด็กของวง หนุ่มอเมริกันคนนี้หลังจากที่หมดสัญญากับค่ายก้ตัดสินใจบินกลับ LA บ้านเกิดของเขาทันที เพื่อพักผ่อน พักจิตพักใจ ใช้เวลาตั้งหลัก แต่เพียงไม่นานมาร์คผู้ยังคงมีแพสชั่นในตัวเองก็เริ่มเปิดช่องยูทูบและทำ Vlog เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในชีวิต รวมถึงทำแคสเกมกับน้องชายอีกด้วย
สำหรับงานในประเทศจีน มาร์คได้เปิด Mark Tuan Studio เพื่อโปรโมตและประสานงานต่าง ๆ ในประเทศจีน และสำหรับงานในสหรัฐอเมริกา เขาตัดสินใจเซ็นสัญญากับ CAA หรือ Creative Artists Agency เอเจนซี่ดูแลศิลปินยักษ์ใหญ่ระดับโลกในอเมริกา โดยมีจุดมุ่งหมาย “เพื่อโปรโมตผลงานและตัวตนของเขาผ่านช่องทางดิจิตอลในอเมริกา”
มาร์คมีผลงานถ่ายแบบนิตยสารเยอะมาก รวมถึงได้ไปปรากฏตัวในงานปารีส แฟชั่น วีค ถึง 2 ครั้งด้วยกัน คือเมื่อเดือนกันยายน 2021 และต้นเดือนมีนาคม 2022 เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหนุ่มสายแฟชั่นที่น่าจับตามองมาก ๆ นอกจากนี้มาร์คก็ยังมีผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง
อาทิ One in a Million ที่ทำร่วมกับ Sanjoy, Last Breath, My Life, Lonely และ Save Me นอกจากนี้ยังมีเพลงประกอบภาพยนตร์ Shang Chi อย่างเพลง Never Gonna Come Down อีกด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่า จากหนุ่มแร็ปเปอร์ เมื่อเปลี่ยนแนวมาเป็นสายร้อง มาร์คก็ทำได้ดีมากจริง ๆ
ไม่เพียงแต่งานเพลงและงานถ่ายแบบเท่านั้น เพราะมาร์คได้ทำคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าในแบรนด์ 3rd Sibling กับพี่น้อง รวมถึงร่วมออกแบบคอลเล็คชั่นให้กับแบรนด์ Represent มาอีก 1-2 คอลเล็คชั่น (รวมแล้วมาร์คมีคอลเล็คชั่นร่วมกับแบรนด์นี้ 4 คอลเล็คชั่น) ปัจจุบันมาร์คอยู่ที่ประเทศเกาหลีมาร่วมหนึ่งเดือนเต็มแล้ว ซึ่งคาดว่าเพื่อเตรียมตัวคัมแบ็กอย่างแน่นอน
Jackson (แจ็คสัน)
หนุ่มจีนคนนี้ปูทางให้ตัวเองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะเขาตั้งบริษัท TEAM WANG ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2017 เพื่อดูแลงานทั้งหมดในจีนของเขา จนกลายมาเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับการทำงานเพลง โปรดักชั่นต่าง ๆ รวมถึงสินค้าแฟชั่นด้วย หลังจากหมดสัญญากับค่ายเดิม แจ็คสันก็เริ่มลุยงานในประเทศจีนอย่างหนัก โดยมีผลงานรายการวาไรตี้บ้างประปราย แต่มุ่งเน้นไปทางงานเพลงเป็นส่วนใหญ่ นอกจากซิงเกิ้ลเดี่ยวอย่าง Pretty Please, Leave Me Loving You และ Drive You Home ที่ออกมาอย่างต่อเนื่องหลังหมดสัญญากับค่ายเดิมแล้ว
แจ็คสันยังเปิดตัวกลุ่มศิลปินกลุ่มแรกในนาม TEAM WANG อย่าง PAN THE PACK ที่เป็นการรวมเอานักร้องสายฮิปฮอปคนดังของจีนอย่าง ตัวเขาเอง ร่วมด้วย Karencici (Lin Kai-Lun) นักร้องสาว, ICE (Yang Changqing) ศิลปินสาย Powerhouse และ J.Sheon (Jie Xiang) นักร้องเสียงดีสไตล์ R&B มารวมตัวกันเพื่อปลุกกระแส C-POP และมีการทัวร์คอนเสิร์ตหลายเมืองในประเทศจีน
จากนั้นไม่นานแจ็คสันก็ได้ออกคอลเล็คชั่นใหม่ของเสื้อผ้าแบรนด์ TEAM WANG ให้เหล่าแฟนคลับได้จับจองเป็นเจ้าของ รวมถึงมีผลงานการถ่ายแบบนิตยสารมากมาย ตามมาด้วยการออกดิจิตอลอัลบั้มอย่าง LOST & FOUND และซิงเกิลล่าสุดอย่างเพลง Blow รวมถึงการได้ขึ้นเวทีหลักในเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella ในนามค่าย 88ring ที่เขาร่วมงานด้วย นับเป็นศิลปินชาวจีนคนแรกที่ได้ขึ้นเวทีนี้เลยทีเดียว
สำหรับงานในเกาหลี แจ็คสันได้เซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์กับ Sublime Artist Agency เพื่อให้ช่วยประสานงานและโปรโมทงานในประเทศเกาหลีของเขานั่นเอง และตอนนี้เขาก็อยู่ที่ประเทศเกาหลีเป็นที่เรียบร้อย พักงานเดี่ยวเอาไว้ก่อน เพื่อเตรียมตัวคัมแบ็กร่วมกับวง
Jinyoung (จินยอง)
หนุ่มหล่อเสียงนุ่มมาดพระเอกคนนี้เขามุ่งเน้นไปทางสายนักแสดงอย่างจริงจัง โดยหลังจากออกจากค่ายเดิม จินยองได้เลือกเซ็นสัญญากับทาง BH Entertainment และได้ปล่อยซิงเกิ้ลออกมาให้แฟน ๆ กระชุ่มกระชวยหัวใจ 1 เพลงถ้วน นั่นคือเพลง Dive จากนั้นจินยองก็รับงานแสดงรัว ๆ และมีผลงานให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง
อาทิ The Devil Judge รับบทเป็นผู้พิพากษา คิมกาอน, Yumi’s Cells รับบท ยูบาบี นอกจากนี้ยังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง Yaksha: Ruthless Operations ที่ลงจอให้ชมทาง Netflix อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ เพราะมีงานแสดงจ่อคิวต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Yumi’s Cells ซีซั่น 2, Hi Five, Christmas Carol และก่อนหน้านี้ยังมีคนตาดีเห็นเขากำลังถ่ายทำซีรีส์สักเรื่องไกลถึงเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี อีกด้วย
แต่ช่วงนี้จินยองกลับมาที่เกาหลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังได้ปรากฏตัวในรายการวิทยุ Station Z ของเจบีอีกต่างหาก ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่เหล่า GOT7 จะกลับมารวมตัวกันแน่ ๆ
Youngjae (ยองแจ)
หลังจากที่หมดสัญญากับค่ายเดิม ยองแจคือสมาชิกคนแรกของวงที่ออกมาประกาศต้นสังกัดใหม่ โดยเขาเซ็นสัญญากับค่าย Sublime Artist Agency จากนั้นก็มีผลงานตามมารัว ๆ เลย เริ่มจากการเป็นนักแสดงนำในละครเวทีเรื่อง Midnight Sun
ซึ่งถือว่าเป็นความฝันของนักร้องหลาย ๆ คนเลยทีเดียว ตามมาด้วยซีรีส์เรื่อง Love and Wish โปรเจ็กต์ซีรีส์ของ Kakao TV เรียกว่ารับบทพระเอกเต็มตัวก็งานนี้
นอกจากนี้ทางด้านผลงานเพลง ยองแจก็ได้มีโซโล่อัลบั้มเป็นของตัวเองครั้งแรกในชื่อว่า The 1st Mini Album ‘COLORS from Ars กับซิงเกิลเดี่ยวในเพลง Vibin กับแนวเพลงสดใสฟังสบาย ที่หลาย ๆ คนหลงรัก และยังได้มี Fan Meeting รวมถึงงานแจกลายเซ็นต์ในประเทศไทยถึง 2 ครั้งภายในระยะเวลา 2 เดือนอีกด้วย
สำหรับงานด้านอื่น ๆ นั้น ตอนนี้ยองแจรับหน้าที่เป็นดีเจเต็มตัวที่ MBC RADIO FM4U 91.9 ในรายการ Dream Radio ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. (เวลาไทย)
และยังมีรายการทางยูทูบที่ชื่อว่า “ทเวเลบิ” (퉤레비) ที่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของเขาในรูปแบบ Vlog นั่นเอง แถมยองแจยังชอบมาพูดคุยกับแฟนคลับทางทวิตเตอร์บ่อย ๆ ด้วย
BamBam (แบมแบม)
หนุ่มไทยหนึ่งเดียวของวงคนนี้ตัดสินใจเซ็นสัญญาเข้าไปอยู่ภายใต้สังกัด Abyss Entertainment ซึ่งเป็นค่ายเดียวกับอดีตรุ่นพี่ในค่ายเก่าอย่าง “ซอนมี” อดีตสมาชิกวงวันเดอร์เกิร์ล และหลังจากย้ายค่ายปุ๊บ แบมแบมก็มีงานเข้ารัว ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานถ่ายนิตยสาร งานวาไรตี้ต่าง ๆ
เช่น งานพิธีกรในรายการ Simply K-pop CON-TOUR’s 3rd flight ของช่อง Arirang, กรรมการรับเชิญในรายการ King of the Mask Singer ของเกาหลี, พิธีกรงาน Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 41 รวมถึงงานแบรนด์แอมบาสเดอร์ก็มีเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
ในส่วนของงานเพลง ในช่วงปีที่ผ่านมา แบมแบมมีผลงานอัลบั้ม 2 อัลบั้มด้วยกันคือ Ribbon และ B ซึ่งในอัลบั้มที่ 2 นี้ เขาได้มีพรีซิงเกิลที่ชวนนักร้องรุ่นพี่อย่าง ซึลกิ วง Red Velvet มาร่วมฟีทเจอริ่งด้วย เรียกว่าเป็นกระแสฮือฮา ถูกใจแฟนคลับเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้แบมแบมยังได้มาเปิดการแสดงแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทยถึง 2 ครั้งด้วยกันคือ วันที่ 1 และ 2 มกราคม 2022 และวันที่ 15-17 เมษายน 2022 ที่ผ่านมา อีกทั้งกระแสตอบรับในประเทศไทยของเขาก็ดีขึ้นกว่าเดิมไปอีก
และล่าสุดก่อนที่จะมาประเทศไทย แบมแบมได้มีโอกาสไปที่สหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมทำการแสดง Half Show ช่วงพักครึ่งของการแข่งขันบาสเก็ตบอล NBA ในฐานะ Global Ambassador ทีม Golden State Warriors ถือเป็นศิลปินเค-ป๊อปคนแรกที่ได้โชว์ที่นี่เลยทีเดียว
Yugyeom (ยูคยอม)
น้องเล็กตัวสูงของวง ตัดสินใจเซ็นสัญญาเข้าสู่ค่ายอินดี้อย่าง AOMG (Above Ordinary Music Group) ภายใต้การดูแลของ เจย์ ปาร์ค เช่นกัน หลังจากเปิดตัวปุ๊บ ยูคยอมก็ได้มีผลงานอัลบั้มแรกคือ Point of View: U เปิดตัวด้วยเพลงแรกคือ All You Fault มีโชว์และได้ออกรายการวาไรตี้ให้เห็นกันบ้าง จากนั้นยูคยอมก็เก็บตัวเพื่อตั้งใจทำงานเพลงชิ้นต่อไป
หลังจากรอคอยกันมาระยะหนึ่ง ยูคยอมก็ปล่อยอีกซิงเกิลให้แฟน ๆ ได้ชื่นใจ นั่นคือเพลง Take You Down ในลุคสุดเท่ และในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ยูคยอมจะมีทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศเยอรมนีใน 3 เมือง คือ เบอร์ลิน, มิวนิก และโอเบอร์เฮาเซิน
จากนั้นก็มีทัวร์ต่อที่ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส และลอนดอน ประเทศอังกฤษอีกด้วย และหลังจากนั้นแฟน ๆ ก็คาดเดาว่าเขาน่าจะกลับเกาหลีทันทีเพื่อเตรียมคัมแบ็กอย่างแน่นอน
เรียกว่าแต่ละคนงานเดี่ยวของตัวเองก็อย่างแน่น แต่ก็ยังแบ่งเวลาเพื่อมารวมตัวกัน กลับมา Comeback ในนาม GOT7 เพื่อรักษาสัญญาที่เคยให้กับอากาเซ่ไว้ แบบนี้จะไม่ให้รักยังไงไหว จริงไหมคะ
Credit Pictures from Instagram willgyc, jaybnow.hr, marktuan, jacksonwang852g7, jinyoung_0922jy, 333cyj333, bambam1a, yugyeom, got7.with.igot7
Stay connected