เมื่อแฟน ๆ ทั่วโลก ของนักร้อง ซุปเปอร์สตาร์ ผู้โด่งดังจากยุค 90 “บริทนี่ย์ สเปียร์ส” ได้ร่วมกันติด แฮชเท็ก #FreeBritney ซึ่งเป็นเรื่องที่ หลาย ๆ คนอาจพอรู้เรื่องราวกันอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ วันนี้เราของสรุปเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน ให้เพื่อน ๆ ได้รู้ที่มาที่ไป ของเหตุการณ์ FreeBritney นี้ค่ะ

#FreeBritney

สรุป #FreeBritney เกิดอะไรขึ้นกับ บริทนี่ย์ สเปียร์ส ซุปเปอร์สตาร์ผู้โด่งดัง

 

  • 2007

หลังจากที่ บริทนี่ย์ สเปียร์ส ได้มีชีวิตที่ประสบความสำเร็จในฐานะ Pop Star มาอย่างยาวนาน ในปี 2007 นี้เอง เธอได้หย่าร้างกับอดีตสามี เควิน เฟเดอร์ไลน์  และเสียสิทธิ์ ในการเลี้ยงดู ลูกทั้ง 2 คน ของเธอไป ซึ่งมันทำให้เธอถูกกดดัน และ ไล่ล่า จากสื่อมวลชน เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง สุขภาพจิตของเธอ และ ความสามารถในการเป็นแม่ที่เหมาะสม

#FreeBritney

ซึ่งช่วงนี้เอง จะเห็นข่าวแปลก ๆ ของเธอ เช่นการโกนผม หรือ เอาร่มไปฟาดรถปาปารัซซี่

 

  • 2008

บริทนี่ย์ ถูกพาออกจากบ้าน และ เข้ารับการประเมินทางจิตอย่างไม่สมัครใจ ซึ่งสามารถทำได้ เพราะเธอถูกจัดให้อยู่ใน “เกณฑ์ 5150” ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กำหนดไว้ว่า ผู้ใดก็ตาม ที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น หรือตัวเอง อันเป็นผลเนื่องมาจากอาการทางจิต สามารถถูกนำตัวเข้ารับการประเมินอาการ และ รักษาได้

เรื่องนี้เกิดจากการที่ บริทนี่ย์ ได้ล็อคตัวเองไว้ในห้องกับลูก และ ปฏิเสธที่จะส่งลูกให้อดีตสามี นอกจากนี้ตามข้อมูลของตำรวจ คือ เธออยู่ในสภาวะไม่ปกติที่เป็นผลมาจากสารที่ไม่ทราบชนิด

#FreeBritney

ซึ่งในเวลานั้นเอง เจมี่ สเปียร์ส พ่อแท้ ๆ ของ บริทนี่ย์ ได้กลายมาเป็น “ผู้ดูแล” ชั่วคราวตามกฏหมาย เขามีสิทธิ์ในการดูแลทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางอาชีพของ บริทนีย์ หรือ เรื่องเงิน ทรัพย์สินต่าง ๆ ก็จะถูกกำหนดโดยพ่อเช่นกัน ซึ่งสถานะ “ผู้ดูแลชั่วคราว” นี้ก็ถูกขยายช่วงเวลาไปอย่างไม่มีกำหนด

 

  • 2009

#FreeBritney

บริทนีย์ มีทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก ชื่อว่า “Circus” ช่วงเวลานี้เอง เจมี่ สเปียร์ส ก็ยังเป็นผู้ดูแลของเธอ  แต่ก็มีข่าวเกี่ยวกับข้อความเสียงรั่วออกมา ว่าพ่อของบริทนีย์ร่วมมือกับทนาย และ ใช้เรื่องสิทธิ์การเยี่ยมเยียน กับลูกทั้งสองคนของเธอ เป็นข้อโต้แย้งเพื่อไม่ให้เธอต่อสู้ในศาล

 

  • 2010 – 2011

 

แฟน ๆ ขอเริ่มสังเกตเห็นว่า บริทนี่ย์ เปลี่ยนไปมาก กลายเป็นคนที่ดูไม่มีพลังงาน ดูซึม ๆ เหมือนถูกบังคับให้มาแสดง และในช่วงปี 2011 ก็มีการประกาศหมั้น กับหนึ่งในทีมผู้บริหารของเธอ ทำให้คู่หมั้นคนนั้นกลายมาเป็น “ผู้ดูแลร่วม” แต่สุดท้ายพวกเขาก็แยกทางกันในปี 2012 นั้นทำให้ เจมี่ พ่อของเธอ กลับมาควบคุมทุกอย่างได้เต็ม 100 อีกครั้ง

 

  • 2013

#FreeBritney

ถึงแม้จะมีปัญหาสุขภาพ แต่เธอก็ยังทำงานอย่างต่อเนื่อง เธอได้กู้ภาพลักษณ์ของตัวเอง ด้วยการประสบความสำเร็จในอัลบั้มเพลง และ การปรากฏตัวทาง TV หลายต่อหลายครั้ง รวมถึงการเริ่มแสดงคอนเสิร์ต 4 ปี ใน Las Vegas (ปลายปี 2013-2018)

 

  • 2015 – 2018

ช่วงนี้ บริทนี่ย์ ดูกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ดูมีความสุขมากขึ้น คาดเดาว่าน่าจะเป็นเพราะช่วงนี้เธอได้ออกแบบท่าเต้นเอง ได้ทำอะไรด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นช่วงที่โชว์ที่ Las Vegas ได้รับความนิยม และขยายเวลาแสดงไปอีกครั้ง เธอประสบความสำเร็จในการปล่อยอัลบั้มชุดใหม่ ได้รับรางวัล จากงาน Billboard Awards มีการขยายเวลาโชว์ไปเรื่อย ๆ และในปลายปี 2018 ก็มีการเซ็นต์สัญญาโชว์ชุดใหม่ “Domination”

 

  • 2019 – 2020

บริทนี่ย์ สเปียร์ส พักจากการทำงาน โชว์ “Domination” ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพของพ่อของเธอ ซึ่งปลายปีนี้เอง เจมี่ สเปียร์ส ก้าวออกมาจากการเป็นผู้ดูแลชั่วคราวของบริทนีย์ และ ผู้จัดการของเธอ ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลชั่วคราวแทนเขา อย่างไรก็ตาม เจมี่ยังมีสิทธิ์ในการดูแลเรื่องการเงินของเธออยู่ดี

#FreeBritney

และในปี 2020 บริทนี่ย์ ก็ได้ประกาศว่าจะกลับไปรักษาที่สถานบริการผู้ป่วยทางจิตอีกครั้ง ซึ่งช่วงนี้เอง เป็นช่วงที่แฟน ๆ เริ่มสงสัย และขุดคุ้ยถึงเรื่องราวต่าง ๆ 

แฟน ๆ ได้ปะติปะต่อเรื่องราว และ ตั้งข้อสงสัยว่า เจมี่ สเปียร์ส เป็นคนบังคับให้บริทนี่ย์ รักษาอาการทางจิตโดยที่เธอไม่เต็มใจ และคิดว่าอีกว่าการที่ Britney เข้าสถานบำบัด ก็เป็นไปเพื่อการกักบริเวณเธอ นอกจากนี้ เขาอาจจะมีการตกลงกับเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายและทางการแพทย์ เพื่อให้ศาลตัดสินว่า บริทนี่ย์ ยังเป็นคนไร้ความสามารถอยู่ ซึ่งเป็นช่วงที่มี #FreeBritney เกิดขึ้นนั่นเอง

ซึ่งทาง เจมี่ สเปียร์ส ให้ความเห็นต่อ #FreeBritney ว่า เป็นทฤษฎีสมคบคิด ที่น่าขัน

#FreeBritney

 

บริทนี่ย์ พยายามยื่นคำร้องต่อศาล ให้ถอดพ่อจากการเป็นผู้ดูแล ทนายของเธอกล่าวว่า บริทนี่ย์กลัวพ่อของตัวเอง และจะฏิเสธที่จะทำดนตรี ถ้าเขายังเป็นผู้ดูแลของเธออยู่ และต้องการให้องค์กรที่ไว้วางใจได้ เข้ามาดูแลทรัพย์สินของเธอแทน ซึ่งสุดท้ายแล้ว ในเรื่องทรัพย์สิน ศาลได้ตัดสินให้มีการดูและร่วมกันระหว่าง พ่อ และ บริษัทมืออาชีพ

 

  • 2021

วันที่ 23 มิถุนายน 2021 บริทนีย์ ได้ขึ้นให้ปากคำต่อศาล เพื่อให้ถอดพ่อของเธอออกจากการเป็นผู้ดูแล ซึ่งทั้งควบคุม และ กดขี่ ในความรู้สึกของเธอ

เธอเปิดเผยว่าที่ผ่านมาเธอไม่มีความสุขเลย แม้จะพยายามบอกตัวเองให้มีความสุข เธอถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องพื้นฐานในชีวิตของตัวเองได้ เช่น การไปนั่งรถเล่น กับ Sam Asghari แฟนคนปัจจุบันที่คบกันมาตั้งแต่ 2016 หรือการมีลูกเพิ่มอีกสักคน โดยพวกเขาไม่ยอมให้ถอดห่วงอนามัยป้องกันการตั้งครรภ์ออก 

#FreeBritney

บริทนี่ย์ กล่าวว่า ถูกบังคับให้ทำโชว์ใน Las Vegas และ ถูกหมอที่บำบัดโกหกว่าเธอไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา ไม่ยอมกินยา นอกจากนี้ เธอยังถูกบังคับให้ทานยา ลิเธียม (Lithium) ที่ทำให้เธอเมา และ สื่อสารไม่ค่อยรู้เรื่อง อีกด้วย

แต่สุดท้ายแล้ว ความต้องการของ บริทนี่ย์ ถูกศาลปฏิเสธ ในวันที่ 30 มิถุนายน เนื่องจากหนึ่งในความต้องการของบริทย์นี่ย์ คือ หยุดการเข้ารักษาทางจิต ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญไม่เห็นด้วย และ กล่าวว่าควรจะมีการประเมินทางจิต เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่จำเป็นต้องรับการรักษาแล้วจริง ๆ รวมถึง ควรจะมีการทดลองสั้น ๆ ในการยกเลิกการมีผู้ดูแล เพื่อจะได้เห็นว่า การมีผู้ดูแลนั้นควรสิ้นสุด หรือควรดำเนินต่อไป

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเรื่องราวทั้งหมด ยังจะมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ในวันที่ 14 กรกฏาคม ที่จะถึง เป็นการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาสนับสนุน หรือโต้แย้งข้องเรียกร้อง

 

content credits : cleoThailand , deseret , cat dumb , กรุงเทพธุรกิจ , bbc 

picture credits : NYtimes , dw , ktnv , pagesix, gettyimage

Comments

comments