สวัสดีค่ะสาวๆ Clubsister คนสวยทุกคน เชื่อว่าแฟนๆ #Try&Tell รีวิวบอกต่อ คิดถึงและตั้งหน้าตั้งตารอคอย #Try&Tell กันอยู่ทุกอาทิตย์ และบทความนี้ก็เลอค่ามากอีกเช่นเคยค่ะซิส ซิสที่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ การแต่งหน้าของชั้นขาดรองพื้นไม่ได้!! ถ้ากดออกนะบอกเลยว่าจะเสียใจมากๆ หรือสาวๆที่รักจะแต่งหน้า แต่หารองพื้นที่ถูกใจใช่เลยไม่ได้ หรือใช้รองพื้นแล้วยังเป็นเทาหลีสไตล์อยู่ ต้องอ่านค่ะต้องอ่าน!! เพราะ #Try&Tell บทความนี้เรามารีวิวบอกต่อ 5 รองพื้นที่สาวไทยคู่ควร ใช้แล้วเซย์กู๊ดบายหน้าเทาหลีสไตล์ไปได้เลย!! เพราะน้องซิสอยากเห็นสาวไทยใช้รองพื้นให้เข้ากับสีผิว…ผิวเป๊ะ หน้าปัง

 

“รองพื้นราคาเบาๆ สบายกระเป๋า แถมปกปิดดีงาม”

NAMI Make Pro BB Wet To Powder

ปริมาณ 7 กรัม ราคา 49 บาท

โอ้ยๆ…ไม่มีใครไม่รู้จักรองพื้นตัวนี้แน่นอน NAMI Make Pro BB Wet To Powder คือรองพื้นซองดำในเซเว่นอันโด่งดังเป็นกระแสมาก จนช่วงออกมาใหม่ๆนี่ขาดตลาด และถูกพูดถึงเป็นที่ชื่นชอบของบล็อกเกอร์หลายคนเลย ตัวนี้เป็นสูตรซุปเปอร์แมทท์ ช่วยควบคุมความมัน ให้การปกปิดได้ทุกปัญหาผิว ไม่ว่าจะรอยแดง รอยดำ รูขุมขน ความพิเศษเค้าอยู่ตรงที่พอทาลงผิวไปปุ๊ปเนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นแป้งเนื้อแมทท์ในทันที กันน้ำ กันเหงื่อด้วยนะเออ..เริ่ดปะละกับราคา 49บาท มีกันแดดให้ SPF35 PA++ อีกด้วย ^^

ด้วยความที่เค้าขายในเซเว่นเป็นหลัก ต้องมาพร้อมกับขนาดและราคาที่สบายจะจ่าย แพ็คเกจเป็นแบบซองสีดำ มองปุ๊ปสะดุดตา ต้องหยิบมาดูแล้วใส่ตะกร้าไปจ่ายเงิน55555 เป็นแบบซองน้องซิสว่าก็ดีนะ สะดวกดี พกพาไปไหนง่าย ตื่นมาแต่งหน้าไม่ทันก็พกใส่กระเป๋าไปแต่งหน้าที่ออฟฟิสก็ดูไม่เอะอะนะ55555

เนื้อรองพื้นของเค้าเหลว เกลี่ยง่าย แต่ทาแล้วเนื้อครีมเปลี่ยนเป็นแมทท์ทันทีที่ทามั๊ยก็ไม่นะ ยังมีความหนึบๆนิสนุง ถือว่ายังสบายผิวอยู่ ไม่ได้หนักผิวจนเกินไป ต้องใช้แป้งฝุ่นเซ็ทอยู่ อย่าลืมนะฮะ..ว่าเราอยู่ประเทศไทยค่ะทู๊กกคน ฉะนั้นเซ็ทด้วยแป้งปลอดภัยสุด พอเซ็ทด้วยแป้งก็โอเคแล้ว สบายผิวเว่อร์ อีกอย่างคือขอกราบงามๆมาก…ถึง NAMI จะทำรองพื้นออกมาแดเดียว แต่ NAMI ทำรองพื้นออกมาในโทนสีเหลืองที่สามารถเข้ากับสีผิวของสาวไทยได้อย่างดี ปรบมือ..เย้ๆๆๆ สาวไทยก็หน้าก็ไม่เทาแล้วล่ะจ้า

Before-After

ผลหลังทานี่แบบอึ้งมาก…มากแบบราคา 49บาทจริงหรอ?? จุดด่างดำ รอยแดงนี่จางไปเยอะเลย รอยที่ไม่ค่อยชัดปิดได้มิดไม่เห็นเลย แต่รอยที่ชัดๆสดๆนี่ปกปิดได้ 80% เลยล่ะ ถือว่าดีงามมากเว่อร์ แพนด้าใต้ตาเราดำชัดมาก เค้าก็ปิดแพนด้าได้ 80%  อำพรางรูขุมขนได้ดี แต่ไม่ถึงกับเหมือนไม่มีรูขุมขน ถือว่าช่วยได้มากอยู่นะ ผิวดูเนียนสม่ำเสมอกันมากขึ้น งานผิวที่ได้หลังจากลงรองพื้นตัวนี้คือไม่ได้ดูหนามาก ได้งานผิวที่ยังโอเคอยู่ คุมมันได้ 3-4 ชั่วโมง ค่อยเริ่มมีความมันออกมา แต่ไม่ต้องซับก็ได้นะเพราะตอนนี้ผิวกำลังสวยเลยล่ะ ผ่านไปอีกสักชั่วโมงค่อยมาซับก็ยังได้ รองพื้นไม่เป็นคราบ สีไม่ดรอป ติดทนทั้งวันอยู่นะคะ แต่อาจมีหลุดเลือนไปบ้างแต่ไม่เยอะ…เอาเป็นว่าคุ้มค่าคุ้มราคากับเงินที่เสียไปมาก เอาเงินฉันไป55555

 

“เลิฟงานผิวสวย เบาสบายผิวเหมือนไม่ได้ทารองพื้น”

Srichand Luminescence Splendorous Under Makeup

ปริมาณ 30ml ราคา 490 บาท

ใน #Try&Tell บทความที่แล้วน้องซิสก็ได้แนะนำแป้งพัฟผสมรองพื้นของเค้าไป บทความนี้รองพื้นของศรีจันทร์ก็ได้ใจ #Try&Tell รีวิวบอกต่อ…ไปอีกแล้ว ก็แหม..จะไมได้ใจไปได้ยังไง รองพื้นเนื้อดีงามเกินราคาขนาดนี้ ก็เนื้อเค้าบางเบา ให้การปกปิดกลางๆ เผยผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คุมมันเริ่ด กันน้ำกันเหงื่อ ปราศจากน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน ฉะนั้นค่ะคุณผู้ชม…สาวๆผิวแพ้ง่ายใช้ได้นะฮ้า ปรบมือ เย้ๆๆๆ มีกันแดด SPF35 PA+++ เค้ามีสีมาให้เราเลือกทั้งหมด 6 เฉดสีด้วยกัน นี่เกิดมาเพื่อสาวไทยจริงๆเล้ยย

แพ็คเกจมาในรูปแบบขวดสีสันสวยงามน่าใช้สุดๆอ่ะ เป็นสีคล้ายๆ Instagram ทำให้น่าดึงดูดมากเลยนะ ว่ามะ? แพ็คเกจเทรองพื้นออกมาง่าย อ้อ..ก่อนใช้ต้องเขย่าๆก่อนนะคะ เนื้อรองพื้นของศรีจันทร์ดีงามม้ากกก เนื้อรองพื้นเหลว บางเบา ทำให้เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบหรือเป็นปื้นๆ เกลี่ยปุ๊ปเนื้อรองพื้นกลืนไปกับผิวเลย บางเบาสบายผิว ไม่หนักหน้าเลย

Before-After

ขอยอมกับความงานผิว และปกปิดได้โอเคเลยแกร รอยที่ชัดๆก็ปกปิดได้เกือบ 80% เลย ส่วนรอยที่ไม่ชัดเท่าไรก็ปกปิดได้เกือบหมดเลยนะ แล้วคือแบบดูไม่หนา ดูงานผิวจริงๆ น้องซิสว่าเหมาะกับสาวๆที่ชื่นชอบงานผิว ใช้ใน Everyday look ใช้ได้ทุกวัน ถ้าใครผิวดีอยู่แล้วนี่ผิวเป๊ะเลยนะ บอกเลย!! คุมมันดีงาม3-4 ชั่วโมงเอาอยู่ ค่อยมีความมันออกมาเบาๆให้ผิวฉ่ำดิวอี้ ดีงามสุดอ่ะข้อนี้ พอซับหน้าแล้วผิวก็ผ่อง สีไม่ดรอปเลย ไม่เป็นคราบ แต่มีหลุดไปนิดหน่อยค่ะไม่ว่ากัน เพราะมันต้องมีหลุดกันอยู่แล้ว

 

YSL Le Teint Encre De Peau FUSION INK FOUNDATION

ปริมาณ 25ml ราคา 2,400 บาท

อ่ะๆก่อนอื่นเรามาอ่านคำโปรยของเค้าซะหน่อย อ่อนโยนดั่งขนนก บางเบาดุจน้ำหมึก กับศาสตร์แห่งผิวสมบูรณ์แบบที่บางเบาแต่ติดทนนาน 24 ชม. โอ้โห..เป็นไงๆ แค่นี้ก็เอาเงินฉันไปเถอะ55555 เป็นรองพื้นอีกตัวที่เปิดตัวออกมาแล้วกระแสตอบรับดีม้ากก ด้วยความหรูหรา ความรีวิวจากบล็อกเกอร์และผู้ใช้จริงมาไซโคว่า..แกรซื้อเถอะ มันดีมากจริงๆนะเว้ยย ทั้งติดทน ปกปิดโอเค งานผิวแพง ผิวดี….อ่ะๆ..ก็ได้ๆแกร..ก็ไปซื้อมาพอได้ลองเท่านั้นแหละ เห้ย! ดีงามอะไรเบอร์นี้ ก็มาพร้อมกับราคาแรงแบบเป๋าตังฟีบอ่ะ55555 แต่ยังไง..ฉันก็รักเค้า มีหลายเฉดสีให้เลือกทั้งโทนขาวอมชมพู ขาวเหลือง ผิวสองสี

แพ็คเกจก็มาตามคอนเซ็ปที่บางเบาดุจน้ำหมึก เป็นขวดแก้ว เค้าก็ดีไซน์แพ็คเกจออกมาแบบเหมือนเราใช้น้ำหมึกเลย ตื่นเต้นมากก แอบไม่ชอบตรงที่เลอะตรงคอด้ามที่จับออกมานี่สิ แต่ใช้สะดวกดีนะคะ หยิบออกมาแล้วป้ายๆลงผิวแล้วเกลี่ยได้เลย เนื้อรองพื้นเหลว เนื้อบางเบา เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ หรือเป็นปื้นๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ หอมแบบมีความแพงมากสไตล์ YSL

เห็นความผิวดี อ่อนโยนดุจขนนกนั่นมั๊ยคะ?? มีความผิวกำมะหยี่ สัมผัสดีม้ากก ปกปิดได้กลางๆ อำพรางรูขุมขนได้ดี ผิวนวลเนียนไปหมด ได้ฟินนิชแบบงานผิวเพอร์เฟ็ค พอเซ็ทตัวแล้วแมทท์นะ ยังมีความชุ่มชื้นอยู่ ผิวไม่หนาไม่หนักหน้าเลย บางเบาจริงอ่ะยอม ติดทนทั้งวันอยู่นะคะ ระหว่างวันอาจจะมีหลุดไปบ้างนิดหน่อย คุมมันกลางๆ 3-4ชั่วโมงเท่ากับตัวอื่นเลย ระหว่างวันที่มีความมันนออกมา โอ้โห…ผิวสวยจริง ดิวอี้สุขภาพดีมากอ่ะ ใครที่ชอบงานผิวดี ผิวแพงๆต้องมีอ่ะบอกเลย เชื่อ #Try&Tell ไม่เสียใจแน่นอน

 

DIOR NUDE Skin Glowing Makeup

ปริมาร 30ml ราคา 2,400 บาท

ยังคงอยู่กับงานผิวนะคะ เพราะน้องซิสและ #Try&Tell ไม่อยากให้สาวๆยึดติดที่ว่าต้องแต่งหน้าโบกรองพื้นไปหนาๆ=สวย ตัวนี้แบรนด์หรูงานดีอีกแล้ว เป็นรองพื้นที่โชว์งานผิว ตามชื่อเค้าเลย รุ่น NUDE ให้งานผิวผ่องออร่าจับ เหมือนติดแฟลชอยู่ที่หน้า ผิวดิวอี้ สุขภาพดีแบบธรรมชาติ คือใครผิวดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ใช้อันนี้แล้วจบ คือหน้ายูวจะดูแพงมาก

แพ็คเกจเลอค่าหรูหราน่าจับจอง เป็นขวดแก้วใสเห็นรองพื้นว่าใกล้หมดรึยังน้า…เป็นหัวกดปั๊มใช้งานสะดวกไม่เลอะเทอะ เนื้อของรองพื้นไม่ข้นไม่เหลวจนเกินไป เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ เนียนไปกับผิวเลย เราชอบใช้กับแปรง เพราะมันเสริมกันมาก ได้ความผิวสุดมาก

ตัวนี้ตอนซื้อมาแล้วลองเนื้อคิดไว้เลยว่าไม่ปกปิดแน่ๆ งานผิวเรียลๆแน่ๆ แต่พอลองทาลงหน้าใช้แปรงเกลี่ยนะ ลงรอบนึงให้ผิวสวยเป๊ะเป็นธรรมชาติ รอบนี้จะได้การปกปิดที่เบามาก เราเลยลองใช้แปรงนี่แหละย้ำลงไปเฉพาะตรงที่มีรอยต่างๆ ปรากฎว่า…มันเพิ่มการปกปิดได้อ่ะแกร เพิ่มได้ดีเลยแหละ แล้วดูไม่หนาขึ้นเลย ผิวยังบางเบาเป็นธรรมชาติอยู่ เห็นมั๊ยว่าได้งานผิวดิวอี้เป็นธรรรมชาติเหมือนผิวจริงๆ แต่ในความดิวอี้นี้…รองพื้นตัวนี้ไม่คุมมันนะจ๊ะ5555 ใครผิวมันอาจจะต้องหาแป้งฝุ่นโปร่งแสดงที่ช่วยคุมมันมาเซ็ทจะช่วยได้ สาวผิวแห้ง-ผิวผสมนี่รักแน่นอน ไม่เป็นคราบระหว่างวัน มีหลุดไปบ้างนิดหน่อย ถึงหน้าจะมันแต่หน้าไม่ดรอปนะนะจะ ซับออกก้ผ่องออร่าไปทั้งวันได้เลย

 

“สาวๆที่ต้องการการปกปิด ผิวแน่นเนียน ผิวเป๊ะแบบไร้ที่ติ ใช้ไปออกงานต่างๆ”

Merrez’ca Moisturizer Core Foundation Stick

ปริมาณ 8 กรัม ราคา 590 บาท

ใครที่อยากได้งานผิวแน่นๆ นวลเนียนไร้ที่ติ ต้องรักรองพื้นตัวนี้อ่ะบอกเลย เพราะเค้าปกปิดดีมากแบบ Full Coverage เลย ปิดมิดทุกปัญหาบนใบหน้าจริงๆ ไม่มีคำว่าเกือบมิด คือได้ผิวที่เป๊ะจริงๆ เหมือนได้ผิวใหม่ สาวๆที่มีปัญหาผิวหนักๆ รอยเยอะๆต้องลอง มีส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพราะปกติรองพื้นแบบแท่งทั่วไปเค้าจะแห้ง แต่ตัวนี้ตอบโจทย์ค่ะ เพิ่มความชุ่มชื้นมาให้ซะเลย

รองพื้นเค้ามาเป็นหน้าเป็นแท่งแบบนี้ แล้วตามชื่อที่เค้าบอกว่า Moisturizer Core เพราะตรงแกนกลางเค้ามีตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ หมดปัญหารองพื้นแห้งแตกเลยจ้า แพ็คเกจดูดี เรียบหรู เนื้อรองพื้นเม็ดสีแน่นมาก ยังไงก็ปิดรอยมิดอ่ะ5555 เนื้อเค้าก็มีความชุ่มชื้นจริงๆนะ ไม่ได้แห้งเหมือนรองพื้นแบบแท่งตัวไป ค่อนข้างเกลี่ยง่ายนะคะ ใช้แปรงหรือฟองน้ำก็ได้ตามถนัด ถ้าอยากได้ปกปิดแน่นมากระดับสิบ ใช้ฟองน้ำ เป๊ะ!!

เป็นไงคะ แน่นมั๊ยคะ? เนียนมั๊ยเอ่ย? ปกปิดมิดมั๊ยล่ะ? ดูจากภาพสาวๆคงได้คำตอบกันแล้ว คือเค้าปกปิดดีมว้ากกกก คือนางเกิดมาเพื่อสาวๆที่มีปัญหาผิวหนักๆ ต้องการการปกปิดเน้นๆจริงๆ เรียกได้ว่าใช้รองพื้นตัวนี้แล้วเหมือนได้ผิวใหม่แบบไม่ต้องเจ็บตัวเลยล่ะ เสียแค่เงิน 590บาทเอง และเพื่อนๆเห็นมั้ยว่า…ผิวไม่แห้ง มีความชุ่มชื้นกำลังดี เนื้อรองพื้นไม่แคร๊ก ไม่แห้ง ไม่แตก ระหว่างวันเค้าไม่ดรอปนะ คุมมันได้สักประมาณ 4ชั่วโมง มีหลุดไปบ้างนิดหน่อย ถือว่าติดทนดีงามค่ะ

 

 

เอาเป็นว่ารองพื้นทั้ง 5 ตัวที่ #Try&Tell รีวิวบอกต่อนำมาเม้ามอยกันในวันนี้ คือเริ่ดทุกตัวจริงๆ ควรค่าแก่การเสียเงินซื้อแบบไม่ผิดหวัง เลือกให้ตรงกับปัญหาผิวที่ตัวเองมีอยู่ และตรงโทนสีผิวด้วยนะจ๊ะ รองพื้นทั้ง 5ตัวนี้ก็เอาคะแนนจาก #Try&Tell รีวิวบอกต่อ ไป 5 ดาวทุกตัวเลย เย้ๆๆๆๆๆๆ

แฟนๆ #Try&Tell รีวิวบอกต่อ ที่อ่านรีวิว 5 รองพื้นที่สาวไทยคู่ควรมาแล้ว ถ้าได้ลองใช้ หรือไปสอยตัวไหนมาแล้ว แวะมาเม้าท์มอยให้น้องซิสฟังบ้างนะคะ พบกับ #Try&Tell รีวิวบอกต่อบทความหน้านะคะ บ๊ายบายย


Comments

comments