ใครที่เป็นมือใหม่หัดแต่งหน้า แล้วยังงึนงงเวลาแต่งหน้า ไม่รู้ว่าควรจะทาสกินแคร์ และลงเมคอัพตัวไหนก่อนตัวไหนหลัง ต้องดู ! เราอยากบอกว่าขั้นตอนการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เลยนะ ความสำคัญไม่ต่างกับการลงเมคอัพ วันนี้เราเลยจะมาบอก ขั้นตอนการแต่งหน้า ทั้ง 15 ขั้นตอน รวมถึงขั้นตอนการเตรียมผิวให้เสร็จสรรพ  สาว ๆ รู้มั้ยว่าการที่เราทำตามขั้นตอนการแต่งหน้าอย่างถูกต้อง จะช่วยให้เครื่องสำอางที่ใช้แต่งลงบนผิวหน้าติดทนนานมากขึ้นด้วยนะ พร้อมแล้ว เรามาดูขั้นตอนการแต่งหน้ากันเลยดีกว่า !

 

15 ขั้นตอนการแต่งหน้า ต้องลงอะไรก่อนหลัง มือใหม่หัดแต่งหน้ามาดู !

 

1. ล้างทำความสะอาดผิวหน้า

 

โฟมล้างหน้าการ์นิเย่ดีไหม มีสูตรไหนบ้าง ? - Shopper's Cafe

 

สิ่งแรกที่เราควรทำ คือการล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด  ถ้าเราลงเครื่องสำอางเลย โดยไม่ล้างหน้า จะทำให้ผิวหน้าของเราผลิตน้ำมันออกมาระหว่างวันมากเกินไป ซึ่งทำให้เครื่องสำอางไม่ติดทนนาน  นอกจากนี้การล้างหน้ายังเป็นการเปิดรูขุนขน และนำสิ่งสกปรกออก ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย, ฝุ่น ออกไปจากหน้า  ช่วยให้การเตรียมผิวต่อไปมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


2. เตรียมผิวด้วยโทนเนอร์

 

ก่อนที่เราจะลงสกินแคร์ตัวอื่น ๆ แนะนำให้โทนเนอร์ก่อน สิ่งนี้จะช่วยปรับความสมดุลของผิว ช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นมากขึ้น และช่วยให้ผิวสามารถรับสารอาหารจากสกินแคร์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้นด้วย อีกทั้งยังเป็นตัวขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออก และการใช้โทนเนอร์ยังเช็คได้ว่าเราล้างหน้าได้สะอาดจริง ๆ แล้วรึเปล่า ถ้ายังเช็ดกับสำลีแล้วยังเป็นคราบ แนะนำให้กลับไปล้างหน้าใหม่


4. ทาครีมกันแดด 

 

ครีมกันแดด VS ครีมทาหน้า อะไรทาก่อนกัน? - id SKIN EXPERT

 

ครีมกันแดดเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ ต่อให้เราไม่ได้แต่งหน้าก็ตาม สิ่งนี้จะช่วยปกป้องคุณจาก UV ทำให้ลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ร่องรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับครีมกันแดดที่ใช้ทาหน้านั้น ก็จะมีสูตรแแยกออกไปหลากหลายเนื้อ โดยเลือกให้เข้ากับสภาพผิว  ในสภาพอากาศประเทศไทยแบบนี้ เราแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อยเป็น SPF 30 ขึ้นไปนะคะ หากใครใช้สกินแคร์หรือรองพื้นที่มีกันแดดในตัว แต่ค่า SPF ไม่ถึง 30 ควรทาครีมกันแดดร่วมด้วยจะดีที่สุดค่ะ


5. ลงไพรเมอร์ 

ไอเทมนี้จำเป็นมากสำหรับสาวที่ผิวมัน รูขุมขนหว้าง มีปัญหาหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน มีร่องรอยลึก ไพรเมอร์สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้น้อยลง และช่วยให้เครื่องสำอางติดทนยิ่งขึ้น วิธีการใช้ให้ใช้ไพรเมอร์ในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว ทาบริเวณ T-Zone ที่มีความมัน ใครที่ใช้ไพรเมอร์ แนะนำว่าต้องล้างให้เกลี้ยงมาก ๆ ไม่งั้นอาจจะเกิดการอุดตันของสิวได้ ระวังกันด้วยนะสาว ๆ


6. ลงเมคอัพเบส 

 

เมคอัพเบสหรือเบสผิว ช่วยในการลบเลือยริ้วรอย แล้วยังช่วยให้ผิวดูสม่ำเสมอเรียบเนียน และทำให้เมคอัพติดทนนานยิ่งขึ้นอีกด้วย เมคอัพเบสที่ดีนั้นควรเลือกที่มีส่วนบำรุงที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่สภาพผิว ใครที่มีปัญหา รอยจากกดสิว, ขอบตาคล้ำ,​ สิวแดงที่เกิดใหม่ หรือริ้วรอยต่าง ๆ ควรลงเบสเพื่อปรับสภาพสีผิวก่อน เพื่อปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้า และช่วยให้เครื่องสำอางติดทน


7. ลงงานผิว

 

ตามมาด้วยลงงานผิว ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีหลากหลายไอเทมให้เลือก ทั้ง รองพื้น ซีซีครีม บีบีครีม และคุชชั่น โดยมีคุณสมบัติในการช่วยปกปิดรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ซึ่งแต่ละไอเทมมีระดับความสามารถในการปกปิด และ Texture แตกต่างกันออกไป

  • รองพื้น : ให้การปิดปกที่มากกว่าตัวอื่น ๆ เพื่อให้ผิวที่สมบูรณ์ไร้จุดบกพร่อง ซึ่งระดับการปกปิดก็ขึ้นอยู่กับสูตร เนื้อรองพื้น และปริมาณการลงรองพื้น เราจำเป็นต้องเลือกให้กับสภาพผิว
  • บีบีครีม : บีบีจะมีเนื้อคล้าย ๆ กับรองพื้น แต่ให้การปกปิดได้ไม่เท่ารองพื้น แต่จะให้เนื้อที่บางเบากว่า อ่อนโยนกว่า แต่ก็ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ จึงค่อนข้างเหมาะกับสาว ๆ ที่มีผิวค่อนข้างดีอยู่แล้ว
  • ซีซีครีม : ครีมที่มีส่วนผสมจาก ครีมบำรุง เมคอัพเบส ครีมกันแดด รองพื้น  ซีซีครีมได้รับการปรับปรุงมาจาก BB Cream แต่ให้การปกปิดที่สูงกว่า ดูดซับได้เร็วกว่า และช่วยคุมสีผิวให้กลืนไปกับผิวของเรา 
  • คุชชั่น : คุชชั่นมีความใกล้เคียงกับรองพื้นมากที่สุด แต่มีความแตกต่างตรงที่ คุชชั่นจะผสมครีมบำรุงหรือครีมกันแดดเข้าไปในเนื้อรองพื้น ตัวเนื้อรองพื้นจะมีโมเลกุลขนาดเล็กกว่ารองพื้นปกติมาก เพื่อให้ซึมผ่านฟองน้ำได้ ความพิเศษอีกอย่างคือพัฟฟ์ที่ให้มากับตลับคุชชั่นเป็น พัฟฟ์แบบไม่กินเนื้อรองพื้น ให้ผิวสวยปกปิด และบางเบา

8. ลงคอนซีลเลอร์ 

 

รองพื้นไม่อาจแก้ปัญหาหาผิวบางจุดไม่ได้สนิท จึงมีคอนซีลเลอร์ในการแก้ปัญหาเฉพาะจุด เช่น รอยสิว รอยคล้ำใต้ต้า รอยดำ รอยแดง และสิวเม็ดนูน คอนซิลเลอร์จะมีหลายสูตร สำหรับ ผิวมัน ผิวแห้ง และผิวแพ้ง่าย รวมถึงเนื้อผลิตภัณฑ์ก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งเนื้อน้ำ เนื้อครีม และอื่นๆ


9. ลงแป้ง

เราจำเป็นต้องลงแป้งต่อจากรองพื้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าตอนนี้หน้าเราแน่นเพียงพอแล้วมั้ย และขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละคนด้วย แต่ถ้าเราใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ได้ออกงานที่ต้องการเมคอัพแน่น ๆ แค่ลงรองพื้นแบบปกปิด ลงด้วยแป้งฝุ่นคุมมัน แค่นี้ก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องลงแป้งที่ผสมรองพื้น


10. เขียนคิ้ว

 

เราจะเริ่มแต่งหน้าด้วยจุดที่อยู่บนสุด นั้นคือคิ้ว เพื่อให้การแต่งหน้าไม่เลอะจุดอื่น  โดย “ที่เขียนคิ้ว”จะช่วยให้ใบหน้าของเราดูคมขึ้นด้วยการวาดหรือเติมทรงคิ้วให้สมบูรณ์แบบเข้ากับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็นลุคที่ดูเป็นธรรมชาติหรือลุคที่ดูโฉบเฉี่ยวตามที่เราตั้งใจเขียน ที่เขียนคิ้วจะมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบฝุ่น แบบดินสอ และแบบเจล


11. ตกแต่งดวงตา

 

จุดต่อมาที่เราจะเริ่มแต่ง คือการลงอายแชโดว์ ที่ดวงตา และตามด้วยกรีดอายไลน์เนอร์ และการปัดขนตาด้วยมาซคาร่า ตามลำดับ 


12 การลงคอนทัวร์ และไฮไลท์เตอร์ 

 

เทคนิคการลงรองพื้น ให้ผิวหน้าดูธรรมชาติ โดยไม่ทำให้ผิวหน้าดูหนา

 

ตามมาด้วยขั้นตอนการลงคอนทัวร์ และไฮไลท์เตอร์  คอนทัวร์จะใช้ในการเน้นโครงสร้างของหน้าให้ชัดขึ้นด้วยการใช้เทคนิคของเงาเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นตรงกรอบหน้าหรือการสร้างจมูกให้ดูโด่ง ส่วนไฮไลท์เตอร์ช่วยในการเล่นแสง บริเวณโหนกแก้ม, คาง, สันจมูก และหน้าผาก เพื่อเน้นให้ผิวส่วนนั้นดูเด่น และดูชัดขึ้น 


13. ลงบลัชออน 

 

ตามมาด้วยการลงงานแก้ม ด้วย บลัชออน ช่วยเนรมิตให้ใบหน้าดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาในโทนสีชมพู สีแดง และสีส้ม และมีหลากหลายเนื้อทั้งเนื้อแมตต์ เนื้อชิมเมอร์ฉ่ำวาว และมีแบบฝุ่น แบบน้ำ ไปจนถึงเนื้อครีม 


14. ทาลิปสติก

 

สิ่งที่ขาดไปได้เลยสำหรับสาว ๆ นั้นคือ ลิปสติก ไอเทมที่ช่วยให้เพื่อน ๆ มีใบหน้าที่สดใสยิ่งขึ้น ซึ่งเนื้อลิปมีออกมาหลากหลายเนื้อ ทั้งทินท์ กลอส ลิปบาล์ม ลิปสติกแมตต์  ลิปไลเนอร์ และอื่น ๆ แล้วแต่ละตัวจะมีความติดทนที่มากน้อยแตกต่างกันออกไป และให้ฟีนิสที่แตกต่างตามความชอบของเพื่อน ๆ 


15. ใช้สเปรย์ล็อคเมคอัพ

 

What is a makeup setting spray & how to use it?

 

ขั้นตอนสุดท้าย ถ้าอยากให้เมคอัพอยู่ทน ต้องมีไอเทมนี้เลย เซ็ตติ้งเปรย์ หรือ ‘สเปรย์จบงาน’ มีส่วนผสมของน้ำ และแอลกอฮอล์ ช่วยล็อคเมคอัพให้ติดทนนาน และสีไม่ซีดจางระหว่างวัน

 

แล้วนี้ก็เป็น ขั้นตอนการแต่งหน้า ทั้งหมด 15 ขั้นตอน  เพื่อน ๆ ลองนำไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองกันดูน้า เราไม่จำเป็นจะต้องทำตามทั้งหมดทุกสเต็ป แต่แค่เรียงตามขั้นตอนเหล่านี้ แค่นี้เมคอัพก็จะสวยทนตลอดวันแล้วค่ะ วันนี้เราขอตัวลาเพื่อน ๆ ไปก่อน เจอกันใหม่ในบทความหน้านะ บ๊ายบาย

 

 

 

Photo Credit:

p1

p2

p3

p4

Source Credit:

bestreview

Comments

comments