ใครตาบวมยกมือขึ้น! เชื่อว่าปัญหารอบดวงตาของสาว ๆ เป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอย รอยคล้ำใต้ตา หรือแม้แต่ “ถุงใต้ตา” คนที่ถุงใต้ตาบวมมาก ๆ ทำให้ดูมีอายุ ตาบวม เหมือนพักผ่อนไม่พอ นอกจากเสียบุคลิกแล้ว ยังทำให้ดูโทรมอีกต่างหาก เรามาหา วิธีลดถุงใต้ตา กันเถอะค่ะซิส ว่าจะต้องทำยังไง ให้ใต้ตาดูไบรท์ สดใส ดูเด็กลง

 

8 วิธีลดถุงใต้ตา ทำยังไงให้ตาไบรท์ ไม่บวมฉึ่ง!

 

ถุงใต้ตาเป็นปัญหาใหญ่ อาจจะเกิดจากทั้งไขมัน หรือของเหลวที่ไปคั่งค้างอยู่ใต้ดวงตา ทำให้ถุงใ้ต้ตาบวมขึ้นมา ยิ่งประกอบกับพักผ่อนไม่เพียงพอ ยิ่งทำให้ถุงใต้ตาบวมเข้าไปใหญ่ ดังนั้น มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าวิธีลดถุงใต้ตา ทำยังไงได้บ้าง

วิธีลดถุงใต้ตา
กาเฟอีนในชามีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและอาจเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังผิวหนัง

1. ประคบด้วยถุงชา – ชาไม่ได้มีไว้จิบเท่านั้นค่ะซิส เพราะชาช่วยเรื่องรอยคล้ำและถุงใต้ตาได้ กาเฟอีนในชามีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและอาจเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในชาเขียวนี่แหละ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากเลยทีเดียว และมีงานวิจัยว่า กาเฟอีนจะช่วยป้องกันรังสียูวี และป้องกันริ้วรอยได้ด้วย วิธีการก็คือ นำถุงชาไปแช่ในน้ำ 3 – 5 นาที แล้วนำถุงชาเปียก ๆ ไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 2 นาที จากนั้นนำถุงชาออกมา บีบน้ำส่วนเกินออก แล้วนำถุงชามาประคบใต้ตาประมาณ 15 – 30 นาที จะช่วยลดอาการบวมและความหมองคล้ำได้

2. ประคบเย็น – นอกจากถุงชาแช่เย็นแล้ว สิ่งอื่น ๆ ที่นำไปแช่เย็น ก็สามารถลดความบวมของถุงใต้ตาได้เช่นกัน เพราะความเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ลดถุงใต้ตาได้ชั่วคราว โดยซิสอาจจะใช้ Cold Pack, ช้อนแช่เย็น, แตงกวาหรือมะเขือเทศแช่เย็น, มาสก์ใต้ตา หรือจะเป็นผ้าชุบน้ำ นำไปแช่ตู้เย็นก่อนนำมาประคบตา ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

วิธีลดถุงใต้ตา
ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 1.5 – 2 ลิตร นอกจากจะช่วยลดถุงใต้ตาแล้ว ยังทำให้ระบบขับถ่ายดี ผิวสวยด้วย

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ – น้ำคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ภาวะขาดน้ำอาจส่งผลต่อถุงใต้ตาได้ ดังนั้น การดื่มน้ำให้เพียงพอ เติมน้ำให้ร่างกาย จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยซิสควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 1.5 – 2 ลิตร นอกจากจะช่วยลดถุงใต้ตาแล้ว ยังทำให้ระบบขับถ่ายดี ผิวสวยด้วยนะ 

4. ลองเติม Retinol ลงไปในอายครีม – เรตินอลเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่อยู่ในวิตามินเอ และสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลายอย่าง สำหรับเรื่องถุงใต้ตา เรตินอลจะเข้าไปช่วยเติมเต็มคอลลาเจน ซึ่งโดยทั่วไปแนะนำให้ใช้เรตินอลวันละ 1 ครั้ง หลังล้างหน้าประมาณ 30 นาที แต่ไม่แนะนำให้ใช้เรตินอลหรือวิตามินเอช่วงตั้งครรภ์นะคะ เพราะอาจส่งอันตรายต่อทารกในครรภ์ เลี่ยงไปลดถุงใต้ตาด้วยวิธีอื่นดีกว่าค่ะซิส

วิธีลดถุงใต้ตา
การนอนหมอนสูง จะช่วยป้องกันการสะสมของของเหลวบริเวณใต้ตา

5. หนุนหมอนสูง – การนอนหมอนสูงจะช่วยป้องกันการสะสมของของเหลวบริเวณใต้ตา ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอาการบวมขณะนอนหลับ แต่ถ้านอนหมอนสูงแล้วไม่สบาย ลองทำที่นอนให้ลาดขึ้นนิดหน่อยก็ได้ค่ะ หนุนหมอนตั้งแต่ช่วงไหล่ไปจนถึงศีรษะก็ช่วยได้ ทำให้นอนสบายขึ้นด้วย 

6. งดอาหารเค็ม – การกินอาหารรสเค็มมากเกินไปอาจเป็นสาเหตุของถุงใต้ตา เกลือมีส่วนในการกักเก็บของเหลวในร่างกาย นอกจากจะทำให้ตัวบวมแล้ว ยังทำให้ถุงใต้ตาบวมด้วยจ้า นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด American Heart Association แนะนำให้บริโภคเกลือไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งโดยปกติแล้ว ผู้ใหญ่ควรได้รับโซเดียมหรือเกลือไม่เกิน 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน

วิธีลดถุงใต้ตา
การดื่มแอลกอฮอล์ มีส่วนทำให้ร่างกายขาดน้ำ และภาวะขาดน้ำอาจทำให้เกิดถุงใต้ตาและรอยคล้ำใต้ตาได้

7. งดแอลกอฮอล์ – หลักการเดียวกับการที่บอกให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ น่ะแหละซิส เพราะว่าน้ำที่ให้ดื่มอะไม่ใช่แอลกอฮอล์นะ การดื่มแอลกอฮอล์น่ะ มีส่วนทำให้ร่างกายขาดน้ำ และภาวะขาดน้ำอาจทำให้เกิดถุงใต้ตาและรอยคล้ำใต้ตาได้ ดังนั้น ถ้าไม่อยากตาบวม งดไปก่อนเลยจ้า

8. งดสูบบุหรี่ – ซิสรู้ไหมว่า การสูบบุหรี่ทำให้ปริมาณวิตามินซีในร่างกายลดลง ซึ่งวิตามินซีน่ะมีหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวแข็งแรง เมื่อผิวขาดวิตามินซี ก็จะเกิดริ้วรอยได้ง่าย และยังส่งผลไปถึงถุงใต้ตา และความหมองคล้ำด้วย เลิกได้เลิกนะซิส

 

วิธีลดถุงใต้ตา

เมื่อไหร่ควรไปหาหมอ

ปกติแล้วถุงใต้ตาไม่ได้มีอันตรายอะไร ไม่ต้องไปหาหมอก็ได้ค่ะ แต่ถ้าถุงใต้ตาบวมผิดปกติ บวมข้างเดียว มีอาการรุนแรง และยาวนาน ร่วมกับมีอาการแดง ปวด หรือคัน ส่งผลต่อส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ขา อาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือปัญหาทางการแพทย์อื่น ๆ จึงต้องไปหาคุณหมอเพื่อเช็กอาการค่ะ

นอกจากนี้ แพทย์อาจจะเสนอวิธีการทางความงามต่าง ๆ เพื่อลดปัญหาถุงใต้ตาบวมก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทาครีม หรือวิธีอื่น ๆ เช่น เลเซอร์ เทอร์มาจ ผ่าตัด ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อเติมเต็มใต้ตา และพรางส่วนที่บวม และอีกหลากหลายวิธี แต่ก่อนจะตัดสินใจจะทำอะไรกับรอบดวงตา ต้องศึกษา และปรึกษาแพทย์ให้มั่นใจก่อนนะ เพราะเป็นบริเวณที่บอบบางมาก

 

ถึงปัญหาถุงใต้ตาจะเป็นปัญหากวนใจ แต่เราสามารถดูแลตัวเอง และทำให้มันดูบวมน้อยลงได้นะคะ อย่าลืมใส่ใจและสังเกตตัวเองเยอะ ๆ เราจะได้ทั้งสวย และสุขภาพดี ไปพร้อม ๆ กันไง

 

 

Credit Information From www.healthline.com

Credit Pictures From reesewoods.com, www.ikea.com, habituallychic.luxury, www.dermatech-labs.com, www.mm52.com, www.reequil.com

Comments

comments