สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน ช่วงอาทิตย์ที่แล้วตัวเรานั้นได้มีโอกาสกลับไปดูหนัง Biography ที่น่าสนใจ อีกทั้งในบางเรื่องเรยังสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ และทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นที่มาในธุรกิจเหล่านี้มากขึ้นเสียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากจะแชร์เรื่องราวดีๆ ความน่าประทับใจ และที่มาของความคิดกว่าจะเป็นผู้มีชื่อเสียงและผู้ประสบความสำเร็จระดับโลกกับ “รวม 3 หนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู เล่าเรื่องจริงของบุคคลที่ประสบความสำเร็จในโลก!”
มาลองดูกันว่าแต่ละเรื่องที่เรายกมานั้นน่าสนใจอย่างเรา ทำไมถึงเป็นบุคคลที่น่าจับตามองได้ขนาดนี้ และจะมีเรื่องอะไรบ้างไปดูกันเลย

 

“รวม 3 หนังสร้างจากเรื่องจริง เล่าเรื่องจริงของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ”

 

เรื่องที่ 1: The Social Network (2010)

สร้างจากเรื่องราวของ: Facebook และ Mark Zuckerberg พร้อมด้วยผู้ก่อตั้ง
คะแนนที่ได้จาก IMDb: 7.7 / 10

หนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู

หนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู เรื่องแรกเราขอหยิบยก Social Media ที่เรียกได้ว่าถือครองยอดในตลาดหุ้นทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 100 ล้านดอลล่าสหรัฐ อีกทั้งยังเป็น Social Media ที่ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้กับ “Facebook” และเรื่องราวของหนังที่เราอยากจะบอกเล่าและนำเสนอให้สาวๆ ได้รู้จักกันนั่นก็คือ The Social Network เป็นเรื่องราวของความคิดและเรื่องราวที่กว่าจะมาเป็น Facebook พร้อมประวัติของผู้ก่อตั้งหลักๆ อย่าง Mark Zuckerberg และคนอื่นๆ ในทีม ที่จะทำให้เรารู้ว่ากว่าเขาจะก้าวมาจนถึงทุกวันนี้ มันไม่ได้ง่ายเลยทีเดียว

หนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู

The Social Network เป็นหนังที่สร้างจากเรื่อง น่าดู เรื่องหนึ่งที่ได้ผู้กำกับมือทองอย่าง Devid Fincher มากำกับผลงานที่เรียกได้ว่าเป็นที่น่าจับตามองเรื่องหนึ่งในยุคสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ เพราะหนังเรื่องนี้ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ไม่ต่ำกว่า 8 สาขา อีกทั้งยังได้รับรางวัลจากงานลูกโลกทองคำอีกด้วย ว่าด้วยเรื่องราวของคดีการฟ้องร้องระหว่าง Mark Zuckerberg อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัย Harvard กับ Eduardo Saverin พร้อมด้วยคู่ฝาแฝดอย่าง Tylor และ Cameron ด้วยคดีการยักยอกความคิด และเรื่องหุ้นส่วนของ Facebook

สำหรับเรานั้นหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่หนังที่ว่าด้วยที่มาหรือเจาะประวัติของ Facebook มากมายขนาดนั้น แต่มันทำให้เราได้สะท้อนความคิดว่า การริเริ่มอะไรที่ใหญ่ๆ มักมาจากสิ่งเล็กๆ ที่มนุษย์เรามองข้ามเสมอ

ส่วนตัวเราคิดว่า Mark Zuckerberg เป็นเด็กหนุ่มสุดเนิร์ค ที่ชื่นชอบการเขียน Code และ Website คนหนึ่ง เขาเริ่มมีความคิดที่อยากทำ Community นี้ขึ้นมาจากการถูกสาวคนหนึ่งหักอก และอยากต่อยอดความคิดของเพื่อนที่อยากให้นักศึกษา Harvard ได้รู้จักกันผ่าน Community Online แค่นั้น แต่กว่าจะเดินหน้ามาจนถึงความสำเร็จ ณ ปัจจุบัน Mark และทีมผู้สร้างต้องผ่าน เรื่องราวความขัดแย้งและผลกระทบอื่นๆ มาแล้วนับไม่ถ้วน

 

เรื่องที่ 2: Steve Jobs (2015)

สร้างจากเรื่องราวของ: Steve Jobs และบริษัท Apple
คะแนนที่ได้รับจาก IMDb: 7.2 / 10

หนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู

หากพูดถึงวงการธุรกิจเทคโนโลยีและซอฟแวร์ เรามั่นใจว่าบริษัทนี้และเครื่องมือเครื่องใช้ที่มาจากบริษัทนี้เป็นที่รู้จักและสร้างความ Loyalty ให้กับผู้ใช้ทั่วโลก จากเด็กหนุ่มที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการเทคโนโลยี จากการสร้างผลิตภัณฑ์ ณ โรงรถของที่บ้านสู่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีรายได้ทั่วโลก ไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านดอลล่าสหรัฐกับ “Apple”

และหนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู เรื่องต่อไปเราขอเสนอเรื่องราวและที่มาจากบริษัทจากบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่น่าจดจำของคนทั่วโลกอย่าง Steve Jobs พ่อมดแห่งวงการไอที ผู้ร่วมสร้างเครื่อง Macintosh และผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Apple

หนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู

Steve Jobs เป็นเรื่องราวของอดีตนักศึกษา Reed College ในคณะที่สอนเรื่องการเขียน Code และเทคโนโลยีต่างๆ แต่ด้วยค่าเทอมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สูง เขาจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็ยังเดินทางไปมาหาสู่กับเพื่อนสนิทของเขาอยู่
ในวันหนึ่งเขาได้เดินทางไปหาเพื่อสนิทของเขาอย่าง Steve Wozniak เพื่อให้เพื่อนอัจฉริยะของเขาคนนี้ช่วย Project หนึ่งของเขาให้

แต่ทว่า Steve Jobs ดันไปเห็น Mainboard อันหนึ่งซึ่งมันเป็นผลงานชิ้นเล็กๆ ที่จะเปลี่ยนโลกของ Woz Steve Jobs มองเห็นโอกาสที่มันจะ สามารถสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบไอทีได้ เขาจึงเสนอขายและผลิตเจ้า Mainboard นี้โดยใช้ชื่อ Project Apple ด้วยเหตุนี้ทำให้ Steve Jobs และ Woz ก่อตั้งทีมและใช้โรงรถของพ่อบุญธรรมของ Jobs ในการผลิตผลงานสร้างชื่อชิ้นนี้

สำหรับตัวเราแล้ว เราคิดว่าสิ่งที่เราเห็นในหนังเรื่องนี้ แน่นอนคงหนีไม่พ้นความอลังการและความยิ่งใหญ่กว่าจะมาเป็นพ่อมดแห่งวงการไอทีได้ แต่! สิ่งที่ทำให้เราประหลาดใจและรู้สึกประทับใจคงเป็นวิธีคิดและแนวความคิด การมองเห็นโอกาสเล็กๆ ที่คนอื่นๆ มองข้าม การล้มลุกคลุกคลาน และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ ไม่ใช่ว่าหนทางการขึ้นมาประสบความสำเร็จของ Jobs จะราบรื่น เขาถูกโกง ถูกไล่ออกจากการเป็น CEO ผู้ก่อตั้งในบริษัทของตนเองมาก่อน แต่ประสบการณ์เหล่านี้ช่วยสอนและขัดเกลาเขาให้มีทุกวันนี้

 

เรื่องที่ 3: The Founder (2016)

สร้างจากเรื่องราวของ: Ray Kroc และ McDonald’s
คะแนนที่ได้รับจาก IMDb: 7.2 / 10

หนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู

ต่อมาเป็น หนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู เรื่องสุดท้ายที่เรียกได้ว่าจากเซลล์แมนขายเครื่องปั่นมิลค์เช็ค สู่เจ้าของธุรกิจที่เขย่าวงการ Fastfood และเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจประจำชาติอเมริกาเลยก็ว่าได้ ไม่เพียงแค่นั้นแบรนด์ Fastfood นี้ยังขยายสาขาไปทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย กับ “McDonald’s”
เป็นเรื่องราวของ Ray Kroc เจ้าของแบรนด์ “McDonald’s” ที่จะบอกเล่าที่มาที่ไป และโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจที่เขาประสบมา

หนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู

โดย The Founder เป็นเรื่องราวของ Ray Kroc เซลล์แมนวัย 52 ปี ที่มีความทะเยอทะยานและกระหายความประสบความสำเร็จเป็นชีวิตจิตใจ เขาเป็นเจ้าของบริษัทผลิตเครื่องผลิตมิลค์เชค แต่ทว่าความทะเยอทะยานและความ Productive ของเขาไม่ค่อยเป็นผลเสียเท่าไร ทำให้เขาขายสินค้าไม่ค่อยได้ ในขณะที่เรย์กำลังเดินทางไปขายเครื่องทำมิลค์เชคของเขาอยู่นั้น เขาก็ได้โทรเช็คกับเลขาของเขาเพื่อดูว่าในบริษัทมีออร์เดอร์มาเพิ่มหรือไม่

และในที่สุดก็มีออร์เดอร์ทั้งหมด 6 เครื่องมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทำให้เรย์เกิดความประหลาดใจจึงโทรสอบถามร้านอาหารแห่งนี้ จนได้รู้ว่าร้านอาหารแห่งนี้มีรูปแบบการจำหน่ายอาหารที่น่าแปลกใจ แต่มันเป็นรูปแบบที่ดี อีกทั้งเรย์ยังมองเห็นลู่ทางและโอกาสอื่นๆ อีกด้วย จากหนังสร้างจากเรื่องจริง น่าดู เรื่องนี้ ถ้ามองในแง่ศิลธรรมอันดีงาม เราคิดว่าเรย์เป็นเหมือนเสือดำในป่าใหญ่ ที่จ้องตะขุบเหยื่อในเวลาที่เหมาะสม เขามองเห็นโอกาสและช่องว่างของธุรกิจของพี่น้องแมคโดนัล Big กับ Dick ที่พวกเขามองข้ามและไม่กล้ากับมันมาตลอด

แต่หากมองในแง่ธุรกิจและความประสบความสำเร็จ การอ่านเกมให้ฉลาดนั้นเรย์ทำในออกได้เป็นอย่างดี และเรียกได้ว่าแสบเข้าขั้นแบบสุดๆ มันทำให้เราเข้าใจว่า “อยากจะเล่นเกม ต้องอ่านเกมและมองเหนือเกมให้เป็น” เรย์มองเห็นโอกาส จุดบกพร่อง และมองเกมธุรกิจอย่างก้าวไกล เมื่อฝันใกล้ไกล ความพยายามเพื่อจะไปให้ถึงจึงไม่ไกลเกินไป และข้อคิดสุดท้ายที่เราได้จากหนังเรื่องนี้คือ “ความสำเร็จต้องใช้เวลา” เรย์ ใช้เวลากว่าจะเขาจะเป็นเจ้าของธุรกิจ Fanchies Fastfood ที่แผ่ไปทั่วอเมริกาได้นั้น เขาใช้เวลาทั้งหมดกว่า 30 ปี ในการสั่งสมประสบการณ์ต่างๆ

 

Photo Credits:

Comments

comments