ว่ากันว่าความรู้สึกเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง เกิดจากสิ่งที่เรารับเข้าไป สิ่งที่เราได้เผชิญมา การเก็บนำมาคิดนำมาใส่ใจ ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดจากมือของเราเอง ซึ่งเราก็ไม่สามารถยืนยันได้เต็มปากว่ามันเกิดจากอะไร แต่หากพูดถึงความรู้สึกความเหงาก็คงเป็นหนึ่งในความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของเราบ่อยครั้ง ความเหงาคือเพื่อนคนสนิทที่วันใดเราขาดไป เราอาจจะคิดถึงมันจับใจก็ได้นะ ต่อให้มีแฟนมีเพื่อนมากมาย ความเหงาก็แอบมาทักทายเราเสมอ ถ้าอย่างนั้นเราก็หันหน้ามายอมรับ และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตไปกับมันดีกว่า วันนี้ Clubsister จึงได้รวบรวม หนังเหงา ๆ สำหรับคนเหงา ที่ดูแล้วอาจทำให้เหงามากกว่าเดิม !! เผื่อเพื่อน ๆ ที่เหงา อยากรับรู้เรื่องราวที่มีฟีลลิ่งไม่ต่างจากตัวเอง เพื่อตอกย้ำความเหงา หรืออาจจะดูเพื่อคลายเหงาก็ได้ เป็นหนังสบาย ๆ ง่าย ๆ ปล่อยใจฟีล ๆ ให้ความเหงานำทาง ส่วนตอนจบจะเป็นอย่างไรนั่น ก็ไม่มีใครรู้ จะมีหนังเรื่องอะไรกันบ้างมาดูกันเลยค่ะ
รวมมาให้แล้ว 5 หนังเหงาๆ สำหรับคนเหงา ที่ดูแล้วเหงากว่าเดิม
1. Lost in Translation หลง เหงา รัก
รูป Lost in Translation 2003, directed by Sofia Coppola | Film review (timeout.com)
นำแสดงโดย สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน, บิล เมอร์เรย์
‘บ็อบ แฮริส’ (บิล เมอร์เรย์) นักแสดงขาลงวัยกลางคน กำลังประสบปัญหาเบื่อหน่ายภรรยา แล้วยังต้องมารับงานถ่ายโฆษณาที่เขารู้สึกอึดอัดในญี่ปุ่นอีก ‘ชาล็อตต์’ (สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน) นักศึกษาพึ่งจบปริญญาด้านปรัชญา ติดตามสามีที่เป็นช่างภาพมาทำงานที่ญี่ปุ่น ด้วยความที่สามีต้องทำงานทั้งวันจึงไม่มีเวลาให้กับเธอ ตลอดเวลาที่เธออยู่คนเดียวจึงรู้สึกเหงาในดินแดนที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาตัวเองกับคนอื่นได้ทั้ง ‘บ็อบ’ และ ‘ชาล็อตต์’ จึงมีความเหมือนกันคือ ‘รู้สึกตัวคนเดียว’ เบื่อหน่ายตัวเองในญี่ปุ่น จนเมื่อทั้งสองคนเริ่มต้นทักกัน เห็นกันบ่อยขึ้น ผูกมิตรกัน จึงตกลงกันออกไป ‘สร้างพื้นที่ส่วนตัว’ ของตัวเองเป็นเพื่อนคลายเหงาซึ่งกันและกันเท่านั้นในญี่ปุ่น ทั้งเนื้อเรื่อง ทั้งการเล่าเรื่อง ทั้งดนตรี ล้วนชวนเราเข้าไปซึมซับกับความเหงา อาการที่ในหนังสื่อกับเราว่าเกิดจาก “ความล้มเหลวในการสื่อสาร” แม้จะอยู่ในมหานครขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คน แต่เมื่อไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ แม้แต่กับคนที่ใกล้ชิดก็เหมือนจะคุยกันคนละภาษา เมื่อนั้นความเหงาก็ถือโอกาสเข้าเกาะกุม
2. Her รักดังฟังชัด
รูป Her: แค่ใครสักคนบนดาวเคราะห์นี้ (adaybulletin.com)
นำแสดงโดย วาคีน ฟินิกซ์, สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน
‘ธีโอดอร์’ (วาคีน ฟินิกซ์) นักเขียนหนุ่มขี้เหงาช้ำรัก เขาเพิ่งแยกกันอยู่กับภรรยาและยังทำใจไม่ได้ที่จะเซ็นใบหย่า จนกระทั่งเขาได้รู้จักและตกหลุมรักกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีชื่อว่า ‘ซาแมนธ่า’ (ให้เสียงพากย์โดย สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน) Her เป็นหนังแนวโรแมนติกไซไฟหนังที่บอกเล่าความเหงายามอยู่คนเดียวได้ดีมาก ๆ ยิ่งถ้าเราไม่มีอะไรจะทำมันยิ่งเหงาและการหาทางออกด้วยการตกหลุมรักอะไรที่จับต้องไม่ได้มันยิ่งสะท้อนถึงภาพความเหงาได้อย่างร้ายกาจ บรรยากาศ การถ่ายภาพ และดนตรีประกอบ ก็เพียงพอที่จะทำให้หนังเรื่องนี้อบอวลไปด้วยความเหงา แต่ที่เหนือกว่านั้นคือการชวนให้เราคิดว่า ทำไมบางคนถึงเลือกที่จะอยู่กับความเหงามากกว่าไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นชีวิตจริง
3. Lars and the Real Girl ชายผู้ตกหลุมรักตุ๊กตายาง
รูป Lars and the Real Girl (2007) หนุ่มเจี๋ยมเจี้ยม กับสาวเทียมรักแท้ (bloggang.com)
นำแสดงโดย ไรอัน กอสลิง, เอมิลี่ มอร์ติเมอร์, พอล ชไนเดอร์
ลาร์ส(ไรอัน กอสลิง) คือชายหนุ่มวัยราว 30 เขายึดโรงรถซอมซ่อของบ้านเป็นที่พักพิง ลาร์สเป็นคนที่มีบุคลิกภาพค่อนข้างจะแปลกประหลาด เขาปฏิเสธการปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทุกคนในเมือง ลาร์สหลีกเลี่ยงการสุงสิงกับทุกคน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เมื่อใดที่เขาเห็นใครต้องการความช่วยเหลืออยู่ตรงหน้า เขาจะปรี่เข้าไปเสนอตัวช่วยเหลือโดยไม่ลังเลเลยสักนิด เพระาแบบนี้นี่เองที่ทำให้ผู้คนในเมืองยังรักใคร่เอ็นดูลาร์ส และยอมรับในความเป็นคนที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเข้าใจและเข้าถึงของเขา แต่สาเหตุที่ทำให้ใคร ๆ อ้าปากค้างอย่างอึ้งรับประทาน ก็เนื่องจากว่า เบียงกา หญิงสาวที่ลาร์สแนะนำว่าเป็นคนรักของเขานั้น ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีเลือดเนื้อและชีวิตเหมือนมนุษย์มนาปกติ แต่แท้จริงแล้วมันคือ ตุ๊กตายาง สำหรับลาร์ส เขาไม่ได้เห็นว่าเบียงกาคือตุ๊กตายาง แต่เขาเชื่อของเขาจริงๆ ว่าเธอคือมนุษย์ ลาร์สปฏิบัติกับเบียงกาอย่างให้เกียรติ พูดคุยเรื่องต่างๆ ให้เธอฟัง ฟังสิ่งที่เธอพูด ปรนนิบัติดูแลอย่างดี ทำทุกอย่างที่ผู้ชายสักคนพึงกระทำต่อผู้หญิงที่ตัวเองรัก
4. Taxi Driver แท๊กซี่มหากาฬ
รูป Taxi Driver (Martin Scorsese, 1976) | COUNTERTRANSFERENCE THE FILM (wordpress.com)
นำแสดงโดย โรเบิร์ต เดอ นิโร, โจดี ฟอสเตอร์, ฮาร์เวย์ คีเทล และไซบิลล์ เชพเพร์ด
หนังที่นำเสนอมุมอาชญากรรมผสมกับความเหงาของ ‘ทราวิส’ (โรเบิร์ต เดอ นิโร) อดีตทหารผ่านศึกจากสงครามเวียดนามตามแบบฉบับของชายแท้ ปลดประจำการมางานสุจริตทำ นอนไม่หลับเลยมาขับแท็กซี่กะดึก พอมาขับแท็กซี่ก็เลยต้องเจอสภาพสังคมที่เสื่อมโทรมอยู่ทุกวันๆ อันธพาล โสเภณี แมงดา นักเลง โจร เกลื่อนกราดเต็มท้องถนน ก็ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีก เจอสาวสวยก็ผิดหวัง เจอโสเภณีเด็กก็อยากช่วย จะให้เงินกลับบ้านไปเรียนหนังสือ ทราวิสจึงต้องทุกข์ทรมาน ยิ่งหากย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่เรื่องราวในหนังจะเริ่มต้น สงครามเวียดนามเองก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของสิ่งที่ทำให้คนเสื่อมศรัทธาในคติแบบเดิมๆ ซึ่งมันอาจจะส่งผลกับเขาเหมือนกัน แต่ดูเหมือนทราวิสเองอาจจะยังไม่อยากยอมรับทำให้เขาไม่สามารถข่มตาให้หลับได้จนสุดท้ายต้องปลดปล่อยออกมาโดยการทำลายความชั่ว พร้อมกับปลิดชีพตัวเอง หนังให้ฟีลความเหงาค่ำคืนในนิวยอร์ก หากใครชอบหนังแนวนี้ขอแนะนำเลยค่ะ หนังมีมิติมาก ๆ
5. In the mood for love ห้วงรักอารมณ์เสน่หารูป GQ | (REVIEW) In the Mood for Love ตกอยู่ในห้วงรักอารมณ์เสน่หาของหว่อง กา ไว (gqthailand.com)
นำแสดงโดย จาง ม่านอวี้, เหลียง เฉาเหว่ย์
เป็นผลงานภาพยนต์คุณภาพจาก ‘หว่อง กา ไว‘ ลายเซ็นของเขาคงหนีไม่พ้นความเหงา และนี่คือหนังที่ถูกยกให้เป็นหนังโรแมนติกที่ดูแล้วโคตรเหงาที่สุด เรื่องราวของคู่สามีภรรยาเพื่อนบ้านกันต่างสงสัยว่าคนรักของตัวเองจะแอบคบชู้กัน จึงเกิดเป็นที่ว่างให้ทั้งสองคนต้องอยู่เหงา ๆ คนเดียวก่อนที่จะมาอยู่ด้วยกันส่วนตัวแบบต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ พร้อมข้อตกลงที่จะไม่ทำผิดเหมือนเช่นเดียวกับคู่ชีวิตของตัวเอง ใครจะหาหนังรักที่โคตรเหงายังไงก็ต้อง In the Mood for Love เรื่องนี้เลย
เป็นไงกันบ้างคะ กับหนังเหงา ๆ ที่ Clubsister ได้นำมาฝาก เป็นทั้งฟีลความเหงา ความหน่วง เจ็บจี๊ด ๆ ที่หัวใจแปลก ๆ หากใครชอบอย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจกันด้วยน้า ไว้เจอกันใหม่ค่ะ
Source Credit:
Stay connected