สวัสดีค่ะสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน ในเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวเรามองว่าช่วงแรกเริ่มที่เรายังไม่ได้คบกัน ช่วงจีบกันคุยๆ ศึกษาดูใจกันนั้นเป็นช่วงที่มีความสุขมากที่สุด เพราะเรารู้ว่าขอบเขตของเราอยู่ตรงไหน คนทั้งคู่ยังมีกำแพงบางๆ ซึ่งกันและกัน เวลาจะทำอะไรก็ยังไม่เป็นตัวเองเต็มที่ แต่ทว่าพอตกลงปลงใจว่าคบกันเท่านั้นแหละ กลับเจอปัญหามากมายเข้ามา ดังนั้นวันนี้ Clubsister พี่สาวคู่คิดของสาวๆ มีวิธีปรับ Mind Set และวิธีปฏิบัติตัวยังไงให้เปลี่ยนจากคู่รักแรกเริ่ม เป็นระยะยาว กับ “อยากมีรักมั่นคง 5 ข้อควรรู้และควรปรับใช้เพื่อ ความสัมพันธ์ระยะยาว ที่ดี!” บอกเลยว่าเป็นวิธีง่ายๆ ที่ดีต่อทั้งเราและเชาด้วยเช่นกัน งั้นอย่ารอช้า ไปเริ่มที่ข้อแรกกันเลยค่า

 

  “อยากมีรักมั่นคง 5 ข้อควรรู้และควรปรับใช้เพื่อ ความสัมพันธ์ระยะยาว ที่ดี!”  

 

ข้อที่ 1: เชื่อใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ความสัมพันธ์ระยะยาว

การที่จะมีความสัมพันธ์ระยะยาวได้นั้น ต้องเริ่มจากพื้นฐานง่ายๆ ที่ทุกๆ ความสัมพันธ์ควรจะไม่ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ในแบบคู่รักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น พ่อ-แม่, พี่-น้อง แม้กระทั้งเพื่อนหรือเจ้านาย-ลูกน้องก็ควรมีสิ่งเหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของทุกๆ ความสัมพันธ์ นั่นก็คือ “การเชื่อใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน” 2 สิ่งนี้มักจะมาคู่กันเสมอ เพราะการเชื่อใจถือเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันอย่างหนึ่ง การที่เราจะคบหรือเริ่มความสัมพันธ์กับใครได้นั้น ควรเริ่มจากการเชื่อใจและไว้วางใจคนของเราก่อน หากถามว่าทำไมข้อนี้ถึงสำคัญกว่าการปรับนิสัย

ง่ายๆ เลย บ่อยครั้งที่เราเคยได้ยินคำพูดนี้ “อยากจะรักใคร เราควรเริ่มจากการให้เขาก่อน” ความเชื่อใจก็เช่นกัน หากเราอยากจะรักใคร เราควรเริ่มจากการเชื่อใจเขาก่อน มั่นใจว่าคนของเราจะไม่ทำให้เราเสียใจ มั่นใจต่อความรักที่เรามีให้กันและกัน สิ่งเหล่านี้เหมือนเสาที่ควรค้ำจุนบ้านให้มีความคงทน แต่หากเราไม่ไว้ใจกัน ควรจ้องแต่จะจับผิด หึงหรือโกรธกลับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นหรืออะไรใดๆ ก็ตาม ก็ไม่ต่างจากการสุมไฟในบ้านตนเอง ส่วนการให้เกียรติซึ่งกันและกันนั้นมักจะมาคู่กันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว การให้เกียรติใน ณ ที่นี้ ไม่ใช่แค่การเคารพต่อความคิดเห็นหรือการกระทำของอีกฝ่าย แต่ควรให้เกียรติคนรักเราทั้งต่อหน้าและลับหลัง ควรรู้และคิดอีกฝ่ายให้มากๆ

ยกตัวอย่างเช่น เรามีเพื่อนที่เป็นเพศตรงข้ามเยอะ เวลาจะไปสังสรรค์หรือปาร์ตี้อะไร ก็ควรคิดเยอะๆ ว่าการแตะเนื้อต้องตัวกันเหมือนเมื่อก่อนที่เรายังไม่มีแฟนนั้น อาจจะทำได้ไม่เหมือนเดิม อาจจะลดๆ ตรงนี้ลงเพื่อให้เกียรติความรู้สึกของคนรักของเรา หรือ เวลาไปทานอาหารในที่สาธารณะ แล้วมีเพื่อยของแฟนเราอยู่ด้วย เวลาจะเตือนจะติอะไรแฟน อาจจะต้องอยู่ในรูปแบบที่สุภาพและน่ารักกับเขานิดนึง เพราะอย่าลืมว่าเขาอยู่กับเพื่อน นอกจากจะเกรงใจเพื่อนเขา เราควรให้เกียรติหน้าตาของเพื่อนเขาด้วยเช่นกัน

 

ข้อที่ 2: ลดการคาดหวังของตนเองลง เพื่อรับตัวตนของอีกฝ่าย

ความสัมพันธ์ระยะยาว

ข้อนี้เป็นอีกข้อที่สำคัญสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาว (ส่วนตัวเรามองว่าสำคัญมากๆ พอๆ กับข้อแรกเลยก็ว่าได้) โดยข้อนี้เราได้รับคำแนะนำมาจากคุณหมอที่เป็นทั้งจิตแพทย์ประจำตัวและนักบำบัดให้กับตัวนักเขียนเอง บ่อยครั้งที่เราปรึกษาเรื่องความรักและปัญหาที่สร้างความระแคงใจให้เรากับคนรัก จนในวันหนึ่งคุณหมอพูดและบอกว่า “ทุกความสัมพันธ์และมนุษย์ทุกคนล้วนมีความคาดหวังในตนเองเป็นเรื่องปกติ” จะให้ไม่คาดหวังเลยก็ไม่ได้ แต่การจะรักกันไม่ว่าจะในความสัมพันธ์ไหนๆ ก็ตามถ้าอยากให้เขาและเรามีความสุขมากขึ้น “ลองลดการคาดหวังของตนเองลง เพื่อรับตัวตนของอีกฝ่ายดูบ้างไหม”

ณ ตอนฟังนั้น เราก็คิดและพิจารณนาตาม มันก็จริงอย่างที่คุณหมอท่านพูดไว้ ในทุกๆ ความสัมพัน์อย่าว่าแต่คนักเลย ความคาดหวังเหล่านี้เราแทบจะทุกคนล้วนเคยเจอมาในรูปแบบของพ่อ-แม่ ที่คาดหวังในตัวลูกมากจนเกินไป แน่นอนสิ่งที่ทำให้เราเห็นจากการคาดหวังเหล่านี้คือการไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนกันงั้นการคาดหวังเหล่านั้นก็คงไม่ต่างกันสำหรับความสัมพันธ์แบบคนรัก คุณหมอบอกกับเราว่า “คุณลองคิดดูซิว่า คนที่เราคาดหวังในหัวต่างๆ ว่าเขาจะต้องทำแบบนี้ เขาจะต้องเป็นแบบนี้ เขาจะต้องเข้าใจเราแบบนี้ กับคนตรงหน้าและในชีวิตคุณจริงๆ คือคนๆ เดียวกันไหม?” ถ้าไม่ใช่ ก็แค่ลดความคาดหวังลดตัวตนที่เราสร้างจากการคาดหวังของเราลงซักนิด เพื่อเปิดรับตัวตนของเขาบ้าง

ความสัมพันธ์ความสัมพันธ์ระยะยาวที่ดี ควรเริ่มจากการปรับและลดตัวตนของเราและเขาลงอย่างละครึ่ง เพื่อมาเจอกันตรงกลาง แต่หากลองปรับหรือลดสิ่งเหล่านี้แล้ว ยังมีเรื่องให้ทะเลาะหรือยังไม่ดีขึ้น คุณหมอท่านว่ามนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม สามารถสื่อสารซึ่งกันและกันได้ เพราะฉะนั้นก็แค่บอกสิ่งที่เรารู้สึกและสิ่งที่เราอยากให้เขาช่วยเราบ้างเล็กน้อยจนไม่ฝืนตัวตนของเขาก็เท่านั้นเอง

 

ข้อที่ 3: ให้พื้นที่มีช่องว่างระหว่างกันบ้าง

ความสัมพันธ์ระยะยาว

เรามั่นใจว่าข้อนี้เป็นอีกข้อหนึ่งที่ตอนช่วงแรกๆ มันเป็นข้อดี (อย่างว่าในช่วงที่หอมหวาน) ต่อพอนานๆ ไปมันเริ่มจะเป็นปัญหาในระยะยาวของหลายๆ คู่ และถ้าเราอยากจะมี ความสัมพันธ์ระยะยาวที่ดี เราควรที่พื้นที่หรือช่องว่างให้กันและกันอย่างเพียงพอ ก่อนที่เราจะเปิดรับใครเข้ามาในชีวิตเรานั้น เรามีพื้นที่และมุมของจิตใจให้กับเรื่องราวและความสัมพันธ์อื่นๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ครอครัว (ในกรณีที่ยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน), เพื่อน, เพื่อนร่วมงาน, เวลาส่วนตัว รวมถึงเรื่องงานด้วยเช่นกัน แต่ทว่าพอเรารับคนๆ นึงที่มีผลต่อจิตใจเราเข้ามา ช่วงแรกๆ เรากลับหลงลืมพื้นที่อื่นๆ เหล่านี้ไปจนหมด จนบางทีเราก็เผื่อพื้นที่เหล่านี้ให้เขาจนไม่เหลือให้ตนเอง

สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดความอึดอัดระหว่างเขากับเราได้เช่นกัน ลองนึกภาพ ตัวเราทั้งคู่อยู่คนละฝั่งของใต้ถุนตึกที่เรียงรายไปด้วยเสา ถ้าพื้นที่ตรงนั้นมีช่องว่างมากพอ เราทั้งคู่จะเดินเข้าหากันได้ง่ายขึ้น แต่หากพื้นที่ตรงนั้นเต็มไปด้วยเสาหลากหลายต้นที่เยอะจนเกินไป การเดินด้วยกันนั้นคงสร้างความหน้าอึดอัดและซับซ้อนเป็นแน่

หรือถ้ายังนึกภาพตามไม่ได้ลองนึกง่ายๆ ว่าเวลาที่เราเดินจับมือกันกับแฟน ถ้าเราต่างฝ่ายต่างจับกันแน่น ตัวติดกันแนบเนื้อตลอดเวลา การเดินทางคงจะอึดอัดน่าดู แต่ถ้าเราลองจับมือการบางๆ มีช่องว่างให้เดินด้วยกันอย่างสบายใจ การเดินทางไปไหนมาไหน คงสบายทั้งเราและเขา นั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราควรมีพื้นที่ให้กันและกันเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระยะยาว ไม่ใช่เพื่อสร้างระยะห่างของความสัมพันธ์ แต่เพื่อ “เพิ่มพื้นที่ของความคิดถึงและความสบายใจของความสัมพันธ์ระยะยาว” เท่านั้นเอง

 

ข้อที่ 4: แชร์สุขและทุกข์ พร้อมรับและยินดีซึ่งกันและกัน

ความสัมพันธ์ระยะยาว

เมื่อคบกันไปซักระยะหนึ่งแล้วกำแพงบางๆ ที่เราร่วมสร้างมันเริ่มพังลง ต่างฝ่ายต่างเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แชร์ความรู้สึกและเรื่องราวต่างๆ มากขึ้น แน่นอนเรื่องความทุกข์และความสุขเป็นอีกหนึ่งเรื่องพื้นฐานที่เหล่าคู่รักต่างฝ่าย ต่างอยากแชร์ซึ่งกันและกัน การจะมีความสัมพันธ์ระยะยาวที่ดีได้นั้น ใช่ว่าเราจะรับแต่ความสุขของกันและกันอย่างเดียว

แต่สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือ “การแชร์และพร้อมตั้งรับความทุกข์” ที่อีกฝ่ายจะเจอด้วยเช่นกัน โดยที่การเป็นคนรักที่ดีอาจจะเริ่มจากการเป็นผู้ฟังที่ดีก่อน รับฟังและร่วมยินดีกับความสุข ความภูมิใจ เล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตของคู่ ด้วยคำพูดที่น่ารักและสร้างเสริมความสุขที่เขามี ไม่ว่าจะเป็นคำพูดดีๆ อย่าง ดีใจด้วย ดีใจที่เธอทำได้ หรือ ยินดีด้วยน้า เรามั่นใจว่าเธอทำได้ เก่งมาก เป็นต้น เพื่อให้เขารู้ว่าในความสุขหรือวันที่น่ายินดีของเขา มีเราอยู่ตรงนี้คอยยินดีเสมอ

รวมถึงความทุกข์หรือเรื่องเศร้าของเขาด้วยเช่นกัน เราเข้าใจว่าสำหรับบางคนการปลอบใจ ด้วยคำพูดดีๆ อาจจะยาก หรือไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง การรับฟังที่ดี เป็นอีกหนึ่งการตั้งรับความทุกข์ของคนรัก ในวันที่เราเศร้าหรือต้องการระบายพื้นที่หม่นๆ ของเราให้ใครซักคนหนึ่ง สิ่งที่เราต้องการคงไม่ใช่คำแนะนำที่สวยหรู หรือ วิธีการใดๆ คงเป็นการรับฟังและพร้อมยืนยันว่าจะคอยอยู่ข้างๆ ก็คงดี หรืออีกวิธีนึงที่จะช่วยได้มาก คงเป็นการสัมพันธ์อย่างการจับมือ หรือ กอด
เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงกำลังใจและความรักที่คุณมีให้ แค่นั้นก็คงดีและเพียงพอแล้วละ อย่าปล่อยให้คู่หรือคนรักของคุณต้องเผชิญความทุกข์อยู่คนเดียวเลย เพราะทุกๆ ความสัมพันธ์จะต้องเป็นเหมือนฟองน้ำหรือเบาะนุ่มๆ ที่ให้ความสบายและซึมซึบความทุกข์ซึ่งกันและกันได้เสมอ

 

ข้อที่ 5: หาเวลาเติมความหวานให้กันบ้าง

ความสัมพันธ์ระยะยาว

และข้อสุดท้ายของการจะมีความสัมพันธ์ระยะยาวที่ดีนั้น คือ “อย่าลืมหาเวลาเติมความหวานกัน” บ้าง ข้อนี้อาจะเป็นอีกข้อหนึ่งที่หลายต่อหลายคู่เมื่อคบกันไปนานๆ อาจจะมีหลงลืมกันบ้าง เพราะต่างฝ่ายต่างคุ้นชินซึ่งกันและกัน แต่ทว่าทุกๆ ความสัมพันธ์ที่ยิ่งนานไปใช่ว่าจะไม่พุพัง ให้นึกง่ายๆ เหมือนบ้านยิ่งอยู่ไปเรื่อยๆ วันแรกๆ มันอาจจะสดใส บ้านใหม่อยู่สบาย แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ เราเริ่มชิน กำแพงเกิดรอยร้าว หลังคาอาจจะเริ่มรั่ว

ดังนั้นสิ่งที่เราทำคือหาอะไรมาอุด หาอะไรมาเชื่อมเพื่อให้บ้านของเรายังเป็นบ้านที่น่าอยู่ สดใสและอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ นั่นเอง โดยวิธีการเติมความหวานกันนั้น อาจจะเป็นการไปเที่ยวต่างจังหวัดพักผ่อนเปลี่ยนสถานที่ ให้ดูมีความโรแมนติกมากขึ้น หรือหากช่วงสถานการณ์โควิดแบบนี้ ไม่ค่อยมั่นใจกับการเดินทางข้ามจังหวัด ก็อาจจะจองร้านอาหารดีๆ แต่งตัวสวยหล่อ ไปทานอาหารด้วยกัน หรือไปจองโรงแรมและจัด One Day Trip ในจังหวัดของเราซัก 1 วัน 1 คืนก็ดีไปอีกแบบ หรือ

หากใครคิดว่าสิ้นเปลืองวิธีง่ายๆ เบสิคที่ใครๆ ก็ทำได้คือ การบอกรักหรือพูดจาดีๆ ให้กัน เช่น ก่อนนอนอาจจะบอกเขาว่า รักเขามากแค่ไหน บอกคิดถึง หรือ ขอบคุณกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในวันๆ นั้นที่เขาทำให้เรา แค่นั้นก็เป็นเหมือนการเติมความหวานให้กับชีวิตคู่เราได้บ้างแล้วละ

 

และก็จบกันไปกับTips หรือ วิธีการรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวให้ดี กันไปแล้ว สุดท้ายนี้สิ่งที่เราอยากจะบอกกับสาวๆ ก่อนที่จะเริ่มตกลงคบและคิดความสัมพันธ์ในระยะยาวกับใครซักคน เขาคนนั้นต้องควรค่าแก่การลงทุนทางจิตใจของเราด้วยนะคะ หากเราคบกับใครแล้วร้องไห้ทุกวัน ระแวงกับการกระทำของเขา ด้วยพฤติกรรมของเขาทุกวัน หรือ หาความสุขแทบจะไม่เจอ งั้นก็ไม่ควรมี เพราะเราเชื่อเสมอว่ามีความรักต้องทำให้ชีวิตเราดีขึ้น

เพราะแค่การใช้ชีวิตในแต่ละวันเราเจอปัญหาและเรื่องราวน่าปวดหัวมามากพอแล้ว ถ้าจะมีรักทั้งที่ต้องช่วยสร้างความสุขให้กับเราได้ เอาเป็นว่าเราขอเป็นกำลังใจและขออวยพรให้กับสาวๆ ทุกคนมีความรักที่ดี และมีความสุขในทุกๆ วันนะคะ ขอบคุณที่ติดตามกัน พบกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายค่ะ

 

Photo Credit:

Comments

comments