สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน เมื่อขึ้นต้นเดือนแรก ของปีใหม่ แน่นอนว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่เราทำกันนอกจากการทำความสะอาดบ้าน เคลียร์สิ่งของต่างๆ หรือ Update เรื่องราวที่ผ่านมานั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ใครหลายๆ คนชอบทำกันคงหนีไม่พ้นการตั้ง New Year Resolutions และเมื่อพูดถึง New Year Resolutions แล้วหลายคนอาจจะคิดว่ามันคือการตั้ง Goal ในปีนั้น ด้วยเหตุนี้ Clubsister ขอเสนอ “5 นิสัยที่ควรเลิก เพื่อเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม” บอกได้เลยว่า หากคุณลองค่อยๆ บอกเลิกนิสัยเหล่านี้ จะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นแน่นอน
ปีใหม่แล้วมาจัดการ 5 นิสัยที่ควรเลิก เพื่อเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม
นิสัยที่ 1: เลิกรอเวลา
ขอเริ่มที่นิสัยที่ควรเลิกในเรื่องแรกเลยคือ “เลิกรอเวลา” หลายต่อหลายครั้งที่เราคิดอยากจะทำอะไรก็ตาม แล้วเรามักจะพูดว่า “ขอรอให้ …. ก่อน” ยกตัวอย่างง่ายๆ แบบเห็นได้ชัดเลย
ก็คือเมื่อเวลาที่ผู้หญิงเราอยากจะไปทะเล แน่นอนเราก็ต้องอยากถ่ายรูปใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ เหมือนดารา หรือ Net idol รับฟีลทะเลกันบ้าง แต่พอเอาเข้าจริงๆ ความมั่นใจในหุ่นของเรามันก็ไม่เท่ากับเขา และเราก็มักจะพูดว่า “เดี่ยวรอน้ำหนักลงก่อนค่อยใส่” หรือไม่ก็ “เดี่ยวรอหุ่นดี ผิวเป๊ะว่านี้ก่อน เดี่Jยวค่อยใส่ก็ได้”
แต่! แล้วทำไมเราต้องรอด้วยละ ก็ในเมื่อเรารู้ว่าเรามีจุดที่ไม่มั่นใจตริงไหน หรือต้องการจะเพิ่มเติมตรงไหน แล้วทำไมเราไม่ลงมือทำมันเลย เช่น อยากใส่บิกีนี มีเวลาอีก 1 เดือนในก่อนจะไปเที่ยว ก็เริ่มลดน้ำหนักดูแลผิวพรรณไปเลยซิคะ หรือ หากเวลามันกระชั้นชิด ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องรอ แล้วถ้าเรารอ เราจะได้ใส่ ได้ถ่ายรูปตอนไหน อยากใส่ก็ใส่ เพราะไม่ว่าจะยังไงเราก็สามารถสวยได้ มั่นใจได้ในแบบของเรา
หรือแม้กระทั่ง เราคิดว่าอยากจะเริ่มทำอะไรเสียซักอย่างนึง คนเรามักชอบคิดว่าเดี๋ยวรอให้ถึงเวลาก่อน แล้วเวลานั้นคือเมื่อไรใครจะตอบเราได้ พูดเลยว่าอยากไปถึงฝั่งฝันหรือประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นๆ แล้ว “คิดและต้องเริ่มลงมือทำเลยค่ะ”
นิสัยที่ 2: เลิกเป็นมนุษย์อะไรก็ได้
นิสัยที่ควรเลิกข้อถัดมาคือ “เลิกเป็นมนุษย์อะไรก็ได้” หรือพูดกันอย่างง่ายๆ เลยก็คือ “หัดปฏิเสธคนอื่นให้เป็นบ้าง” เราเชื่อว่าหลายคนที่เป็นผู้อ่านใน ณ ที่นี้เป็น และเราก็เป็นด้วยเช่นกัน
การเป็นคนง่ายๆ สบายๆ อะไรก็ได้ นั่นเป็นเรื่องที่ดี แต่! หากเราอะไรก็ได้มากจนเกินไป จนบางครั้งสูญเสียจุดยืนและความเป็นตัวเองละจะทำอย่างไร นั่นอาจจะไม่ใช่ผลที่ดีเป็นแน่ ทำให้คนอื่นสบายใจ และตนเองทุกข์และร้อนรนจนไม่ดีเลยค่ะ
ปีใหม่แล้ว กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง และกล้าที่จะปฏิเสธคนอื่นบ้างก็ไม่เสียหาย การที่เราปฏิเสธคำเชิญชวนหรืออะไรซักอย่าง ไม่ใช่เรื่องที่ผิด และไม่ได้ทำให้อีกฝั่งหนึ่งไม่สบายใจ เพราะเราไม่จำเป็นต้องแบกรับความรู้สึกของอีกฝ่ายไปเสียทั้งหมด
ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนที่บริษัทชวนไปทานข้าวหลังเลิกงาน แต่วันนั้นเราทำงานเหนื่อยมาก ไม่อยากออกจากบ้านอยากพักผ่อน ก็แค่บอกเหตุผลเพื่อนไปว่าไม่สะดวกไป วันนี้ทำงานเหนื่อยอยากพักอยู่บ้าน ไว้โอกาสหน้าไปแน่ๆ แค่นี้ไม่ใช่เรื่องที่ยาก ลองปฏิเสธบ้าง เพื่อเพิ่มความสุขให้กับตัวเองบ้างคงไม่น่าจะเป็นอะไร
นิสัยที่ 3: เลิกผลัดวันประกันพรุ่ง
ต่อมาเป็นนิสัยที่ควรเลิกอาจจะใกล้เคียงกับข้อที่ 1 แต่ไม่ขนาดนั้น เพราะข้อนี้เป็นนิสัยที่เรามักใช้กับสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องทำ แต่เราขี้เกียจและมักหาข้ออ้างกับมันตลอดเวลา นั่นก็คือ “เลิกผลัดวันประกันพรุ่ง” บ่อยครั้งที่เรามักขี้เกียจกับกิจวัตรอะไรซักอย่าง หรือ หน้าที่อะไรบางอย่างที่เราต้องทำมัน แต่เรามักจะผลัดไปสิ่งเหล่านี้ออกไปเสียก่อนเพียงเพราะขี้เกียจทำ ณ ตอนนี้
แต่เมื่อถึงเวลากระชั้นชิด เหมือนไฟรนก้นก็จะเริ่มทำมันทันที สิ่งที่แลกมาได้คือ สิ่งนั้นๆ ออกมาไม่ได้ตรงตามมาตราฐานที่ดีเสียเท่าไร หรือรวมทั้ง ทำให้เรื่องง่ายๆ กินระยะเวลามากขึ้นไปกว่าเดิม ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติเราจะต้องส่งงานชิ้นนึงที่ไม่ได้สำคัญอะไรแต่จำเป็นต้องส่ง แต่ ณ ตอนนี้ติดซีรีส์เรื่องหนึ่งอยู่ เราก็มักจะปลอบใจตัวเองว่า งานนี้เอาไว้ก่อน เดี๋ยวดูหนังจบจะมาทำ และก็แน่นอนยืดไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดถึง Deadline ก็อาจจะลืมงานชิ้นนั้นไป หรือ ทำงานชิ้นนั้นออกมาได้ไม่ดี ไหนๆ ก็จะเริ่มปีใหม่กันแล้ว นิสัยนี้ควรเลิกได้แล้วละ เมื่อมีเวลาเราควรเคลียร์ภาระหน้าที่ต่างๆ ให้เสร็จ เพื่อที่จะได้เอาเวลาที่เหลือไปพักผ่อนได้อย่างเต็มที่น่าจะดีเสียกว่า หรือถ้าในวันนั้น เราเหนื่อยแล้วจริงๆ ก็ตั้ง Time Boxing กำหนดเวลาพักและทำงานไปพร้อมๆ กัน
นิสัยที่ 4: เลิกทำอะไรโดยไม่มีระเบียบและเป็นแบบแผน
และนิสัยที่ควรเลิกข้อต่อไปบอกเลยว่า ถ้าเราเลิกข้อนี้ได้ ทุกอย่างในชีวิตเรียกได้ว่าจะดูง่ายไปหมด นั่นก็คือ “เลิกทำอะไรโดยไม่มีระเบียบและแบบแผนเสียที” พูดง่ายๆ คือ จัดสรรระบบชีวิตตัวเองบ้างก็ดี มันก็อาจจะถูกที่ชีวิตในทุกๆ วันนี้เครียดมากพออยู่แล้ว แล้วเราจะกดดันตัวเองในทุกๆ วันทำไม แต่ทว่าเพราะสถานการณ์ต่างๆ และโลกมันเป็นแบบนี้ยังไงละ เราถึงจำเป็นต้องมีระเบียบและแบบแผนเข้าไว้ เพื่ออนาคตภายภาคหน้า
โดยการมีระเบียบใน ณ ที่นี้ไม่ใช่แค่ การตั้ง To Do List ในแต่ละวัน หรือแม้กระทั่งการวางแผนการเดินทางเวลาเราไปเที่ยวหรือทำอะไรเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึ การมีระเบียบในชีวิตอย่างเช่น
การจัดข้าวของให้เป็นที่เป็นทาง เพราะเมื่อเราวางของหรือจัดของอย่างเป็นระเบียบ เราก็แทบไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหาของ
หรือหากเรามีการวางแผนชีวิตในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการเงินที่ดี อนาคตเราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการหมุนเงินในการชีวิตเลยด้วยซ้ำ
นิสัยที่ 5: เลิกไถ Social Media ไปเรื่อยๆ
นิสัยที่ควรเลิกข้อสุดท้าย เรียกได้ว่า เป็นอีกข้อหนึ่งที่ยอดฮิตติดชาร์จ New Year Resolutions ของใครหลายคนแน่นอน นั่นก็คือ “เลิกไถ Social Media ไปเรื่อยๆ” เพราะ ณ ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือและสื่อ Social Media แทบจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัย และหนึ่งอวัยวะของเราในการใช้ชีวิตเลยก็ว่าได้
บางคนเรียกได้ว่าสามารถสร้างสังคมในสื่อออนไลน์เป็นอีกโลกหนึ่งได้เลยด้วยซ้ำ เพราะเหตุนี้ทำให้คนเรา ณ ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่บนสื่ออนไลน์เป็นหลัก และสาวๆ ลองสังเกตดูไหมคะว่า ใน 1 วันเราเสียเวลากับการไถ Feed Social Media หรือ Application online ไปเป็นระยะเวลาเท่าไร เราไม่ได้บอกว่า Social Media ไม่มีประโยชน์ ในแง่ประโยชน์ของเขาเองก็มีเยอะ แต่ทว่าเราต้องรู้จักแบ่งเวลาและใช้มันให้เป็นเท่านั้นเอง
Photo Credits: unsplash
Stay connected