เคยรู้สึกว่า ชีวิตเรามันช่าง วุ่นวาย ไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลังดี แบบนี้บ้างมั้ย บางทีก็ขี้ลืม ลืม แม้กระทั่งกับเรื่องสำคัญ ๆ แต่เป็นคนไม่ชอบจด ลงสมุด กระดาษ เพราะ มันเมื่อยมือ เป็นคนไม่ชอบตกแต่ง ขีดเขียน ขี้เกียจพกสมุด หรือ เหตุผลอะไรอีก ต่าง ๆ นา ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ ลองใช้ แอปวางแผนชีวิต ดูมั้ย เดี๋ยวมาแนะนำ จำนวน แอปวางแผนชีวิต ให้ดูอย่างละเอียดว่า มันทำอะไรได้บ้าง และ อันไหน จะเข้ากับไลฟ์สไตล์เรา

 

 

ไม่ต้องปรึกษา Planner แค่ลอง 3 แอปวางแผนชีวิต แล้วชีวิตจะไม่ยุ่งเหยิง

 

 

1. Google Calendar

Google Calendar คือ แอปแพลนเนอร์ออนไลน์ หรือ ปฏิทินออนไลน์ จาก Google แอปนี้ ใช้ได้ฟรี! ไม่ต้องมี Gmail ก็ใช้ได้ มาดูกันดีกว่าว่า แอปนี้ ทำอะไรได้บ้าง

  • แน่นอนว่า สิ่งพื้นฐาน ของแอป Planner ที่ต้องทำได้ ก็ต้องเป็นการวางแผนอนาคต กำหนด งาน หรือ เหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้นได้ในทุกเสกล ของเวลา ไม่ว่าจะเป็น กี่โมง วันไหน เดือนไหน ได้หมด

 

นอกจากนี้แล้ว Google Calendar ทำอะไรได้อีกนะ

  • แชร์กับเพื่อนได้ เจ้า Google Calendar สามารถ เชิญเพื่อนคนอื่น เข้ามามีส่วนร่วมกับปฏิทินของเราได้ ซึ่งเราก็จะกำหนดได้ว่า ให้เพื่อน ๆ ยุ่งกับปฏิทินของเรา ได้มากแค่ไหน จะให้ดูเฉย ๆ แล้วกดแค่ ว่าง/ไม่ว่าง ที่จะเข้าร่วมอีเว้นต์อะไรซักอย่าง หรือ จะอนุญาตให้ปรับแก้ปฏิทินด้วยก็ได้
  • ใช้งานได้ทั้งใน หน้าจอคอม และ หน้าจอโทรศัพท์ สะดวกใช้เวอร์ชั่นไหน ตอนไหนก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลว่า ต้องมาคอยอัพเดพข้อมูลให้ทั้งสองแบบ เพราะ ข้อมูลมันจะซิงค์กันอยู่แล้ว

  • มีฟังก์ชั่นแจ้งเตือน จะได้ไม่พลาดงาน หรือ อีเว้นต์ใด ๆ

 

 

2. Any.do

ในแอป จะมีมุมมอง 2 แบบ เลือกสลับไปมาได้ ตามความถนัด คือ to-do list และ มุมมองแบบปฏิทิน

แอปนี้มีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการซิ้งค์ สิ่งที่ต้องทำ เข้ากับเพื่อนและคนอื่น ๆ ได้ มี focus mode ในตัว ใช้ล็อคเวลาไม่ให้เล่นโทรศัพท์ และยังสามารถใช้ร่วมกับ apple watch ได้ด้วย ใครมีล่ะก็ โหลดมาใช้ดู!!

 

 

  • to-do list : เป็นลิสต์รายการ สิ่งที่เราต้องทำในแต่ละวัน มีช่องให้ติ๊กถูกด้านหน้า เป็นการทำสัญลักษณ์ว่า อันนี้เราทำไปแล้ว ฟังดูอาจจะเหมือนเป็นแอปทั่ว ๆ ไป หรือ เหมือนสมุด ที่เราจดเองได้ แต่ที่เก๋กว่านั้น ก็คือ เราสามารถเลือกจัดหมวดหมู่ของงาน ที่ต้องทำ ว่าอยู่ในหมวดอะไร ก็จะมีให้เลือกเป็น All tasks , Personal , Grocery List , Work , และ Apple Reminders

    • All task เมื่อกดเข้าไปในหน้านี้ ก็จะเห็น to-do list ที่รวมทุกหมวดหมู่ ไว้ในหน้านี้
    • Personal เป็น หน้ารวม to-do list ที่เป็นเรื่องส่วนตัว
    • Work รวม list งานของเรา ไว้หน้านี้
    • Grocery List ก็คือ list ของที่เราต้องซื้อนั่นเอง
    • Apple Reminder : เป็น ฟังก์ชั่นแจ้งเตือน ไม่ให้เราพลาด สิ่งที่เราต้องทำ แจ้งเตือนได้ ทั้งตามเวลาที่ตั้งไว้ ก็เป็นแบบพื้น ๆ ทั่วไปนั่นแหละ  หรือ ตั้งให้มันเตือนตามสถานที่ก็ได้ เช่น เตือนเมื่อเราไปถึงสถานที่นี้นะ เตือนตอนฉันออกมานะ แบบนี้ก็ได้ (แต่อันนี้นะจะต้องเสียเงินซื้ออีกทีนะ)

 

  • ปฏิทิน : ก็จะคล้าย ๆ กับแอป ปฏิทินทั่วไป แต่จะมีหลายมุมมองให้เลือก ตามความถนัด ตามความชอบ มีแบบ Agenda , Day , 3 Day และ มุมมองแบบ week

 

 

 

 

3. Blocky Time

แอป Blocky Time นี้ จะมีรูปแบบ ที่แตกต่างจาก 2 แอปด้านบนอยู่มาก ทั้ง 2 แอปพลิเคชั่นด้านบน จะเน้นการกำหนด งาน เหตุการณ์ ที่ต้องทำ ล่วงหน้า ใน วัน เวลา ต่าง ๆ

แต่สำหรับแอปนี้ จะเน้นการวางแผน ใน 1 วัน ว่าเราจะทำอะไรบ้าง แต่ไม่ใช่การกำหนดงาน ที่เฉพาะเจาะจง จะเป็นการวางแผนแบบกว้าง ๆ รวม ๆ มากกว่า เช่น 6 โมง – 7 โมง คือเวลาว่าง , 8 โมง – 9 โมง คือเวลาออกกำลังกาย , 10 โมงครึ่ง ถึงเที่ยง คือ เวลาทำงาน อะไรแบบนี้ค่ะ

ในแต่ละหมวดกิจกรรม ก็จะแบ่งเป็นสี ๆ ให้ดูง่าย เรายังสามารถ เพิ่ม แก้ไข หมวดหมู่ ได้ตามใจชอบ อย่างของผู้เขียนเอง ก็จะมีหมวด ‘เวลาเขียนบทความ’ ด้วยแหละ

ลักษณะของแอปก็คือการเอา Block หมวดหมู่งาน ที่ต้องทำ มาลงใน ทามไลน์เวลา ที่จะแบ่งเป็น ช่องละ ครึ่งชั่วโมง

ที่น่าสนใจคือ เราสามารถเก็บสถิติได้ว่า ช่วงนี้ เราทำอะไรไปเท่าไหร่ กี่ชั่วโมง จะได้มาประเมินทีหลังว่า เราแบ่งเวลาโอเคได้แล้วหรือไม่

 

picture credits : copper.com , timetackle.com , whatphone.net , google play  , appadvice.com

Comments

comments