เคยเป็นกันไหมคะซิส เวลาที่เราส่งข้อความหาใคร เราก็ต้องการให้เขาตอบ แต่เขากลับไม่อ่าน หรือไม่ก็อ่านแล้วไม่ตอบ ซึ่งรู้ไหมคะว่าการ “อ่านไม่ตอบ” มันส่งผลกระทบกับจิตใจของเรามากกว่าที่คิดนะคะ แบบว่าคนรอมันท้อ สำหรับซิสที่กำลังรู้สึกว่าร้อนรุ่ม รู้สึกไม่โอเค กระวนกระวายกับการไม่ตอบ ลองมาดูกันค่ะว่า มันส่งผลกับเรายังไงบ้าง แล้วจะมีวิธียังไงให้เราเย็นลงบ้าง จะได้ไม่ยึดติดกับแชทของใครคนเดียวที่เรารอมากเกินไป
รู้ไหมการ “อ่านไม่ตอบ” ส่งผลกระทบต่อจิตใจมากกว่าที่คิดนะ !
การสื่อสารผ่านทางข้อความมีมาสักพักแล้ว ตั้งแต่สมัย MSN ในยุคที่สมาร์ทโฟนยังไม่บูม ในช่วงนั้นคนก็รอกันได้อยู่หรอก เพราะกว่าจะเข้า MSN ทีก็ต้องมีเวลามานั่งหน้าคอมพ์ แต่เมื่อเทคโนโลยีมันไวขึ้น คนก็ใจร้อนขึ้น ยิ่งถ้าเป็นแอพแชทที่สามารถโต้ตอบได้ทันที (และเห็นสถานะขึ้นอ่าน) ไม่ว่าจะเป็น Line, Whatsapp, Kakao Talk, Direct Message ใน IG หรือ Facebook Messenger ฯลฯ พอเห็นว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความแล้ว แต่ดันไม่ยอมตอบ แถมบางทียังทักท้วงไม่ได้ บอกไม่ได้ว่ารออยู่นะ ก็หัวร้อนไปเลยสิ แล้วซิสรู้ไหมคะว่า การตกอยู่ในสภาวะนี้บ่อย ๆ อาจทำให้เราป่วยจิตได้เลยนะ
ไม่ได้พูดกันลอย ๆ ค่ะซิส เพราะ Dr. Tony D. Sampson ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย University of East London ออกมาเปิดเผยว่า “การอ่านแล้วไม่ตอบทันที เป็นตัวกระตุ้นให้คนรอเกิดอารมณ์เชิงลบ” เนื่องจากว่าแอพพวกนี้น่ะ มันขึ้นให้เห็นเลยว่าอีกฝั่งหนึ่งอ่านแล้ว จะมาอ้างว่ายุ่งอยู่ หรือเพิ่งเห็นเลยไม่ได้ตอบ มันก็ไม่ได้มั้ยล่ะ นี่แหละจึงเป็นสาเหตุให้คนที่รอการตอบกลับมีอารมณ์ขุ่นมัว อาจเกิดความสงสัยว่า เราทำผิดอะไรหรือเปล่า หรืออีกฝ่ายกำลังทำอะไรไม่น่าไว้ใจหรือเปล่า (ในกรณีเป็นแฟนกันนะ) หรืออาจจะถึงขั้นโกรธ และทะเลาะกันอย่างรุนแรงไปเลยก็ได้
ซึ่งถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้บ่อยเข้า มันจะกลายเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้คนรอข้อความเกิดความรู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า และรู้สึกโดดเดี่ยว ได้เลยทีเดียวนะ แต่จะไปโทษอีกฝ่ายก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ได้มีกฎบนโลกนี้นี่ว่า ห้ามอ่านแล้วไม่ตอบ หรืออ่านแล้วต้องตอบทันที เพราะบางคนเขาอาจจะไม่สะดวกตอบ ณ เวลานั้นก็ได้ใช่มั้ยล่ะ ดังนั้น มันอาจจะต้องแก้ที่ตัวเราเองด้วย เพื่อไม่ให้นอยจนเกินไปนั่นเอง ด้วยการห่างจากโซเชียลบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจดจ่ออยู่กับการรอข้อความ
เยียวยาจิตใจจากการรอข้อความ ต้องทำยังไง
การรอข้อความตอบกลับ มันก็เหมือนการที่เราติดโซเชียลมีเดียมากเกินไปนั่นแหละค่ะ ซึ่งทำให้เราหงุดหงิด กระวนกระวาย ดังนั้นต้องพาตัวเองออกจากโซเชียลให้ได้ก่อน ซึ่งวิธีการมีดังนี้
1. ลองปิดโทรศัพท์บ้าง – รอเขาอย่างเดียวแล้วไม่ได้อะไร งั้นลองปิดโทรศัพท์บางช่วงเวลา ให้อีกฝ่ายต้องรอบ้างดีไหม เขาจะได้รู้ว่าเราไม่ได้กระวนกระวายใจกับการตอบของเขามากขนาดนั้น โดยซิสอาจจะปิดโทรศัพท์บ้างในช่วงที่ดูหนัง ออกกำลังกาย กินข้าวกับครอบครัว หรืออยู่ในที่ประชุมก็ได้
2. ปิดแจ้งเตือนบ้างก็ได้ – เพื่อให้เราไม่ต้องจดจ่ออยู่กับการตอบกลับของอีกฝ่ายมากเกินไป ลองปิดการแจ้งเตือน แล้วไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องทำ อีกนัยหนึ่งคือเมื่อเขาตอบกลับมา เขาก็จะได้รอเราบ้าง ไม่ใช่ว่าเขาตอบมาปุ๊บเราต้องรีบตอบปั๊บ มันก็แฟร์ดีออกนะ
3. คุยกับคนอื่นบ้าง – โดยอาจจะไปคุยกับเพื่อน พี่น้อง หรือพ่อแม่ คุยเยอะ ๆ ไม่ว่าจะทางข้อความหรือคุยแบบต่อหน้าแบบออฟไลน์ก็ได้ จะได้ไม่ต้องโฟกัสอยู่กับข้อความของคนคนเดียว
4. พูดคุยกับอีกฝ่ายให้เข้าใจ – ลองคุยกับฝ่ายที่เรามักจะรอข้อความเสมอ ๆ ว่าการที่เขาอ่านแล้วไม่ตอบนั้นเป็นเพราะอะไร หรืออยู่ในสถานการณ์ไหน แล้วข้อความแบบไหนที่เราต้องการให้เขาตอบทันที จากนั้นค่อยหาข้อตกลงมาเจอกันครึ่งทาง การทำแบบนี้จะทำให้เรารู้ว่าลิมิตอยู่ตรงไหน จะได้ไม่ต้องกระวนกระวายใจเวลาเขาไม่ตอบข้อความ
5. ลองคุยเรื่องที่มีความสนใจร่วมกัน – ถ้าไม่ใช่ธุระอะไร แต่เราอยากคุยกับอีกฝ่าย และอยากให้เขาตอบ ลองหาเรื่องที่ทั้งเราและเขาต่างสนใจเหมือนกัน เอามาคุยกันดู เพราะถ้าคุยเรื่องที่ชอบแล้ว รับรองว่า ไม่มีใครปล่อยให้อีกฝ่ายรอนานแน่นอน
6. ออกไปใช้ชีวิต ให้เวลากับเพื่อนข้างนอกบ้าง – ซิสรู้มั้ยว่าการจดจ่ออยู่กับหน้าจอนาน ๆ นอกจากจะทำให้เราจิตตก ในการรอข้อความของคนใดคนหนึ่ง อาจทำให้สุขภาพตาเสีย แถมยังปวดคอไปอีก เพราะก้มดูโทรศัพท์บ่อย ๆ ลองเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า ออกไไปใช้เวลากับเพื่อน ๆ หรือครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน หรือไปหาอะไรอร่อย ๆ กิน ทำให้เราไม่ต้องโฟกัสกับข้อความในโทรศัพท์ ว่าอีกฝ่ายจะตอบตอนไหน แถมยังกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนได้ดีอีกด้วย
7. ใช้มือถือทำอย่างอื่นบ้าง นอกจากรอแซต – ถ้าเป็นคนติดโทรศัพท์จริง ๆ มีโทรศัพท์อยู่กับตัว แบบว่าต้องถือติดมือ ก็ลองหาอะไรทำระหว่างรอแชตสิ ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกม อ่านนิยายในโทรศัพท์ ดูหนัง ดูยูทูบ ไถเฟซบุ๊ก ส่องอินสตาแกรม เช็กข่างในทวิตเตอร์ เห็นไหมว่ามีอะไรให้ทำตั้งเยอะ จะได้ไม่โฟกัสกับข้อความของคนคนเดียว
8. หาอะไรทำเยอะ ๆ จะได้เลิกคิดมาก – ซิสอาจจะพิมพ์ข้อความทิ้งไว้ แล้วไปโฟกัสกับงานตรงหน้าแทนก็ได้ บางทีทำงานยุ่ง ๆ ก็จะได้ไม่ต้องสนใจว่า อีกฝ่ายเขาอ่านข้อความเราแล้วหรือยัง แล้วถึงเวลาเมื่อเขามาตอบ เราอาจจะรู้สึกว่าไม่ได้รอนานก็ได้ หรือถ้าไม่ใช่วันทำงาน ก็ลองหาอะไรอย่างอื่นทำแบบออฟไลน์ ซึ่งซิสขอแนะนำการดูซีรีส์ หรืออ่านหนังสือ เพราะทำให้เวลาผ่านไปเร็วมาก จะได้เลิกนอยเวลาเขาไม่ตอบข้อความไง
9. ทำใจซะเถอะ เขาก็เป็นแบบนี้แหละ – สำหรับซิสหลายคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัว แต่พฤติกรรมอื่น ๆ โดยทั่วไปไม่ได้มีอะไรน่ากังวล ก็ไม่ต้องไปสนใจกับแค่การตอบข้อความหรอกค่ะ ทำใจว่ามันคือนิสัยของเขา เขาอาจจะยังไม่อยากตอบ ยังนึกคำตอบไม่ได้ หรือยังไม่พร้อมตอบ เดี๋ยวพอถึงเวลาเขาก็ตอบเอง ทำใจให้ชิน จะได้ไม่ต้องเครียดเนอะ
น้องซิสคนไหนที่ชอบนอยเวลาอีกฝ่ายอ่านแล้วไม่ตอบแชต ก็อย่าคิดมากเลยนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้สุขภาพจิตเสียเอาเปล่า ๆ ลองทำตามคำแนะนำด้านบน แล้วซิสอาจจะเลิกเครียดกับการตอบแชตไปเลยก็ได้นะ
Credit Information from CatDumb, dazeddigital.com, helpguide.org
Credit Pictures from Instagram liih_y, elina_4_22, gini_s2_, hezzzw_jv, gini_s2_, yuna_1_27
Stay connected