เหนื่อยจังเลย อยากนอนทั้งวัน นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ ซิสเคยมีอาการแบบนี้กันหรือเปล่าคะ บางทีมันไม่ใช่แค่ความขี้เกียจหรือนอนไม่พอนะ เพราะอาการแบบนี้อาจบ่งบอกถึงสุขภาพเลยทีเดียว อย่าง โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง หรือ ไฮโปไกลซีเมีย (Hypoglycemia) เรามาสังเกตตัวเองกันดีกว่าค่ะ ว่าเราเข้าข่ายเป็นโรคนี้หรือเปล่า จะได้หาทางรักษาได้ทันท่วงที

 

ง่วงทั้งวันไม่หาย เราเป็น โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง หรือเปล่า ?

 

ซิสที่ทำงานประจำ ต้องเข้างานเป็นเวลา แล้วรู้สึกว่า เอ๊ะ! ก็นอนพอนี่นา เข้านอนก็เร็ว แต่ตกบ่ายก็ง่วงทุกที อยากทิ้งหัวลงโต๊ะตลอดเวลา นั่นแหละค่ะ เป็นสัญญาณของโรคอ่อนเพลียเรื้อรังแล้ว มาดูกันค่ะว่ามันเป็นยังไง

โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง

โรคไฮโปไกลซีเมียคืออะไร

ไฮโปไกลซีเมีย (Hypoglycemia) หรือโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่ใช่โรคที่เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากภาวะร่างกายค่ะ Hypo มีความหมายว่า “ต่ำ” และ Glycemia มีความหมายว่า “เกี่ยวกับน้ำตาล” โรคไฮโปไกลซีเมียจึงหมายถึง ภาวะน้ำตาลตก หรือน้ำตาลในเลือดต่ำ จึงทำให้เกิดการอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรงนั่นเองค่ะ บางทีก็เรียกโรคนี้ในภาษาอังกฤษว่า  Chronic fatigue syndrome (CFS)

 

อาการของโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง มีอะไรบ้าง

อาการของโรคนี้มีหลายอย่างมากเลยค่ะซิส มีทั้งอาการทางร่างกาย อาการทางระบบภายใจ หรือแม้แต่อาการทางจิตใจ ไปดูกันค่ะว่าถ้าเป็นโรคนี้ จะมีอาการอะไรบ้าง

โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง

อาการทางร่างกาย

  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • เวียนหัว ปวดหัว
  • นอนไม่หลับ
  • เหงื่อออกง่าย เหงื่อแตกบ่อย
  • มือสั่น
  • มือเย็น เท้าเย็น
  • ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ
  • เป็นตะคริว 
  • ชักกระตุก
  • คันตามผิวหนัง
  • มีอาการภูมิแพ้
  • หน้าร้อนวูบวาบ หน้าร้อนผ่าว
  • ตัวชา
  • การทรงตัวไม่ดี

โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง

อาการทางระบบภายใน

  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • ปากคอแห้ง
  • เบื่ออาหาร
  • อยากกินของหวาน
  • หิวมาก ๆ ก่อนถึงเวลาอาหาร
  • ระบบขับถ่ายผิดปกติ ทั้งถ่ายหนักและถ่ายเบา
  • หายใจไม่ค่อยออก
  • หายใจมีกลิ่นเหม็น
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • เป็นลมบ่อย
  • น้ำหนักเกิน
  • สมรรถภาพทางเพศลดลง

โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง

อาการทางจิตใจ

  • เบื่อหน่าย
  • ซึมเศร้า
  • จิตใจฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ
  • วิตกกังวลง่าย
  • ตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ได้ไม่ดี ลังเล
  • รู้สึกสับสน ปั่นป่วน
  • ทนเสียงดัง ๆ หรืออยู่ในที่ที่แสงสว่างเยอะ ๆ ไม่ได้
  • ไม่อยากเข้าสังคม
  • โมโหง่าย
  • ร่างกายทำงานสัมพันธ์กันแย่ลง
  • ฝันร้ายบ่อย
  • ความจำเสื่อม
  • มีอาการทางประสาท
  • อยากฆ่าตัวตาย

จริง ๆ ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่มีอาการหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน บางคนมีอาการอย่างหนึ่งเข้ามา แต่ก็หายไป แล้วก็อาการเวียนไปเรื่อย ๆ แต่อาการหลัก ๆ ก็คือ อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรงนั่นแหละ แต่หากปล่อยนานเข้าอาจจะรุนแรงมาก ๆ ก็ได้

โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง

โรคอ่อนเพลียเรื้อรังเกิดจากอะไร

หลัก ๆ เลยนะคะ มันเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ออฟฟิศนี่แหละ โดยเฉพาะพฤติกรรมการกิน เช่น เน้นกินแต่คาร์โบไฮเดรต ฟาสต์ฟู้ด น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ ขนมหวาน หรือของที่มีน้ำตาลสูง ๆ มากเกินไปในแต่ละวัน จนทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ตับอ่อนก็เลยต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อผลิตอินซูลินออกมาควบคุมน้ำตาลให้ต่ำลง ทีนี้พอเรากินน้ำตาลไปมาก ๆ ตับอ่อนก็ยิ่งผลิตอินซูลินมาก พออินซูลินมากน้ำตาลก็จะลดฮวบ เราก็เลยเพลีย หรือที่เรียกว่าน้ำตาลตก 

แล้วยิ่งเรารู้สึกว่าน้ำตาลตก เพลีย ง่วง ก็เลยยิ่งกินของหวาน เพื่อให้ร่างกายสดชื่น แล้วมันก็วนลูปไปเรื่อย ๆ น้องตับอ่อนก็ทำงานหนักไม่จบไม่สิ้น ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้น ๆ ลง ๆ ซึ่งไม่ดีต่อร่างกายเลย อีกสาเหตุก็คือ ชีวิตคนเมือง ทำงานหนักอย่างเรา ๆ อะเนอะ ก็ทำให้ต้องเร่งรีบ เครียดสะสมจากงาน มีปัญหาชีวิตหลาย ๆ เรื่อง และนอนไม่พอ ก็เลยทำให้เป็นโรคไฮโปไกลซีเมียได้เช่นกัน

โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง

แก้อาการอ่อนเพลียเรื้อรังได้ยังไง

ต้องบอกว่า การจะหายจากอาการนี้คือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองล้วน ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การนอน การออกกำลังกาย หรือจะเป็นการทำงานก็ต้องปรับนะ

1. หลีกเลี่ยงอาหารน้ำตาลสูง ฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ หรือพวกแป้งขัดขาว แต่หันไปกินโปรตีนไม่ติดมัน จะทำให้อยากน้ำตาลลดลง แถมอิ่มนานด้วย

2. ดื่มน้ำให้มากขึ้น จิบน้ำเปล่าระหว่างวันบ่อย ๆ จะช่วยให้เลือดไม่ข้น เลือดสูบฉีดได้ดี ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียน้อยลง บรรเทาอาการง่วงระหว่างวันได้

3. กินผลไม้สดตระกูลเบอร์รี่ แนะนำให้กินสด ๆ ผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวอย่างเบอร์รี่ จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องอินซูลินได้

4. ห้ามงดอาหารเช้าเด็ดขาด เพราะจะช่วยทำให้อยากน้ำตาลน้อยลง และไม่หิวตอนมื้อเที่ยงมากเกินไป

5. ก่อนนอนควรงดอาหารประเภทที่มีน้ำตาลเยอะ ๆ กาเฟอีน แอลกอฮอล์ต่าง ๆ เพราะนอกจากจะทำให้นอนหลับยากแล้ว ตื่นมายังอ่อนเพลียอีกต่างหาก

6. พยายามนอนหลับให้เพียงพอทุกวัน และเข้านอนให้ตรงเวลาทุกวัน เพื่อให้นอนหลับสนิทและเต็มอิ่ม

7. อย่าเครียดจากงานมากเกินไป พอเลิกงานก็เลิกคิดเรื่องงานไปเลย หาเวลาลาพักร้อนไปพักผ่อนบ้าง จะได้นอนหลับสนิท บอกลาอาการอ่อนเพลีย

 

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันสักนิด จะได้ไม่เป็นโรคไฮโปไกลซีเมีย หรืออ่อนเพลียเรื้อรัง สุขภาพของซิสจะได้แข็งแรง พร้อมทำงาน พร้อมใช้ชีวิต บาลานซ์ชีวิตให้ดี๊ดีได้ยังไงล่ะคะ

 

Credit Information from goodlifeupdate.com, www.tmwa.or.th, www.officemate.co.th

Credit Pictures from www.wattpad.com, www.kaskus.co.id, timesofindia.indiatimes.com, ulzzangthingz.tumblr.com, www.6parkbbs.com, weheartit.com/roldeep, tumblrgallery.xyz

Comments

comments