โรคซึมเศร้าเป็นโรคทางจิตเวชประเภทหนึ่ง เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ‘เซโรโทนิน (Serotonin)’ มีปริมาณลดลง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการป่วยทั้งร่างกาย จิตใจ และความคิด  ทำให้พฤติกรรมของผู้ป่วยเปลี่ยนไปส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โรคนี้ทำให้ตัวเองไม่มีความสุข มีแต่ความวิตกกังวล หรือถึงขั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งในปัจจุบันโรคนี้สามารถรักษาหายได้ด้วยการใช้ยา การรักษาทางจิตใจ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน โรคนี้เป็นโรคปกติที่สามารถเป็นได้ทุกคน แล้วมีงานวิจัยนึงจากจุฬา ฯ บอกว่าคนไทยกว่า 1.5 ล้านคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และพยายามคิดฆ่าตัวตาย 50,000 คนต่อปี เราจึงจำเป็นต้องรู้วิธีดูแลตัวเอง และ วิธีดูแลคนไกล้ตัว ซึ่งวันนี้เราได้เอา วิธีดูแลคนเป็นโรคซึมเศร้า มาฝากกันค่ะ

 

วิธีดูแลคนเป็นโรคซึมเศร้า

 

 

ทำยังไงได้บ้าง? “เมื่อคนไกล้ตัวเป็นซึมเศร้า” มาบอก วิธีดูแลคนเป็นโรคซึมเศร้า

 

 

สาเหตุของโรคซึมเศร้าเกิดขึ้นจาก  2 ปัจจัยหลัก

  • เกิดขึ้นจากพันธุกรรม : โรคซึมเศร้าสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่อาจไม่ใช่ว่าพ่อแม่เป็น แล้วลูกจะเป็น แค่มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าคนทั่วไป เช่น หากมีฝาแฝดเป็นโรคซึมเศร้า ฝาแฝดอีกคนมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้สูงถึง 60 – 80% หรือหากมีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ก็มีโอกาสป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 20%
  • เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อม : สภาพแวดล้อมภายในครอบครัวหรือบริบทสังคมในที่ทำงาน ที่มีความกดดันสูง มีโอกาสที่ทำให้ความคิด และพฤติกรรมเปลี่ยน ทำให้เกิดโรคซึมเศร้า

 

อาการของโรคซึมเศร้า

  1. อารมณ์ซึมเศร้าท้อแท้ สิ้นหวัง
  2. ขาดความสนใจหรือความเพลิดเพลินในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
  3. เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
  4. นอนมากหรือนอนน้อยกว่าปกติ
  5. กระสับกระส่าย กระวนกระวาย หรือเชื่องช้าลง
  6. เหนื่อย และอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรงอยู่เกือบตลอด
  7. รู้สึกตนเองไร้ค่า รู้สึกผิด และโทษตนเองอยู่ตลอด
  8. สมาธิ ความสามารถในการคิด และการตัดสินใจลดลง
  9. คิดเรื่องตายหรือคิดอยากตาย

นอกจากนี้ ยังมี 5 สัญญาณโรคซึมเศร้า จากทางโซเชียล ถ้าเราเห็นเพื่อนหรือ คนใกล้ชิด โพสต์ลงโซเชียลในแนวนี้ ให้ระวังไว้ เพราะมีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายสูง มีดังนี้

  1. โพสข้อความสั่งเสีย เช่น ขอบคุณ ขอโทษ ลาก่อน
  2. โพสต์อยากตาย เช่น ไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว
  3. โพสต์ความเจ็บปวด ทรมาน
  4. โพสต์ความรู้สึกผิด หมดหวังในชีวิต
  5. โพสต์เป็นภาระผู้อื่น หรือ รู้สึกไร้ค่า

 

การรักษาโรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้า สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการรักษาทางจิตใจ และการรักษาด้วยยาหลายชนิด ซึ่งแต่ละคนอาจตอบสนอง ต่อการรักษาแต่ละชนิดไม่เท่ากัน บางคนอาจต้องการการรักษาหลายอย่างร่วมกัน การรับประทานยาจะทำให้อาการของโรคดีขึ้นเร็ว ในขณะที่การรักษาทางจิตใจจะช่วยให้ต่อสู้กับปัญหาได้ดีกว่าเดิม การมีเพื่อนคอยอยู่ข้าง ๆ รับฟังจะช่วยได้ดีเลยค่ะ แต่ถ้าใครมีอาการหนัก ถึงขั้นฆ่าตัวตาย หรือผู้ป่วยไม่สามารถกินยาได้ หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา อาจให้การรักษาด้วยไฟฟ้า 

 

สิ่งที่ควรทำเมื่ออยู่กับคนเป็นโรคซึมเศร้า

  • คอยพูดคุยกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าให้เห็นถึงข้อดีของตัวเองเสมอ : ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาเลยก็ว่าได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้หันมามองเห็นคุณค่าของตัวเองที่จะทำให้มีกำลังใจสู้ต่อ และอยากใช้ชีวิตต่อไป
  • รับฟังอย่างตั้งใจ ไม่กดดัน ไม่ตัดสิน :  ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามักคิดอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นภาระของผู้อื่น การจะให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกในใจ จึงต้องให้เขารู้สึกว่ามีคนอยากรับฟังเขาอยู่จริง ๆ ไม่กดดัน ไม่ตัดสิน และต้องสร้างความไว้วางใจ ซึ่งการฟังที่ดีจะช่วยให้เราเก็บข้อมูลไว้ใช้สำหรับการป้องกัน และรักษาได้ด้วย

 

ประโยคที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า

  1. “อีกไม่นานเธอก็จะดีขึ้น หรือ อดทนไว้นะ”
  2. “ไม่มีใครตั้งใจให้เรื่องร้ายๆ มันเกิดหรอก ฉันรู้ดี
  3. ”“ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอจะรู้สึกแย่สักแค่ไหน แต่ฉันยินดีจะทำความเข้าใจเธอนะ”
  4. “พวกเราจะไม่ทิ้งเธอนะ เราจะอยู่ข้างๆ เธอ”
  5. “เธอไม่ได้เป็นบ้า เธอก็แค่เศร้า”
  6. “มากอดกันไหม”
  7. “ออกไปเดินเล่นกันไหม”
  8. “ฉันขอโทษที่ทำร้ายคุณ ฉันจะช่วยเธอได้อย่างไรบ้าง”
  9. “ฉันรักเธอ แม้เธอจะเป็นยังไง”

 

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่ออยู่กับคนเป็นโรคซึมเศร้า

  • อย่าบอกปัดหรือตีตัวออกห่าง :  การทำตัวออกห่างจะทำให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารู้สึกว่าไม่มีที่พึ่งพิง รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระ อาจทำให้เกิดความคิดที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อได้
  • เมื่อพูดถึงเรื่อง “ความตาย” ห้ามทำเป็นไม่ได้ยิน : คนใกล้ชิดไม่ควรมีท่าทีต่อต้าน กับคำพูดอยากตายของผู่ป่วย เพราะจะทำให้สภาวะจิตใจของผู้ป่วยรู้สึกแย่ลงได้
  • ห้ามกดดัน เร่งรัด หรือ ตัดสิน : เช่น “ทำไมยังไม่หายอีก” เพราะจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกดดันว่าตัวเองเป็นภาระ อาจทำให้อาการแย่หนักลงกว่าเดิม
  • ห้ามกล่าวโทษ : ห้ามโทษผู้ป่วยว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขา หรือพอป่วยแล้วก็ทำอะไรไม่ดีสักอย่าง
  • ห้ามโต้แย้ง : ถ้าผู้ป่วยระบายความรู้สึกออกมา เราควรรับฟังอย่างเดียวก็พอแล้ว ไม่ควรไปโต้แย้งว่าสิ่งที่เขาพูดมันผิด

 

ประโยคต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า

สิ่งที่ไม่ควรพูดคือ คำห้าม คำกดดัน คำพูดเชิงลบ คำที่กระทบจิตใจผู้ป่วย

  1. “อย่าคิดมาก”
  2. “เลิกคิดมาก”
  3. “สู้ ๆ นะ”
  4. “คิดในแง่ดีเข้าไว้”
  5. “ร้องไห้ทำไม ห้ามร้องไห้”
  6. “เสียใจด้วยนะ / แย่จังเลย”
  7. “พยายามอีก / ต้องทำได้ / ทำไมทำไม่ได้”
  8. “แค่นี้เอง เดี๋ยวก็ดีเอง”
  9. “อย่าท้อ”
  10. “มีคนที่แย่กว่าคุณอีก”

 

นอกจากคำพูดที่เราสามารถช่วยคนไกล้ตัวที่เป็นซึมเศร้าได้แล้ว เราลองพาคนที่เป็นซึมเศร้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน จะช่วยให้ผู้ป่วยอาการดีขี้น แ แต่สิ่งสำคัญต้องชวนไปทำกิจกรรมในตอนที่พร้อม แล้วถ้าผู้ป่วยไม่ต้องการทำกิจกรรม ก็ไม่ควรบังคับผู้ป่วย  ให้ผู้ป่วยได้ดูแลตัวเอง ให้มีอาการที่ดีขึ้น ถึงจะชวนไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้

1. ชวนไปออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายของผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว แล้วยังช่วยให้จิตใจของผู้มีอาการซึมเศร้าดีขึ้นอีกด้วย อาจจะเลือกออกกำลังกายง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้สมาธิมาก อย่าง การวิ่ง การเดิน แอโรบิก กิจกรรมต่าง ๆ ที่แนะนำ จะช่วยให้ผู้ที่มีอาการซึมเศร้านอนหลับ และทานอาหารได้ดีขึ้น แถมการได้ออกกำลังกายกับเพื่อน จะทำให้ผู้ป่วยหายจากความรู้สึกไม่โดดเดี่ยว

2. กิจกรรมที่ทำให้รู้สีกดี และเกิดความผ่อนคลาย เช่น พาไปเดินเล่น ชวนไปเที่ยวทะเล ภูเขา

 

การที่เราอยู่ใกล้กับคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เราต้องใช้ความเข้าใจ และดูแลคนป่วยอย่างถูกต้อง ถูกวิธี และคอยให้กำลังอยู่เสมอ วิธีต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้เขาหายจากโรคซึมเศร้า ส่วนใครไม่มีคนไกล้ตัวที่เป็นซึมเศร้า เราก็จำเป็นต้องรู้เอาไว้ เมื่อคนไกล้ตัวเป็นซึมเศร้า ขึ้นมา วิธีต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยซัพพอร์ตความรู้สึกของผู้ป่วยได้ดีเลยแหละ

 

 

 

Photo Credit:

allwellhealthcare

Source Credit:

dek-d

sompo

 

Comments

comments