สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน ช่วงนี้ตัวเราเองมี Streaming น้องใหม่ที่ทำให้เราติดอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ Relationship with Netflix อยู่พักใหญ่ นั่นจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก Disney+ Hotstar ด้วยความที่ติดและอยู่กับน้องทุกวัน Clubsister เลยอยากจะแนะนำสิ่งที่น่าสนใจนอกจากอนิเมชั่นและการ์ตูนกับ “Disney+ Hotstar หนังและซีรีส์ 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด” จะมีเรื่องอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย
“Disney+ Hotstar หนังและซีรีส์ 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด”
เรื่องที่ 1: Seobok (คลิกเพื่อรับชม)
ประเภท: ภาพยนตร์
ความยาว: 1 ชั่วโมง 54 นาที
ใน Disney+ Hotstar หนังและซีรีส์เรื่องแรกที่อยากแนะนำนั้น บอกเลยว่าเหมือนชนเอาสามีแห่งชาติทั้ง 2 คนอย่าง กงยูอปป้า และ พัคโบกอมอปป้า มาไว้ในเรื่องให้สาวๆ ได้ตามกรี๊ดตามดูกันกับ
“Seobok ซอบก” หนังเกาหลีแนว Action Sci-fi ที่น่าจับตามองอีกเรื่อง แถมยังเข้ากับสถานการณ์ ณ ปัจจุบันอีกด้วย
เรื่องราวพูดถึงโลกในอนาคตที่เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นวิกฤตมนุษยชาติต่างๆ ใกล้ถคงคราวล้มสลาย
เพราะ กำลังประสบปัญหาโรคระบาดร้ายแรงที่ยังหายาและวิธีการรักษาไม่ได้ มนุษย์ที่ได้รับเชื้อกำลังจะตาย ในช่วงเวลาที่มืดมิดและไร้หนทาง ทางการลับได้ติดต่อกับ มินกีฮอน อดีตสายลับของการทางที่กำลังป่วยหนักด้วยโรคระบาดนี้ ให้ไปนำตัวของ ซอบก มนุษย์โคลนนิ่งตนแรกของโลก ที่ไขกระดูลสันหลังของเขานั้น สามารถนำมาสกัดเป็นเซรุ่มเพื่อรักษาโรคระบาดนี้ได้
ด้วยเหตุนี้ทำให้ซอบกตกเป็นสมบัติล้ำค่า ที่ไม่ว่าใครก็ต่างอยากจะได้เขากันทั้งสิ้น และภารกิจในการรักษาชีวิตซอบกและช่วยมวลมนุษยชาติได้เริ่มตึ้นขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ตัวละครที่เหมือนขนเอาสามีแห่งชาติทั้ง 2 เข้ามาในเรื่อง แต่เป็นการตั้งคำถามของตัวละครทั้ง 2 ตัวหลักมากกว่า ตัวแรกคือ “ซอบก” มนุษย์โคลนนิ่งที่ตื่นขึ้นมาเพื่อพร้อมจะใช้ชีวิต แต่ทว่าโลกกลับอยู่ในความไม่สงบ มนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ ทำให้เขาเกิดคำถามมากมายในหัวว่า “การเป็นมนุษย์นั้นดีจริงๆ หรือ?”
ส่วนตัวละครที่สองคือ “มินกีฮอน” มนุษย์ที่ผ่านเรื่องราว ผ่านอารมณ์และการเจริญเจิบโตต่างๆ มากมาย ที่ตั้งคำถามกับการทำภารกิจนี้ของเขาด้วยเช่นกัน ด้วยคำถามที่ผู้กำกับและคนเขียนบทเหมือนสะท้อนให้เห็น แก่คนดูว่า “คุณค่าของการเป็นมนุษย์และการมีชีวิตอยู่คืออะไร” ผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ของตัวละครทั้งสองคนนี้ได้เป็นอย่างดี
เรื่องที่ 2: Nomadland (คลิกเพื่อรับชม)
ประเภท: ภาพยนตร์
ความยาว: 1 ชั่วโมง 47 นาที
และเรื่องที่สองบน Disney+ Hotstar หนังและซีรีส์ ที่อยากจะแนะนำนั้น บอกเลยว่าเป็นหนังที่ขนเอารางวัลมาเพียบไม่ว่าจะเป็นนะกแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, Best Picture และ ผู้กำกับยอดเยี่ยม จากเวทีออสการ์ 2021 ที่ผ่านมา บอกเลยว่าการันตีรางวัลหนาแน่นขนาดนี้ ไม่ดูก็คงไม่ได้กับ “Nomadland”
หนังที่สะท้อนให้เห็นการถูกลืมในโลกทุนนิยมกับอาณาจักรของคนแก่ไร้บ้าน โดย Nomadland เป็นเรื่องราวของเฟิร์น หญิงชราวัยเกษียณที่สามีตาย และเธอกำลังประสบปัญหาทางด้านการเงิน
จนทำให้เธอต้องตัดสินใจหนีชีวิตที่มีมาอาศัยอยู่บนรถ RV ขับรถไปเรื่อยๆ สมัครงาน Part Time เพื่อได้เงินพอประทังชีวิต และใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องคิดอะไร เรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วย ความคิดและชีวิตของคนที่ตามหาความหวังและความสุขในแบบง่าย กับคำว่า “แค่ใช้ชีวิต”
สำหรับหนังเรื่องนี้บอกเลยว่าจะไม่ทำให้คนดูอย่างเราผิดหวังแน่นอน Production บท การกำกับ และฝีมือของนักแสดง เรียกได้ว่าดีเกินคำบรรยาย ในบรรยากาศของหนังจะว่าสวยก็สวย แต่ในความสวยงาม และโทนสีที่ไร้ที่ตินั้น สอดแทรกให้เราเห็นว่า มันมีความเหลื่อมล้ำ และความทุกข์ที่ผลันเป็นความเคยชินซ้อนอยู่ในนั้น
ปัญหาและผลกระทบของโลกทุนนิยมที่สลัดเหล่าแรงงานผู้สูงอายุทิ้งให้ห้อยตามด้านหลัง โดยที่ไม่หมุนกลับมามองหรือชายตากับคนกลุ่มนี้เสียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ทำให้หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นการเสียดสีและสะท้อนสังคมภายใต้รอยยิ้มและความเรียบง่ายของชีวิตได้เป็นอย่างดี
เรื่องที่ 3: Murder on The Orient Express (คลิกเพื่อรับชม)
ประเภท: ภาพยนตร์
ความยาว: 1 ชั่วโมง 49 นาที
ถ้าใครได้สมัคร Disney+ Hotstar หนังและซีรีส์อีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยคือ หนังสืบสวนสอบสวน แถมหักมุม แบบเรียกได้ว่า ร้องว้าวกันไปเลยกับ “Murder on the orient express” ในชื่อภาษาไทยที่ว่า “ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส”
เป็นเรื่องราวของ แอร์กูล ปัวโร นักสืบชื่อดังชาวเบลเยียมที่ได้รับชื่อเสียงจากการปิดคดีที่โด่งดังในเมืองเยรูซาเลม เมื่อเขาปิดคดีนี้ได้เสร็จ เขาตั้งใจที่จะไปพักผ่อนที่อิสตันบลู แต่ทว่าในขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่นั้น เขาได้รับโทรเลขด่วนจากกรุงลอนดอน ทำให้เขาต้องกลับไปตามเหตุทันที และโดยสาร รถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส
ในขณะที่เขากำลังโดยสารอยู่นั้น เขาก็ได้เจอเพื่อนเก่าของเขาอย่าง แรตเช็ตต์ นักธุรกิจหนุ่มที่โด่งดังและพกข่าวฉาวมากมาย เขาขอร้องให้ปัวโรช่วยเป็นบอดี้การ์ดให้กับเขา เนื่องจากเขารู้สึกว่าตนเองกำลังจะถูกปองร้าย แต่ทว่าปัวโรของปฏิเสธ
ในคืนวันเดียวกัน ในขณะที่ปัวโรกำลังพักผ่อนในห้องโดยสาร เขาได้ยินเสียงแปลกๆ จากบริเวณใกล้เคียง เขาจึงตัดสินใจไปดู และพบว่าเห็นหญิงสาวใส่ชุดสีแดงวิ่งออกมาจากห้องของ แรตเช็ตต์ ก่อนที่เขาจะพบว่า แรตเช็ตต์ ได้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณ พร้อมด้วยบาดแผลที่ถูกแทงทั้ง 12 แผล ด้วยเหตุนี้ทำให้ปัวโร ตัดสินใจสืบคดีพร้อมหาฆาตกรบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสนี้ จากผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 7 คน
หนังเรื่องนี้เราบอกได้คำเดียวว่า “ห้ามดูสปอยล์” ก่อนเด็ดขาดไม่อย่างนั้น ความสนุกจะจบหายวับไปกับตา ความเจ๋งของเรื่องนี้ก็คงคล้ายๆ กับหนังสืบสวนสอบสวนทั่วไป แต่! สิ่งที่เรารู้สึกว่าผู้กำกับและนักเขียนเรื่องนี้เก่งเลยคงหนีไม่พ้น การร้อยเรียงเรื่องราว และความเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตัวละครที่ทำให้คนดูอย่างเราอึ้งไปกับเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี
เรื่องที่ 4: อิน – จัน (คลิกเพื่อรับชม)
ประเภท: ซีรีส์
ความยาว: 1 ซีซั่น (ยังไม่จบ)
ใครก็ตามที่สมัคร Disney+ Hotstar หนังและซีรีส์ที่เรียกได้ว่าน่าจับตาดูเห็นว่าจะที่สุดได้แล้วบน Streaming นี้ แถม Promote อย่างหนักมาก ก็คงหนีไม่พ้นซีรีส์ไทยที่ Production ดีสู่สากลอย่าง “อิน-จัน”
ซีรีส์ชีวประวัติ (บางส่วน) ของแฝดสยามที่โด่งดังและมีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง ฝาแฝดอิน-จัน โดยเรื่องราวในซีรีส์จะประกอบทั้งหมด 13 ตอน พูดเรื่องประวัติและเรื่องราวความรัก ความรู้สึก ของแฝดพี่น้องในวัย 18 ปี ที่โยกย้ายมาอยู่อเมริกา ซึ่งเนื้อเรื่อง ไม่ได้พูดถชีวประวัติของอิน-จันที่แบบว่า กว่าจะมาอยู่ ณ จุดนี้ แต่ในเรื่องนี้เจาะลึกไปที่ความรู้สึกและชีวิตรักของทั้งคู่กับ ภรรยาสาวชาวอเมริกานั่นเอง
สิ่งที่น่าประทับใจสำหรับซีรีส์เรื่องนี้เลย คงหนีไม่พ้นความไทยที่เรียกได้ว่า ครั้งนี้แอบสู้สากลได้ไม่น้อยเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น Production / Costume หรือแม้กระทั่งการสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมและความเชื่อในแบบไทย ความผสมผสานระหว่างไทยและอินเตอร์อย่างลงตัวที่สุด
ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ เราบอกเลยว่าคนคิดบท และ คิด Concept ขงเรื่องเก่งใช่ย่อย ที่เจาะลึกเข้าไปถึง Insight ของเรื่องความรักของแฝดสยามที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา อย่างนี้เรื่องความรักที่มีความส่วนตัวและปัจเจกมากๆ จะเป็นอย่างไร เพื่อนๆ ลองคิดดูว่า “ในขณะที่เราไปออกเดต เราทะเลาะกับคู่รัก หรือแม้กระทั่งเรากำลังอินเลิฟกับคู่เรานั้น จะต้องมีพี่น้องหรือชายอีกคนนึงอยู่ด้วยตลอดเวลา” คุณจะรับได้ไหม?
เรื่องที่ 5: Criminal Minds (คลิกเพื่อรับชม)
ประเภท: ซีรีส์
ความยาว: 15 ซีซั่น เฉลี่ย 22 ตอนต่อ 1 ซีซั่น
และเรื่องสุดท้าย ถึงแม้จะไม่ได้หวือหวาหรือใหม่อะไร เมื่อเทียบกับเรื่องอื่น แต่บอกเลยว่า สำหรับตัวนักเขียนแล้ว “ปลื้มปริ่ม” เป็นที่สุด เพราะว่าเป็นซีรีส์ในดวงใจแถมในตำนาน ที่อยากดูแบบทีเดียวรวดเดียวมาตั้งนานแล้ว กับ “Criminal Minds”
ใครเป็นสายสืบสวนสอบสวน สายตามล่าหาความจริง สายนักสืบไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้เป็นที่สุด “Criminal Mins” ซีรีส์สืบสวนสอบสวน จิตวิยา ที่โด่งดังในอดีต จนถึงปัจจุบัน ไม่เพียงแค่นั้น ยังเป็นซีรีส์ต้น ซีรีส์สืบสวนฆาตกรต่อเนื่องหลากหลายเรื่อง ณ ปัจจุบันด้วย
เรื่องราวพูดถึง องค์กรหนึ่งที่ทำหน้าที่จับและสืบสวน พร้อมสอบปากคำฆาตกรต่อเนื่อง ล่วงลึกและค้นถึงจิดตใจของฆาตกร ถึงสาเหตุและความรู้สึกที่มีต่อเหยื่อหรือเหตุการณ์ต่างๆ เรียกได้ว่าสายจิตวิทยา สืบสวน ลุ้นระลึกต้องชอบแน่ๆ
ความดีงามของเรื่องนี้ คือ Disney+ Hotstar นำเอาเรื่องนี้เข้าทุกซีซั่น ย้ำ! ทุกซีซั่น ทำเอาคนดูและแฟนคลับอย่างเรานั้น ดูจนตาแฉะ กันไปเลย ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นบอกเลยว่า ไร้ที่ติ (ถึงแม้จะมีบางช่วงที่เนือยๆ นิดนึดหน่อย)
เราจะได้รู้ถึงพฤติกรรมของตัวละคร ไม่ใช่แค่เฉพาะคนร้ายหรือเหยื่อ แต่รวมถึงพฤติกรรม ความคิด ทัศนคติ หลักเหตุผลต่างๆ ของตัวละครที่เกี่ยวข้องกับคดีแทบจะทุกตัว รวมถึงความลุ้นระทึกในการสืบคดีต่างๆ ด้วยเช่นกัน
Photo Credits:
Stay connected