สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน พอเริ่มเข้าใกล้ปลายเดือนตุลา ก็จะถึงอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากวันเทศกาลที่เรียกได้ว่าเป็นที่น่าจับตามองอย่างวัน Holloween แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ทำให้การไป Hang Out หรือ Party ดูจะทำได้ยาก วันนี้ Clubsister เลยขอเอาใจสาย Halloween ในช่วงนี้กับ ชวนดู “5 หนังสยองขวัญ บน Netflix” บอกเลยว่าหลอนหนักมาก!! มาดูกันว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง
ต้อนรับ Halloween ชวนดู “5 หนังสยองขวัญ บน Netflix” บอกเลยหลอนมาก!!
เรื่องที่ 1: House of Wax (คลิกเพื่อรับชม)
ระดับความสยอง: 3 / 5
หนังสยองขวัญ บน Netflix เรื่องแรกที่อยากจะแนะนำนั้น เพิ่งเข้าบน Netflix เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเข้ามาเพื่อต้อนรับวันฮสโลวีนโดยเฉพาะ เรื่องราวพูดถึงกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งไปตั้งแคมป์ ในป่าเพื่อหลังจะพักผ่อนช่วง Summer
แต่ทว่าในขณะที่พวกเขากำลังพักผ่อนกันอยู่นั้น ก็เกิดเจอฆาตกรโรคจิตที่ทำร้าย และลักพาตัวเพื่อนของเขาไปที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง กลุ่มเพื่อนที่เหลือเลยตัดสินใจเดินทางไปตามหาเพื่อนที่หายไป ซึ่งได้เข้าไปในเมืองแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรื่องหุ่นขี้ผึ้ง ด้วยเหตุนี้ทำให้กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ ต้องเจอเข้ากับเรื่องราวที่น่าสะพรึ่งกลัวของตำนานและเมืองขี้ผึ้งแห่งนี้
สำหรับเราแล้วหนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีความสยดสยองและแขยงในตัว การเล่าเรื่องก็หนัง Horror – Survival ระดับตำนานอีกเรื่องหนึ่ง ที่ลุ้น ระทึก และ ทำเอาหายใจหายคอไม่ทันเหมือนกัน
เรื่องที่ 2: Insidious 2 – 3 (คลิกเพื่อรับชม)
ระดับความสยอง: 3.5 / 5
เป็นหนังสยองขวัญ บน Netflix อีกหนึ่งหนังผีที่เราชอบด้วยแง่ความคิด Plot และการเล่าเรื่อง อีกทั้งเป็นหนังที่เล่นกับความคิดความกลัวของคนได้ดี Insidiuos เป็นเรื่องราวของโลกคู่ขนานกับโลกมนุษย์ อย่างโลกของภูติผี ปีศาจต่าง ๆ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมด 4 ภาคนั้น จะเล่าผ่านการหมอผีเอลิส และเหล่านักล่าผี ซึ่งแต่ละภาพจะมี Timeline และเรื่องราวที่แตกต่างกัน
ภาคแรกเป็นเรื่องราวของครอบครัวแลมเบิร์ท ที่อยู่ ๆ ลูกชายของเขาก็มีอาการป่วยโคม่า โดยไม่ทราบสาเหตุ เหมือนนอน ๆ อยู่ก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยแต่ยังมีลมหายใจอยู่ ซึ่งหาหมอทางวิทยาศาสตร์ก็แล้วแต่ยังไม่หาย สุดท้ายเลยต้องพึ่งหมอผีชื่อดังอย่างหมอผีเอลิส เรื่องราวทั้งหมดจึงคลี่คลาย
ภาคที่ 2 เป็นเรื่องราวของโลกหลังความตายหลังจากที่หมอผีเอลิสตายและวิญญาณไม่สามารถออกจากโลกของวิญญาณได้ แต่ทางฝั่งโลกของมนุษย์มีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับจอร์ชคนไข้ที่เอลิสเคยช่วยเหลือไว้ตอนเด็ก ๆ และเมื่อเอลิสไม่อยู่ดังนั้นทางฝั่งนี้จึงจำเป็นต้องก่อตั้งทีมล่าท้าผี เพื่อช่วยเหลือบุคคลทั้ง 2 นี้ให้ได้
ภาคที่ 3 เป็นเรื่องราวก่อนที่จะเกิดภาค 1 – 2 พูดถึงเด็กสาวผู้ที่เข้าใจว่าตนสามารถติดต่อกับวิญญาณของแม่ ผู้ล่วงลับได้ แต่แล้วควินส์ก็ได้พบว่าเสียงที่เธอพูดคุยด้วยนั้นไม่ใช่แม่แต่เป็นเสียงของเหล่าวิญญาณที่ได้ยินคำเชื้อเชิญของเธอ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ควินส์เจอเหตุการณ์ร้าย ๆ มากมาย จนเอลิสต้องเข้ามาช่วยเหลือ ภาคสุดท้าย เป็นภาคที่เหมือนย้อนอดีตของตัวละครหลักของเรื่องคือเอลิสหมอผี ตั้งแต่สมัยเด็ก กับการกลับไปแก้ไขอดีตที่เธออยากจะลบเลือนมัน
ส่วนตัวเราชอบภาค 1 / 3 และ สุดท้าย ด้วยจังหวะความเป็นหนังผี และการเล่นกับความกลัวของคนดู คือผีของ Insidious จะไม่ใช่ ผีที่มาในรูปแบบวิญญาณสิงร่างกายเหมือนหนังผีฝรั่งทั่วไป แต่ส่วนมากจะเป็นตัวผี ที่มาในลักษณะรูปร่างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผีเจ้าสาว ผีคนแก่ ผีคนป่วย รวมถึงปีศาจ แต่ไม่ใช่ว่าภาค 2 ไม่ดี แต่ส่วนตัวเรากลับขำและแอบตลกภาคที่ 2 บ้างบางซีน
เรื่องที่ 3: ลัดดาแลนด์ (คลิกเพื่อรับชม)
ระดับความสยอง: 4 / 5
และหนังผีไทยระดับตำนาน ที่ให้แง่คิด และความลึกซึ้งในมุมครอบครัว เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของธีร์ พนักงานขายวัยกลางคนที่ตัดสินใจซื้อบ้านเดี่ยวเพื่อครอบครัวของเขา ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่หลังจากที่ธีร์และครอบครัวได้ย้ายเข้ามาอยู่ก็หวังว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แต่ความจริงมันไม่เป็นอย่างนั้น หมู่บ้านที่ครอบครัวและธีร์ย้ายเข้าไปอยู่นั่นมีคดีฆาตกรรมอันน่าสยดสยองเกิดขึ้น หลังจากนั้นเรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เป็นอีกหนังผีที่เราชอบ แต่ไม่ใช่ในแง่ของความสยองเพียงอย่างเดียว (ความสยองก็ยอมรับว่าดีแต่เมื่อเทียบกับรุ่นดีอย่าง Shutter เหมือนทำได้ดีกว่า)
สิ่งที่ชอบเลยคือการสอดแทรกแง่คิดในแง่ความสัมพันธ์ในเชิงครอบครัว การปรับตัวของวัยรุ่น และความเข้าใจซึ่งกันและกัน ดูได้จากผู้นำครอบครัวอย่างพ่อหรือธีร์ที่มีความตั้งมั่นก็อยากจะเป็นที่พึ่งพิงให้กับที่บ้าน แต่สุดท้ายเมื่อเกิดปัญหาก็จำเป็นต้องปิดบังเอาไว้ เป็นต้น แต่สุดท้ายแล้วถึงแม้เราจะเกิดปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ครอบครัวจะเป็นที่ยึเเหนื่ยวและเกราะป้องกันให้เราได้ดีที่สุด
เรื่องที่ 4: The Perfection (คลิกเพื่อรับชม)
ระดับความสยอง: 4.5 / 5
หนังสยองขวัญ บน Netflix อย่างเรื่อง The Perfection เป็นภาพยนตร์ Original จาก NETFLIX ที่พูดถึงชาร์ลอตนักเชลโล่ที่ห่างหายจากวงการไปนาน การกลับมาในครั้งนี้เธอได้มีโอกาสเจอลิซซี่ นักเชลโล่ผู้มีชื่อเสียง ณ ปัจจุบัน ผู้ซึ่งจบมาจากสถาบันชื่อดังที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถาบันที่ปลุกปั้นผู้มีความสามารถให้เป็นที่หนึ่งเหมือนกันกับเธอ ทั้งคู่ได้มีโอกาสร่วมแสดงในงาน อีกทั้งยังมีโอกาสร่วมเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศจีนพร้อมกันอีกด้วย
แต่ในระหว่างเดินทางลิซซี่เกิดมีอาการป่วยอย่างปริศนา อีกทั้งอาการยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
จนทำให้เธอต้องตัดสินใจบางอย่าง และจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เรื่องราวต่างๆ พร้อมปมปริศนามากมายเริ่มถูกเปิดเผยออกมาที่ละนิดเช่นกัน
The Perfection เป็นหนังแนว Psychology / Horror / Thriller ที่พ่วงความ Plot Twist ตลอดทั้งเรื่อง หลายๆคนที่เคยดูหนังแนวหักมุมนั้น ส่วนใหญ่จะเหวอตอนจบทีเดียว แต่สำหรับเรื่องนี้มันไม่เป็นอย่างนั้น เรื่องนี้ทำให้คุณเหวอและเกิดข้อสงสัยได้ในทุกๆ ช่วงที่ดู
และความเหวอนั้นทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงตอนจบ แต่หากถามว่าว้าวไหม ก็ไม่ได้ว้าวจนรู้สึกตื่นเต้น แต่ก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวล่ะ พูดเลยว่า เป็นหนัง Original NETFLIX ที่ดูเพลินเลยทีเดียว
สิ่งที่เรารู้สึกว่าหนังทำออกมาได้น่าติดตามนั่นก็คือ การที่หนังใช้เทคนิค reverse ย้อนภาพกลับไปในจุดเริ่มต้นของแต่ละเหตุการณ์ ทำให้เราได้เห็นมุมมอง 2 มุมมอง ทั้งในมุมที่หนังต้องการนำเสนอในตอนต้น และมุมของความเป็นจริงที่หนังต้องการจะบอกในตอนท้าย ด้วยเหตุนี้ทำให้ความคาดเดาต่างๆ ของคนดู ได้รับการคลี่คลายโดยเร็ว (มันก็สนุกไปอีกแบบนะ)
เรื่องที่ 5: Shutter (คลิกเพื่อรับชม)
ระดับความสยอง: 5 / 5
หนังสยองขวัญ บน Netflix และ หนังผีที่น่าภาคภูมิใจของคนไทย เพราะต่างชาติถึงกับซื้อลิขสิทธิ์ไป remake ใหม่เลยทีเดียว แต่ส่วนตัวเราคิดว่าก็ยังสู้ของไทยไม่ได้ (ไม่ได้อวยนะ พูดจริงๆ) ชัตเตอร์เป็นเรื่องราวของธรรม์ช่างภาพ และ เจนแฟนสาว ที่หลังจากขับรถกลับจากงานศพก็บังเอิญขับรถชนคน และหนี หลังจากวันนั้นเรื่องราวทื่แปลกประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นกับเขาทั้งสอง จนสุดท้ายเรื่องราวทั้งหมดเริ่มส่งกลิ่นออกมาทีละเล็กละน้อย
ต้องบอกว่าชัตเตอร์เป็นหนังผีไทยเรื่องแรก ๆ ที่ใช้เทคนิค Jumb Scare หรือที่เรารู้จักในคำว่า ตุ้งแช่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงจังหวะดนตรี มุมกล้อง และแสงต่าง ๆ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังผีไทยที่โดนใจใครหลาย ๆ คน
อีกอย่างที่เราชอบคือ พล็อตเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกเซอร์ไพร์สได้ไม่หยอก พล็อตดีไม่แพ้หนังต่างประเทศเลยก็ว่าได้ แต่ความประสบความสำเร็จของเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การที่ต่างประเทศนำเรื่องไปรีเมคเท่านั้น แต่นั่นคือ การที่ทุกวันนี้เวลาใครปวดคอ ก็จะนึกถึงเรื่องนี้กันตลอดเวลา
Photo Credits:
Stay connected