สวัสดีค่ะสาวๆ Clubsister ที่น่ารักทุกคน เราเชื่อว่าถ้าสาวๆ ได้ติดตามบทความของเราอยู่บ่อยๆ จะรู้เลยว่าเราชอบอัพเดทและรีวิวหนังต่างๆ ให้สาวๆ ได้ไปรับชมรับฟังกันอยู่เสมอๆ และวันนี้ก็เป็นอย่างนั้นอีกเช่นเคย แต่! หนังวันนี้ที่เราจะมีแนะนำให้สาวๆ ได้ชมกันนั้น บอกก่อนเลยว่าเป็นหนังที่ติด Top การค้นหากันเยอะมากๆ เป็นหนังที่ทำเอาคนดูแบบเราๆ เหนื่อยตามๆ กันเลยทีเดียว และนั่นคือ ” 5 หนังแนวเอาชีวิตรอด! บน Netflix บอกเลยว่า 5 หนังนี้จะทำให้สาวๆ หายใจหายคอไม่ทัน ลุ้นจนตัวโก่ง ตระคิวกินไปตามๆ กัน เหนื่อยหอบแบบสุดๆ และจะมัวรออะไร ไปเริ่มเหนื่อยกับหนังแรกกันเล๊ยย…ย

 

หายใจไม่ทันกับ 5 หนังแนวเอาชีวิตรอด! บน Netflix บอกเลยว่าเหนื่อยแน่นอน

 

หนังแนวเอาชีวิตรอด 1: Don’t Breathe

ความลุ้น: 5 / 5

หนังแนวเอาชีวิตรอด

หากใครที่ติดตามบทความรีวิวหนังของเราจะรู้ว่า “Don’t Breathe” ติดโผอยู่ใลิสต์หนังที่ทำให้ไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว และในครั้งนี้กับหนังแนวเอาชีวิตรอด เราก็ยังคงให้เรื่องนี้เป็นหนังที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยหอบ และลุ้นกับการเอาตัวรอดของตัวละครอยู่ “Don’t Breathe” พูดถึงเรื่องราวของกลุ่มเด็กวัยรุ่นเปรี้ยวเยี่ยวราดกลุ่มหนึ่ง ที่คอยก่อกวนละแวกเพื่อนบ้านในแถวที่ตนอยู่อาศัยโดยการเข้าปล้นของมีค่าเล็กๆ น้อยๆ ตามบ้านคนอื่นไปเรื่อยๆ

แต่ในครั้งนี้กลุ่มเด็กพวกนี้วางแผนที่จะไปปล้นบ้านคนแก่ตาบอด ที่ดูภายนอกเหมือนเป็นบ้านคนแก่ทั่วไป แต่ทว่าชายแก่คนนี้ได้รับเงินจำนวนมากจากค่าประกันชีวิตของลูกสาวเธอ และด้วยช่องโหว่นี้ทำให้เด็กเหล่านี้ชะล่าใจและหวังจะหอบเงินไปแบ่งกันอย่างง่ายดาย แต่แล้วสิ่งที่คิดมันไม่เป็นอย่างฝัน เพราะการที่ได้ย่างเท้าเข้าไปในบ้านหลังนี้ เหมือนเป็นการลองของเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งไว้เฉยๆ

หนังแนวเอาชีวิตรอด

เราบอกเลยว่า Don’t Breathe เป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดที่เราดูแล้วเหนื่อยแบบสุดๆ เหนื่อยแบบหายใจไม่ทัน ไม่ทั่วท้องและทำให้เราไม่กล้าหายใจเลยซักนิด เพราะด้วยพล็อตของหนังแนวเอาชีวิตรอดที่มีการตัดต่อให้ลุ้นเป็นทุนเดิมด้วยแล้ว แต่กับเรื่องนี้เป็นหนังที่ตัดต่อได้อย่างเฉียบขาด อีกทั้งยังวางคาแร็คเตอร์ตัวละครได้แบบลงล็อคแบบเป๊ะ และด้วยเหตุนี้ทำให้หนังเรื่องนี้กลมกล่อมและสนุกแบบสุดๆ เต็มสิบไม่หักเลยซักแต้ม

 

หนังแนวเอาชีวิตรอด 2: HUSH

ความลุ้น: 4.5 / 5

หนังแนวเอาชีวิตรอด

หนังแนวเอาชีวิตรอดเรื่องแรกเป็นชายแก่ตาบอด แต่เรื่องที่สองนี้เป็นการเอาชีวิตรอดระหว่างสาวหูหนวกกับโจรโรคจิต (สาวๆ คิดภาพตามดูว่า มันจะไม่ให้ลุ้นได้ยังไงกัน) HUSH เป็นภาพยนตร์แนว Thrillers, Horror ที่พูดเลยว่าทำให้เราหัวใจจะวายกับการหนีและดิ้นรนของตัวเอกของเรื่อง อีกทั้งหนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องได้เร็วตรงจุดไม่ยืดเยื้อ และมีตัวละครในเรื่องทั้งหมดไม่ถึง 5 คนด้วยซ้ำ โดยตัวละครหลักในเรื่องจะมีแค่นางเอกเป็นสาวหูหนวก กับโจรโรคจิต นอกนั้นจะเป็นตัวละครที่มาเสริมเติมบทให้ดูเต็มมากยิ่งขึ้น

หนังแนวเอาชีวิตรอด

HUSH หนังแนวเอาชีวิตรอดที่พูดถึง แมดดี้ นักเขียนนิยายแนวสืบสวนและระทึกขวัญที่มีชื่อเสียงติดอันดับนิยายขายดี แต่ทว่าเธอกลับเป็นสาวโชคร้าย พิการทางการได้ยิน (หูหนวก) ตั้งแต่เด็ก ถึงแม้เธอจะเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขสิ่งนั้นหลายครั้ง แต่มันก็ไม่สำเร็จ นั่นทำให้เธอมีอุปสรรคทางการได้ยินมาตลอดชีวิต แต่ในการใช้ชิวิต เธอจะสามารถสัมผัสได้ถึงเสียงของวัตถุจากการสั่นสะเทือนของวัตถุนั้นๆ ทว่าในการเขียนนิยายของเธอนั้น เธอจะใช้การจินตนาการภาพและเสียงในหัวเธอ เพื่อกลั่นออกมาเป็นนิยายชิ้นดีของเธออยู่เสมอ

และในครั้งนี้แมดดี้เธอตั้งใจมาพักผ่อนที่บ้านพักที่ห่างไกลชุมชน เพื่อหนีจากแฟนเก่าและเพื่อตั้งใจเขียนนิยายของเธอต่อ แต่ทว่าในตอนกลางคืนหลังจากที่เพื่อนทาง Email ของเธอแวะมาหาที่บ้านแล้วลากลับไปนั้น เพื่อสาวได้ถูกโจรโรคจิตฆ่าอย่างเลือดเย็นที่หน้าบ้านของเธอ และทำให้โจรคนนั้นรู้ว่าเธอมีความบกพร่องทางการได้เย็น ด้วยเหตุนี้โจรคนนั้นหวังจะฆ่าเพื่อปิดปากเธอด้วยอีกคน 

 

 

หนังแนวเอาชีวิตรอด 3: The Platform

ความลุ้น: 4 / 5

หนังแนวเอาชีวิตรอด

สาวๆ คนไหนที่มองหาหนังแนวเอาชีวิตรอดที่ดูแล้วไม่เหนื่อยจนเกินไป เราขอแนะนำเรื่องนี้ เพราะ The Platform เป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดที่ดีและแฝงด้วยข้อคิดที่เสียดสีสังคมได้อย่างเจ็บแสบเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว The Platform เป็นหนังของ Original Netflix ทางฝั่งสเปน (เราเชื่อว่าถ้าใครเป็นแฟน Netflix จะทราบกันดีเลยว่า หนัง Original Netflix ของทางฝั่งสเปนนั้นเด็ดและพล็อตดีอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้)

The Platform เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มนามว่า โกเร็ง เขาตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องปูนเปล่าพร้อมด้วยเลขที่เขียนไว้ข้างกำแพงว่า 48 โดยในห้องนั้นมีเขาและชายแก่วัยกลางคนหนึ่งคนอยู่ด้วยกัน
ซึ่งโกเร็งได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ ได้ข้อสรุปว่า สถานที่นี้คือ คุกแนวตั้ง โดยคุกมีตั้งแต่ชั้น 0 และยาวลงไปแบบไม่รู้ว่าชั้นล่างสุดคือชั้นอะไร ในทุกๆ วันจะมีแท่นอาหารลอยลงมาจากชั้น 0 พร้อมด้วยอาหารนานาชาติหลากหลายชนิดที่รังสรรค์มาจากเชฟระดับภัตตราคาร

โดยแท่นนี้จะนำมาอาหารมาให้คนท่อยู่ในคุกแบบนี้เรื่อยๆ แต่ทว่าอาหารที่มีอยู่นั้นจะถูกทานและเหลือเอาไว้เรื่อยๆ ยิ่งชั้นสูงขึ้นอาหารจะยิ่งลดน้อยลง และในทุก 1 เดือน เราจะมีการได้เปลี่ยนชั้นที่อยู่พร้อมพาร์ทเนอร์ไปเรื่อยๆ นั่นเป็นที่มาของการอยู่รอดของคน 1 คนในคุกแนวตั้ง ที่แบ่งชนชั้นวรรณะของคนได้แบบเจ็บแสบ

หนังแนวเอาชีวิตรอด

บอกเลยว่าหากให้นับ The Platform เป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดนั้น ก็ยังไม่เข้าขั้นขนาดที่ทำให้คนดูลุ้นจนตัวเกร็ง แต่ที่เราอยากแนะนำให้สาวๆ ได้ลองดูเรื่องนี้ก็เพราะว่า หนังเรื่องนี้มีการนำเสนอการเอาชีวิตรอดภายใต้ขอบเขตุของคำว่า ชนชั้น ยิ่งชัั้นที่อยู่อาศับสูงเท่าไร โอกาสในการได้รับอาหารที่ดี ได้รับสิทธิในการเลือก ก็มากกว่าคนอื่น ส่วนชั้นล่างๆ ทำได้เพียงแค่เฝ้ารออาหารที่เหลือจากด้านบนประทังชีวิตไปวันๆ ยิ่งชั้นล่างเรื่อยๆ สิ่งที่ทำได้เพื่อความอยู่รอดคือการฆ่าฟันของผู้อยู่อาศัยในระดับชั้นนั้นเองเท่านั้น เพราะเหตุนี้ทำให้หนังเรื่องนี้ เป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดที่เฉียบขาดในเรื่องการสะท้อนสังคม ณ ปัจจุบันได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง

 

 

หนังแนวเอาชีวิตรอด 4: Escape Room

ความลุ้น: 5/5

หนังแนวเอาชีวิตรอด

ถ้าพูดถึงหนังแนวเอาชีวิตรอดที่สร้างความฮือฮาในปีที่ผ่านมา จะต้องนึกถึงหนังเรื่องนี้เป็นแน่ๆ ด้วยพล็อตหนังที่ใส่กิมมิกของการเอาตัวรอดแบบมีชั้นเชิง พร้อมยังทิ้งคติประจำใจแบบเต็มไปด้วยแง่คิด ไม่เพียงแค่นั้นยังถ่ายทอดสันดานดิบของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

Escape Room เป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดที่พูดถึงคนแปลกหน้าชายหญิงทั้งหมด 6 คน ที่ตื่นขึ้นมาในห้องปริศนา โดยกฏของสถานที่แห่งนี้คือการไขปริศนาของห้องแต่ละห้องไปเรื่อยๆ ซึ่งเกมในแต่ละห้องนั้นจะต้องเดิมพันด้วยชีวิต เลือกเอาว่าจะมีชีวิตรอดเพื่อออกไปข้างนอกหรือจะต้องตาย

หนังแนวเอาชีวิตรอด

หากถามว่าเมื่อเทียบหนังแนวเอาชีวิตรอดของเรื่องอื่นกับเรื่องนี้นั้น คงไม่ได้มีความแตกต่างอะไรมาก แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ลุ้นและสนุกมากกว่าหนังเรื่องอื่นๆ คือการที่ตัวละครจะต้องพบเจอการเปลี่ยนแปลงของโจทย์การเอาชีวิตรอดในแต่ละห้องที่จะต้องเจอแบบแตกต่างกัน เขาจะไม่มีวันรู้เลยว่าเขาจะต้องพบเจออะไรในห้องถัดไป เกิดการคาดเดาต่างๆ นาๆ ซึ่งในแต่ละด่านแต่ละห้อง ตัวเรามี่เป็นคนดูไม่สามารถคาดเดากลไกหรือที่มาที่ไปของโจทย์นั้นๆ ได้เลย

นอกจากนั้นเราจะต้องลุ้นไปกับการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของแต่ละตัวละคร ใครจะอยู่ใครจะไป แต่สิ่งที่ทำให้หนังแนวเอาชีวิตรอดแบบนี้มีเสน่ห์นั้นคือ เราจะรับรู้ได้ถึงสันดานดิบของความเป็นมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง นั่นก็คือ ความเห็นแก่ตัว และทฤษฎีของชาร์ลส์ ดาร์วิน นั่นก็คือทฤษฎีของการคัดสรรทางธรรมชาติ ใครที่แข็งแกร่งมักอยู่รอด คนที่อ่อนแอก็แพ้ไปซะ และนี่แหละ เราจะได้เห็นความเห็นแก่ตัวต่างๆ นาๆ การเอาตัวรอดของคนแต่ละคน รวมถึงความฉลาดชิงไหวชิงพริบของตัวละครในเรื่องอีกด้วย

 

ปูลู บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้แอบเป็นอีกหนึ่งทีหักมุมและเล่นกับการวิเคราะห์ของคนดูไม่น้อยเลยทีเดียว

 

หนังแนวเอาชีวิตรอด 5: 47 METERS DOWN

ความลุ้น: 4 / 5

 

** คำเตือนหนังบทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญ

หนังแนวเอาชีวิตรอด

หนังแนวเอาชีวิตรอดลำดับสุดท้าย เรากล้าพูดเลยว่าเป็นหนังที่เหนื่อยบบสุดๆ ไม่เพียงแค่นั้นยังเป็นหนังที่ตอนจบตบหน้าคนดูแบบดังป๊าบสนั่นเลยทีเดียว “47 METERS DOWN” หนังแนวเอาชีวิตรอด โดยเป็นการเอาตัวรอดระหว่างคนและฉลาม พูดถึงเรื่องราวของเคต และ ลิซ่า
สองสาวพี่น้องที่ใช้เวลาในช่วง Holiday พักผ่อนที่เกาะแสนสงบแห่งหนึ่ง ในขณะที่เธอกำลังพักผ่อนอยู่นั้น พวกเธอก็ได้สังเกตเห็นวัยรุ่นชายกลุ่มนึงพูดคุยถึงความตื่นเต้นกับ Activity อย่างสนุกสนาน และนั่นก็ทำให้เธอรู้ว่าพวกเขาไปผจญภัยใต้น้ำกันมา

โดยพวกเขาจะดำน้ำลึกโดยเข้าไปอยู่ในกรงขนาดใหญ่ ดูฝูงปลาและดูฉลามจอมวายร้ายแห่งท้องทะเลแบบใกล้ๆ พร้อมเพิ่มอะลินนาลีนให้กับร่างกายตัวเอง และนั้นทำให้สองสาวพี่น้องสนใจ แต่ทว่าในขณะที่เธอกำลังลงไปนั้น สายเคเบิ้ลที่เกี่ยวลูกกรงของเธอดันขาด ทำให้กรงของเธอจมลงไปใต้มหาสมุทรลึกถึง 47 เมตร และนั่นทำให้เธอต้องพยายามต่อสู้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าและเอาชีวิตรอดขึ้นไปสู่พื้นผิวน้ำให้จงได้

หนังแนวเอาชีวิตรอด

บอกเลยว่าหนังฉลามนั้น ยังคงเป็นหนังแนวเอาตัวรอดตามแบบฉบับของฮอลลีวูด แต่ทว่าด้วยเวลาและเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้หนังฉลามในปัจจุบันมีความก้าวหน้ามากขึ้น เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ของหนังฉลามและหนังแนวเอาชีวิตรอดที่น่าติดตามเลยก็ว่าได้ สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีสเน่ห์ไม่แพ้กับหนังฉลามในอดีตเลยคือ การสร้างสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและสถานการณ์ที่ต้องแก้ไข พร้อมทั้งสร้างแรงกดดันให้กับเราและตัวละครได้แบบเฉียบขาด

อย่างการที่ลูกกรงหล่นลงไปใต้น้ำนั้นมันแย่พอแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้หนังมันดูกดดันเข้าไปอีกคือ หนึ่งในสองพี่น้องได้รับบาดเจ็บเป็นแผลลึกทำให้เลือดออกเป็นอย่างมาก และนั่นทำให้เธอต้องเจอกับฉลามที่เรียกว่าเป็นอสูรร้ายใต้ท้องทะเล เคราะห์ซ้ำกรรมกำลังซัดเข้ามาอีกคือ ออกซิเจนของพวกเธอกำลังจะหมด นั่นทำให้หนึ่งคนกำลังจะตายเพราะบาดแผล ส่วนอีกคนกำลังจะตายเพราะขาดออกซิเจน (อะไรมันจะโชคร้ายขนาดนี้) และทั้งคู่กำลังจะตายเพราะฉลามกำลังมา บอกเลยว่าถ้าสาวๆ ดูเรื่องนี้จบ จะทำให้ไม่กล้าไปดำน้ำอีกนานเลยทีเดียว

 

เป็นยังไงกันบ้างคะกับหนังแนวเอาชีวิตรอดทั้ง 5 เรื่อง บางคนอาจจะเคยดูแล้ว บางคนอาจจะไม่เคย ยังไงลองตามดูกันน้า ซึ่งทุกเรื่องสามารถดูได้บน Netflix ทั้งหมดเลยค่า ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไร ลองติดตามกันดูนะคะ 

 

Photo Credit: 

Comments

comments