สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน หากใครที่เป็นแฟนคลับ NETFLIX และชื่นชอบซีรีส์เกาหลีแล้วละก็ จะต้องไม่พลาดซีรีส์ที่เรียกได้ว่าเป็นประวัติการณ์ และสร้างเสียงฮือฮากับประโยคสำเนาที่ว่า “ไปดูผีเสื้อที่ห้องฉันไหม” แน่นอนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใดไปไม่ได้นอกจาก Nertheless ด้วยความที่กระแสฮอตฮิตขนาดนี้ Clubsister อย่างเราจะพลาดได้อย่างไร เลยอยากชวนสาวๆ ตามดู “5 เหตุผลและข้อคิด Nevertheless” มาดูกันว่านอกจากความดีงามของพระนางแล้วมีอะไรที่ทำให้เราต้องดูกันอีกบ้าง

 

 “5 เหตุผลและข้อคิด ที่ได้จาก Nevertheless”  

 

เหตุผลและข้อคิด Nevertheless

เรื่องย่อและที่มา:
ก่อนที่เราจะไปเริ่ม 5 เหตุผลและข้อคิด Nevertheless นั้น เราขอบอกเล่าเรื่องย่อและที่มาของเรื่องให้กับสาวๆ ได้รู้จักกันเสียซักหน่อย
Nevertheless เป็นซีรีส์เกาหลีที่มี Rate 19+ ในการเข้าถึง โดยเป็นซีรีส์ที่ Remake จากบทของการ์ตูนชื่อดังบน Naver Webtoon (LINE WEBTOON) ในชื่อภาษาไทยที่ว่า รักนี้ห้ามไม่ได้

เป็นเรื่องราวชีวิตความรักที่ไม่ใช่วัยใส แต่เป็นวัยที่จะเริ่มเข้าสู่ผู้ใหญ่ของหญิงสาวที่เสียใจและผิดหวังจากความรักอย่าง ยูนาบี (ฮาน โซฮี) เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายของเอกศิลปกรรม ในวันที่เธอสิ้นหวังกับความรัก ที่ไม่เป็นไปดั่งใจและรู้สึกเจ็บช้ำเหลือเกิน เธอตัดสินใจไปที่ผับแห่งหนึ่ง และบังเอิญเจอชายหนุ่มที่เข้ามาทักเธอโดยไม่ตั้งใจอย่าง พัคแจออน (ซงคัง) ด้วยสายตาและท่าที ทำให้เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์ และนี่คือที่มาของ “ความรักที่ห้ามไม่ได้ของเธอและเขา”

 

**บทความนี้อาจมีการเผยแพร่เนื้อหาสำคัญบางส่วน

 

ข้อที่ 1: ความหมายของ ผีเสื้อ กับ ความรัก ความสุข และการเจริญเติบโตจากความเจ็บปวด

เหตุผลและข้อคิด Nevertheless

ต้องบอกก่อนเลยว่า Concept ของซีรีส์เรื่องนี้คือการพูดถึงความหมายในหลากหลายแง่มุมต่างๆ ของ “ผีเสื้อ” ซึ่งในเรื่องนั้นพระเอกของเราชื่นชอบผีเสื้อมากๆ และมีความสนใจในผีเสื้อ
จนถึงขั้นสักที่ต้นคอเป็นรูปผีเสื้อเลยทีเดียว นอกจากความชื่นชอบแล้วนั้น นางเอกของเรามีชื่อว่า นาบี ซึ่งนาบีในภาษาเกาหลี มีความหมายว่า “ผีเสื้อ” นอกจากความชื่นชอบและชื่อของตัวละครแล้ว ตามนัยยะเชิงสัญลักษณ์นั้น ผีเสื้อมีความหมายได้หลากหลายรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็นเชิงทางการแพทย์ ที่มีความหมายถึงการเยียวยา อย่างเรื่อง It’s okay to not be okay อย่างท่า Butterfly Hug แล้วนั้น สำหรับเรื่องนี้คำว่า ผีเสื้อ มักสื่อไปทางอารมณ์และความรู้สึก อย่างใน EP แรก นาบี ได้พูดกับพระเอกว่า “ความสุขก็เป็นเหมือนกับผีเสื้อ เมื่อไหร่ที่เราพยายามไล่จับ มันจะหนีไปเสมอ แต่เมื่อไหร่ที่นั่งอยู่เงียบๆ มันจะมาเกาะที่ไหล่ของเราเอง”

เหตุผลและข้อคิด Nevertheless

นอกจากความสุขแล้วนั้น ผีเสื้อก็คงไม่ต่างจากความรัก ยิ่งเราเข้าใกล้มันมากเท่าไร มันยิ่งออกห่างมากเท่านั้น หรือแม้กระทั่ง การที่เราได้ครอบครองผีเสื้อแสนสวนไว้กับตัว สุดท้ายแล้วเราก็จะได้แต่เชยชมมัน แต่ตัวผีเสื้อนั้น ไม่ได้มีความสุขแต่อย่างใด เพราะความสุขของมันคืออิสระที่จะโบยบิน นอกจากนั้นผีเสื้อยังสื่อถึงความสวยงามของการเจริญเติบโต ที่เราต้องผ่านความเจ็บปวด ก่อนถึงจะโบยบินได้อย่างอิสระ เปรียบเสมือนผีเสื้อที่กว่าจะสยายปีกที่สวยงาม พร้อมโบยบินอย่างอิสระนั้น มันจะต้องผ่านช่วงเวลาการเติบโตตามช่วงเวลาของมันก่อน

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม มันจะรู้เองว่านี่แหละคือเวลาที่รอคอย เปรียบกับมนุษย์ที่ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ แต่เป็นการเติบโตที่เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม เราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และรู้สึกคุ้มค่ากับช่วงเวลาที่ผ่านมา

 

ข้อที่ 2: บางครั้งความรักเหมือนยาเสพติด รู้ว่าไม่ดีแต่ขอแค่ได้สัมผัสและหยิบยืมความสุขชั่วคราวก่อน

เหตุผลและข้อคิด Nevertheless

ในบางครั้ง ความรักไม่ได้เปรียบเสมือนแสงสว่าง หรือ สายน้ำที่ช่วยเยียวจิตใจเพียงอย่างเดียว แต่บางครั้งความรักก็เปรียบเสมือนยาเสพติด ที่รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ดี มีผลและโทษต่อร่างกาย แต่ก็ขอให้ได้ลิ่มลองเพื่อหยิบยืมความสุขชั่วขณะนึงเสียก่อน และซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เรารู้ได้อย่างเห็นได้ชัดว่า “ความรัก ก็คือยาเสพติด” ดีๆ นั่นเอง

ซึ่งในเรื่องนี้เห็นได้ชัดว่านาบีรูั้ทั้งรู้ว่าถึงแม้จะอยู่ในสถานะนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไร ก็ไม่ได้ใจของแจออน แต่ก็เลือกที่จะอยู่ เพราะเมื่อเวลาอยู่กับเขา มันทำให้เธอมีความสุข ถึงแม้ Effect หลังจากนั้นจะเป็นทุกข์ก็ตาม

แต่ในทางจิตวิทยา อาการของคนมีความรักสมองจะหลั่งสารเคมีตัวนึงออกมานั่นก็คือ โดปามีน
ที่จะทำให้เรามีความสุข หรือรู้สึกล่องลอย ในบางครั้งก็รู้สึกใจสั่นด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับ ที่เราเสพยาเสพติดที่มีฤทธิ์กล่องประสาท นั่นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเวลาเรามีความรัก เราถึงมีความสุข แต่เมื่ออกหัก ก็ไม่ต่างจากคนขาดยาหรือกำลังลงแดง

 

ข้อที่ 3: ความรักและความสัมพันธ์มีหลายรูปแบบ

เหตุผลและข้อคิด Nevertheless

บอกเลยว่าในซีรีส์เรื่องนี้จะสะท้อนแง่มุมของความรักในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น รักที่มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน รักที่เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน รักแบบเฟรนด์โซน รู้สึกเสี่ยงทุกครั้งที่คิดจะก้าวข้าม หรือแม้กระทั่ง รักที่ไม่เคยหวังผลตอบแทน และท้ายที่สุด FWB หรือ Friend with Benefits ก็มี ซึ่งความรักเหล่านี้เราสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น

 

ข้อที่ 4: กลับกันความสัมพันธ์ที่ Toxic ก็มีหลากหลายรูปแบบด้วยเช่นกัน

เหตุผลและข้อคิด Nevertheless

ใครว่าเมื่อมีความรักจะมีแต่เรื่องที่ดีเสมอไป นอกจากความหลากหลายในแง่ความสัมพันธ์แล้วนั้น ความรักแบบ Toxic ก็มีหลากหลายเช่นกัน ถ้าให้ยกตัวอย่างง่ายๆ คงขอยกความรักกับรุ่นพี่คนเก่าของนาบี นาบีไม่เคยได้เป็นตัวของตัวเองเลยซักครั้งเวลาที่อยู่กับแฟนเก่า เธอมักจะตามใจและยินดีกับความสุขของเขาเสมอ จนเธอละเลยความรู้สึกและความต้องการของตนเองอยู่บ่อยครั้ง

และเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกว่าถึงจุดแตกหักเลยคือ การถูกลดทอนคุณค่าและเกียรติของตนเอง โดยการที่รุ่นพี่นำตัวในท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมของเธอไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งไม่เคยแม้จะขออนุญาตเธอ ไม่เพียงแค่นั้นยังนอกใจเธออีกด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนกัดกินหัวใจของเธอไปเรื่อยๆ จนในที่สุดมันเกินจะรับไหว

และความสัมพันธ์ที่ Toxic อีกแบบนึง ก็หนีไม่พ้นความสัมพันธ์ของนาบีและแจออน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์แบบหน่วงๆ จะสุขก็สุขไม่สุด จะทุกข์ก็ทุกข์ไม่สุด ไม่รู้ขอบเขต ไม่มีสถานะ ไม่มีสิทธิเรียกร้อง เป็นความสัมพันธ์ในแบบที่มองไม่เห็นปลายทาง แต่ก็ออกมาจากที่ตรงนั้นไม่ได้ ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้ ยากที่จะถอนและบ่อนทอนความรู้สึกไม่ต่างกัน

 

ข้อที่ 5: ความรักไม่ใช่เรื่องของเหตุแลผล ความรักคือความรู้สึก ที่ควรมีเหตุและผลมาซัพพอร์ตบ้างในบางครั้ง

เหตุผลและข้อคิด Nevertheless

และข้อสุดท้ายบอกเลยว่า เป็นข้อที่คนดูหลากหลายคนที่เป็นทีมน้องก๋วยเตี๋ยว มักบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “คนดีๆ ทำไมไม่รัก” แต่นี่แหละคือเรื่องจริง ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ทำแง่มุมนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี ความรักไม่ใช่รางวัลตอบแทนความดี ความรักไม่ได้ใช้เหตุผลมาตัดสินว่าเขาดีเราจึงรัก
แต่ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ในบางครั้งเมื่อมันเริ่มดำเนินไปแล้ว เราอาจจะต้องใช้เหตุและผลมาช่วยซัพพอร์ตบ้าง เพื่อไม่ให้ใจเจ็บไปมากกว่าเดิม

ยกตัวอย่างง่ายๆ ในชีวิตจริงของคนเรา ถึงแม้มีคนที่ดีทุกอย่าง พร้อมมอบหัวใจให้คุณทุกอย่าง ก็ใช่ว่าคุณจะรักเขาคนนั้นได้เสียที่ไหน ความรักเริ่มต้นที่แรงดึงดูด ความรู้สึกที่มีให้กัน เหมือนแม่เหล็ก มันจะโชคดีมากหากแรงดึงดูดนั้นเกิดขึ้นกับคนดีที่อยู่ตรงหน้า แต่ในบางครั้งความรักก็ไม่ได้ออกแบบได้เสมอไป เรากำหนดไม่ได้หรอกว่าเราจะรักหรือไม่รักใคร ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ณ ตอนนั้นต่างหาก

 

Photo Credit:

Comments

comments