สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน หากใครที่เติบโตมาในยุค 90’s เหมือนนักเขียน จะต้องรู้จักการ์ตูนที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดกาตูนร์ในตำนาน อีกทั้งยังเป็นการ์ตูนแห่งชาติญี่ปุ่นอีกด้วย
และนี่ก็คือ “Crayon Shinchan” หรือ “ชินจังจอมแก่น” แต่ทว่าสาวๆ รู้ไหมคะว่านอกจากความตลก ทะลึ่งตึงตังที่เราจะสัมผัสได้จากชินจังแล้วนั้น การ์ตูนเรื่องยี้แฝงข้อคิดที่ใช้ในชีวิตเราได้อีกด้วยกับ “ตามดู ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ 10 ข้อ” ใครบอกว่าดูการ์ตูนอย่างชินจังแล้วไม่ได้อะไร ! งั้นอย่ารอช้าไปเริ่มที่เรื่องแรกกันเลย

 

  ใครว่าดูชินจังไม่ได้อะไร “ตามดู ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ 10 ข้อ”  

 

ข้อที่ 1: ครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุด

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ
ในชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ ข้อแรกๆ และเราแทบจะเห็นได้ชัดกับประเด็นหรือสิ่งที่การ์ตูนเรื่องนี้มักสื่อให้เราเสมอ นั่นก็คือ ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เรียกได้ว่าการ์ตูนอย่างชินจังนั้น เป็นการ์ตูนที่ชูสถานบันครอบครัว และทำให้เรารู้จักความสุขที่ได้รับง่ายๆ จากครอบครัว เราจะเห็นได้จากหลายๆ ตอนในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นตอนที่มิซาเอะท้องฮิมาวาริ และกำลังเดินกลับบ้าน บังเอิญเจอฮิโรชิ ซึ่งในกระเป๋าของฮิโรชินั้นมีบุหรี่อยู่ เขาตัดสินใจ ทิ้งบุหรี่และเลิกบุหรี่ในทันที ยังมีตอนที่มิซาเอะทำเงินเดือนของสามีทั้งเดือนหาย ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็หาไม่เจอ เมื่อฮิโรชิกลับมาถึงบ้าน มิซาเอะสารภาพกับความผิดที่เกิดขึ้น สิ่งที่ฮิโรชิตอบเธอไปนั้นคือ “แค่มิซาเอะกับชินโนะสุเกะปลอดภัยก็โอเคแล้ว เงินเดือนหน่ะ ผมหาให้ใหม่ก็ได้”

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ
แต่ที่เราซึ้งและรู้สึกชอบมากๆ เลยคือหนีไม่พ้นตอน ชินจังจอมแก่น EP10 ตอน ตลาดนัดโรงเรียนอนุบาล (คลิกเพื่อชม) ในช่อง Pop Kids Channel เป็นตอนที่มิซาเอะต้องร่วมงานตลาดนัดผู้ปกครอง เธอตั้งใจถักผ้าพันคอไหมพรมที่เธอไม่ถนัดไปวางขาย แต่ทว่าขายยังไงก็ไม่ออก จนเธอขอตัวไปทำอย่างอื่นและฝากร้านไว้กับเพื่อนๆ แม่บ้าน และเมื่อกลับมาผ้าพันคอของเธอขายได้ สุดท้ายก็ไปรู้ว่า ฮิโรชิเป็นคนมาแอบซื้อไป เพราะเห็นความตั้งใจของภรรยาของเขา และยังมีตอนความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวโนฮาระและชีโร่อีกมากมาย เอาเป็นว่าเราจะได้เห็นความสุขที่ได้จากครอบครัวชัดมากในการ์ตูนเรื่องนี้

 

ข้อที่ 2: เพื่อนต้องร่วมทุกข์และสุขด้วยกันได้

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ อีกข้อที่เห็นได้ชัดนอกจากเรื่องสถาบันครอบครัว คงหนีไม่พ้นเรื่องมิตรภาพที่ให้กัน บ่อยครั้งเราจะเห็นเจ้าเด็กแก๊งอนุบาลฟุตาบะที่เที่ยวเล่นไปวันๆ นั้น แต่ความจริงแล้ว นอกจากการที่เที่ยวเล่นกันอย่างสนุกสนานแล้ว พวกเขายังมีเรื่องที่คอยช่วยเหลือกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยมาซาโอะจากการถูกเด็กเกเรรังแก การช่วยเพื่อนๆ หาของที่หาย การช่วยชินจังตามหาชีโร่

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

และตอนที่เราชอบมากที่สุดคงมาจากฉากที่ในเรื่อง ชินจัง เดอะ มูฟวี่ ตอน ผจญภัยต่างแดนกับสงครามกระบองเพชรยักษ์ ซึ่งเป็นฉากที่ครอบครัวโนฮาระจะต้องย้ายไปอยู่ประเทศเม็กซิโก เลยทำให้ชินจังจะต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อย้ายตามครอบครัว เพื่อนๆ ในชั้นทุกคนก็ล้วนแต่อวยพรและบอกลาชินจังกัน แต่ทว่าคาซ่าคุง เพื่อนคนสนิทของชินจัง ที่ปากแข็งและไม่รู้สึกอะไรกับการที่ชินจังไม่อยู่ จนสุดท้าย เขาเป็นคนเดียวที่เศร้ามากที่สุดจนไม่อยากมาส่งชินจัง แต่สุดท้ายก็ตามมาส่งจนลับสายตาไป (ร้องไห้เลยฉากนี้)

 

ข้อที่ 3: แม่เป็นอาชีพที่ไม่มีพักร้อน และลาออกไม่ได้

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

ในเรื่องชินจังจอมแก่นนั้น นอกจากชินจังแล้ว อีกตัวละครหนึ่งหลักๆ ที่เราจะคุ้นหน้าคุ้นตาและเห็นเธออยู่บ่อยๆ คนหนีไม่พ้นมิซาเอะ บอกเลยว่าเธอถูกโหวตให้เป็นคุณแม่ในดวงใจของคนญี่ปุ่น เพราะเธอเป็นแม่บ้านแบบ Full Time 24 ชั่วโมงไม่มีวันพักแม้กระทั่งวันหยุดเสาร์อาทิตย์ สิ่งที่ทำให้เราเห็นได้ชัดในข้อนี้

คือ ในชินจัง ตอนที่ฉายให้เห็นชีวิตของมิซาเอะใน 1 วันเธอจะตื่นเช้าในเวลาประมาณ 7 โมง ทุกวัน เพื่อเปิดผ้าม่านรับแสงอาทิตย์ เก็บข้าวของ ทำกับข้าวให้สามีกับลูก ปลุกสามีและชินจังมาทานอาหาร จับชินจังแต่งตัว เอานมให้ฮิมะจัง วันไหนที่พาชินจังขึ้นรถไม่ทันก็ต้องปั่นจักรยานไปส่งที่โรงเรียน กลับมาเริ่มทำงานบ้าน และอื่นๆ อีก เรียกได้ว่า เธอเป็นเหมือน สุดยอดคุณแม่ ที่ทำทุกอย่างในบ้าน และทุกวันโดยไม่มีวันพักผ่อนจริงๆ

 

ข้อที่ 4: การเป็นคนคิดบวก อารมณ์ดี ช่วยทำให้สถานการณ์ตึงเครียดคลี่คลายลงได้

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

ข้อนี้หากเรามองผิวเผินเราก็อาจจะคิดว่า เอ่ย มันโผล่ข้อคิดแบบนี้มายังไงกันนะ เอาละ หลายๆ ครั้งในเรื่องชินจังที่เราจะเห็นว่ามีปัญหาต่างๆ มากมายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ทะเลาะกัน เพื่อนถูกรังแก ถูกเด็กอันธพาลมาแกล้ง แต่สุดท้ายเรื่องราวขุ่นมัวหรือปัญหาเหล่านี้ก็หมดไปเพราะชินจัง เหตุผลหลักๆ และง่ายๆ คือ ไม่ใช่เพราะชินจังเป็นเด็กกวนโอ๊ยโดยปกติ (อันนั้นก็ใช่) แต่ทว่าชินจังเป็นเด็กอารมณ์ดี มองโลกทุกอย่างในแง่ดี อย่างตอนที่เขาถูกเด็กต่างห้องแกล้งหรือดูถูก ตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกกลัวหรืออะไร กลับมองเรื่องสิ่งที่เจอคือการแข่งขัน และก็ใช้ชีวิตปกติ

 

ข้อที่ 5: อาชีพงานบริการไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

อันนี้เราจะเห็นได้ชัดในประเทศโซนเอชียและโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ที่เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่การบริการดีเป็นเลิศ พนักงานต้อนรับหรือให้บริการทุกคนอ่อนน้อมและให้ความเคารพลูกค้าอย่างเราๆ มาก ดังนั้นการเจอลูกค้ากวนๆ และนิสัยไม่น่ารักก็มักต้องมี อย่างเจ้าชินจังเป็นต้น ทำให้จะต้องรับมือกับลูกค้า ประเภทนี้ลำบาก จนบางทีสิ่งที่ทำได้อาจจะแค่คิดในใจ เพียงเท่านั้น ดังนั้นสำหรับเราแล้ว งานบริการก็ยากและลำบากไม่ต่างกับอาชีพอื่นๆ ดังนั้นเราออาจจะต้องเข้าใจและปฏิบัติต่อพวกเขาดีๆ ด้วยเช่นกัน

 

ข้อที่ 6: อย่าตัดสินคนที่ภายนอก

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งข้อที่คนดูชินจังอาจจะรู้จักและสังเกตกันได้ จาก คุณครูหัวหน้าแก๊งค์ หรือคุณครูใหญ่แห่งอนุบาลฟุตาบะ เป็นตัวละครหลักที่ทำให้เราเข้าใจความหมายของข้อนี้เป็นที่สุด ด้วยบุคลิกภายนอกที่ดูสูง ใหญ่ หน้าตาดุดัน แต่งตัวด้วยเสื้อสูทลายทาง (เหมือนหัวหน้ายากุซ่า) และก็ชอบใส่แว่นดำ ทำให้ใครหลายคนคิดว่าเขาไม่ใช่อาจารย์แต่เป็นยากูซ่า แท้ที่จริงแล้วคุณครูหัวหน้าแก๊งค์นั้น จิตใจดี อ่อนโยน และ รักเด็กๆ มากเลยทีเดียว

 

ข้อที่ 7: การสร้างเสริมประสบการณ์ลูกที่ดี คือการไว้ใจและมอบหมายหน้าที่ให้เขาลงมือทำเอง

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

เราจะเห็นข้อนี้ได้ชัด จากการที่มิซาเอะให้ชินจังลงมือทำอะไรด้วยตัวคนเดียว หากเราลองเอามาเปรียบเทียบกับลูกชาวไทย เรามั่นใจว่า 5 ขวบนั้น เราอาจจะยังไม่ไว้ใจให้เขาลงมือทำอะไรด้วยตัวเอง แต่ทว่ามิซาเอะ กลับสอนลูกด้วยการให้เขาทำอะไรด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นใช้ไปซื้อของ หากจะเลี้ยงหมาต้องพาไปเดินเล่น ทำกล่องของเล่นและคัดเลือกของเล่นที่ตัวเองไม่เอาด้วยตัวเอง ช่วยรดน้ำต้นไม้ และอื่นๆ อีกมากมาย และสิ่งเหล่านี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นการฝึกประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กที่ดีเลยก็ว่าได้

 

ข้อที่ 8: การสะท้อนปัญหาการกลั่นแกล้งในโรงเรียน

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

เรื่องชินจังนั้นมองผิวเผินอาจคิดว่าเป็นการ์ตูนตลก แต่เอาเข้าจริงๆ ชินจัง มีข้อคิดดีๆ ในเรื่องการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการรังแกและกลั่นแกล้งในโรงเรียนตั้งแต่แรกเริ่ม เราจะเห็นได้ชัดจากการที่เด็กห้องกุหลาบ ชอบทำตัวอวดดีหรือแกล้งมาซาโอะ หรือสมาชิกห้องทานตะวันบ่อยๆ
หรือเป็นกลุ่มเด็กประถมที่ชอบมาแกล้งเด็กๆ ในกลุ่มชินจังกับเรื่องการแย่ที่เล่นกัน ซึ่งจริงๆ ปัญหาเหล่านี้ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทางญี่ปุ่นก็เล็งเห็นถึงความสำคัญและตระหนักรับรู้มาโดยตลอด

 

ข้อที่ 9: ชีวิตเราตึงไปก็ไม่ได้ สบายๆ บ้างก็ได้

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

ในข้อนี้เราเห็นและสังเกตได้จาก ชินจังจอมแก่น EP107 ตอน วันหยุดหน้าร้อนของคาซาม่าคุงเขาหล่ะ (คลิกเพื่อรับชม) เป็นตอนที่คาซาม่าคุง กำลังขยันขันแข็งกับการทำตัว Productive ในวันหยุดพักร้อน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายในตอนเช้า ไปอ่านหนังสือ ติวหนังสือ เรียนพิเศษ
และอื่นๆ อีกมากมาย

เขาวางระเบียบและแบบแผนทุกอย่างเอาไว้หมด โดยเขามองว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เขาโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และสอบเข้าโรงเรียนประถมชื่อดังได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ทว่าบางครั้งคาซาม่าก็ตึงจนเกินไป ไม่มีช่วงพักผ่อนให้ตนเองเสียเท่าไร จนชินจังไปป่วนและไม่ได้ทำตามแพลนของตนเองนั่นแหละ จึงรู้ว่าการเล่นกับเพื่อน ก็เป็นความสุขในรูปแบบหนึ่งเช่นกัน

 

ข้อที่ 10: คนเราจะแข็งแกร่งขึ้นได้ ต้องรู้จักการเผชิญหน้ากับปัญหา

ชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ

และชินจังจอมแก่น ข้อคิดดีๆ ข้อสุดท้าย ก็คงหนีไม่พ้นการเผชิญกับปัญหาที่อยู่ตรง เราจะเห็นข้อนี้ได้จากชินจังจอนแก่นเดอะ มูฟวี่อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเจอปัญหาใดๆ เรื่องแปลกๆ ใด บ้านโนฮาระ และ เพื่อนๆ ของชินจังไม่เคยหวั่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้เขาจะเป็นเด็กตัวเล็กๆ แต่เขาก็เชื่อว่าการร่วมพลังกัน และเผชิญหน้ากับปัญหา คือการแก้ไขและทำให้เราแข็งแกร่งได้มากที่สุด

 

สุดท้ายหากใครสนใจอยากดูชินจังและรับข้อคิดต่างๆ ไปพร้อมกับความสนุกก็สามารถรับชม Pop Kids Thailand หรือ LINE TV ได้เลยค่า ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตรงนี้ พบกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายค่า 

Comments

comments