สิว สิว สิว ปัญหาสิวเป็นปัญหาสุดกวนใจและน่ารำคาญสุด ๆ แถมยังขึ้นได้ทั่วใบหน้าและร่างกาย ทั้งจากสิ่งสกปรกอุดตัน และปัญหาเรื่องฮอร์โมน ทำให้ซิสต้องหาวิธีรักษา และทำให้มันหายไปด่วน ๆ แต่หนึ่งวิธีที่สาว ๆ หลายคนคิดว่าง่าย และตัดรำคาญได้ดีที่สุด แถมยังสะใจด้วย คือ การบีบสิว แต่การบีบสิวเนี่ย อันตรายกว่าที่คิดนะ มาดูกันดีกว่าว่า 4 จุด ห้ามบีบสิวตรงไหน บีบแล้วอันตรายขนาดไหน บอกเลยเรื่องใหญ่กว่าที่คิด
4 จุด ห้ามบีบสิวตรงไหน ติดเชื้อเรื่องใหญ่ อันตรายมาก!
การบีบสิว ไม่ใช่แค่ทำให้เกิดแผล เกิดการอักเสบ หรือรอยดำที่รักษายากเท่านั้นนะคะซิส แต่ในบางบริเวณ การบีบสิวอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ บางทีเชื้อขึ้นสมอง อันตรายขั้นโคม่า จนถึงเสียชีวิตเลยนะ ดังนั้น อย่าคิดว่า การบีบสิวเป็นเรื่องเล็ก ๆ เพราะมันไม่เล็กเลยจ้า ว่าแต่บริเวณไหนที่เราไม่ควรบีบสิวบ้าง มาดูกัน
ห้ามบีบสิวตรงไหนบ้าง
1. บริเวณรอบดวงตา – อย่างที่ทราบกันว่า ดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางมาก เพราะทำหน้าที่รับภาพ ด้านในของดวงตานั้นบอบบางและติดเชื้อได้ง่ายมาก อีกทั้งบริเวณรอบดวงตามีเส้นประสาทและหลอดเลือดมากมาย การบีบสิวบริเวณรอบดวงตา อาจทำให้ประสาทการรับรู้เสียหาย หรือเชื้อแบคทีเรียจากสิวอาจจะเข้าสู่กระแสเลือดที่ส่งไปยังสมองได้ บอกเลยว่าอันตรายมาก ๆ
2. บริเวณรอบจมูก – เคยมีข่าวน่ากลัวว่า การบีบสิวปลายจมูก เสี่ยงติดเชื้อในสมองได้เลย จริงหรือเปล่า คำตอบคือจริงค่ะ รศ. นพ. นภดล นพคุณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ให้ข้อมูลว่า ถ้าติดเชื้อบริวณรอบจมูก ซึ่งมีเยื่อบุต่อเนื่องเข้าไปกายในโพรงจมูกมีหลอดเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก หลอดเลือดดังกล่าวมีผลต่อดวงตา และสมองได้ ดังนั้นถ้าบีบสิวบริเวณจมูก แล้วการอักเสบหรือติดเชื้อ จึงอาจเกิดการแพร่กระจายเชื้อเข้าสู่ร่างกายตามหลอดเลือด และอาจเข้าไปสู่เนื้อเยื่อโพรงจมูกส่วนลึก และสมองได้ อันนี้จริงจัง น่ากลัวนะเนี่ย
3. บริเวณรอบปาก – จริง ๆ บริเวณรอบจมูกและรอบปาก ถือว่าเป็นจุด “สามเหลี่ยมอันตราย” เคยมีข่าวว่า ชายชาวจีนบีบสิวบริเวณริมฝีปากล่าง และติดเชื้ออย่างรุนแรง จนเกือบเสียชีวิต เพราะบริเวณริมฝีปากนั้น รวมถึงจมูกนั้น เต็มไปด้วยเส้นเลือด ที่จะส่งตรงไปยังสมองส่วนหลัง หากบริเวณนี้ติดเชื้อ จะลุกลามและอันตรายมาก ๆ เคยมีเคสแรง ๆ อย่าง สูญเสียการมองเห็น เป็นอัมพาต หรือถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว
4. บริเวณกลางหน้าผาก – หากเป็นสิวอักเสบบริเวณนี้ห้ามบีบเด็ดขาด เพราะบริเวณกลางหน้าผากเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาท และมีเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังสมองอยู่บริเวณนี้ หากสิวอักเสบและติดเชื้อ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดไปยังสมองได้ อันตรายเช่นกัน
ถ้าไม่บีบสิว รักษายังไงดี
แพทย์แนะนำว่า ไม่ควรบีบสิวในทุกกรณี เพราะอาจทำให้ชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายเข้าสู่สมอง นอกจากนี้ก็ยังไม่ควรบีบสิวเม็ดเล็ก เพราะอาจทำให้กิดการอักเสบ เป็นแผล และเกิดแผลเป็นได้ง่าย ดังนั้น วิธีที่เหมาะสมที่สุดในการรักษาสิวคือ
1. ทายา โดยเน้นยากลุ่มวิตามินเอ และกรดวิตามินเอ หรือใช้ยาแต้มสิวจนกว่าสิวจะยุบ
2. รักษาความสะอาดของผิวให้ดี เพราะถ้าใบหน้าสะอาด ก็จะไม่เกิดสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุม ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ก็จะช่วยรักษาสิว และป้องกันการเกิดสิวไปในตัว
3. ถ้าต้องเจาะ หรือกดสิว ห้ามทำเอง ต้องไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ หรือให้แพทย์เจาะ – กดสิวให้ จะได้ไม่เสี่ยงในการติดเชื้อ อีกทั้งเครื่องมือยังได้มาตรฐาน และสะอาดกว่าด้วย
Clubsister Recommend
อะ ในเมื่อบีบสิวไม่ได้ ก็ต้องหายาแต้มสิว ที่ช่วยให้สิวยุบ โดยที่ไม่ต้องไปบีบให้อันตราย มียาแต้มสิวตัวไหนที่ซิสอยากบอกต่อบ้าง มาดูกันค่ะ
Hiruscar Anti-Acne Spot Gel (4 กรัม 155 บาท) เจลแต้มสิวตัวนี้ มีดีทั้งช่วยรักษาสิว และลดรอยดำที่เกิดจากสิวด้วยนะ เหมาะกับสิวอักเสบและสิวอุดตัน ตัวนี้เภสัชกรแนะนำเลยจ้า
Smooth E Acne Hydrogel Plus (10 กรัม 240 บาท) ตัวนี้เด่นมากเรื่องลดการอักเสบของสิว ประเภทสิวที่ปวด ๆ ไม่มีหัว ทำท่าจะอักเสบ แต้มได้เลย ยุบแน่นอน แถมยังทาต่อเนื่องได้ โดยไม่ทำร้ายผิวด้วย
Mario Badescu Buffering Lotion (29 มิลลิลิตร 730 บาท) โลชั่นแต้มสิวตัวนี้เป็นสูตรพิเศษ ที่ทั้งช่วยรักษาสิว และบำรุงผิว แต้มไปเลยได้ทุกสิว เพราะมีส่วนผสมของวิตามินบี กรดอะมิโน และสารสกัดจากสมุนไพรที่จะช่วยฆ่าเชื้อสิวที่ฝังลึกอยู่ใต้ชั้นผิว ขวดใหญ่จุใจไปเลย
เห็นได้ว่า จุดที่ห้ามบีบสิวนี่แทบจะทั้งหน้าเลยนะคะซิส ที่อันตราย ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ อย่ามือซนไปบีบสิวเลยดีกว่า รักษาสิวให้ถูกวิธี ผิวจะได้สวย ๆ ไม่เสี่ยงติดเชื้อ แถมยังไม่มีรอยสิวมากวนใจอีกด้วยนะ
Credit Information from chulalongkornhospital.go.th, www.matichon.co.th, www.voicetv.co.th
Credit Pictures from smooth-e.com, www.sephora.co.th, freepik, Twitter : koakakoala
Stay connected