สาวๆ เคยเป็นมั้ย เพิ่งสระผมเมื่อคืนนี้เอง ผ่านไปครึ่งวัน ผมมีกลิ่น หนังศีรษะมัน ส่งกลิ่นโชยออกมา แถมคันอีกตะหาก ตกเย็นไปกินข้าวกับแฟน บางทีแฟนก็ชอบเข้ามาหอมผม เล่นผม ดมหัว เลยจำเป็นต้องเลี่ยง เพราะกลัวเค้าจะได้กลิ่นเหม็น รู้สึกความไม่มั่นใจเอามากๆ กอ ไก่ล้านตัว ทำไมล่ะ! หรือว่าอาจเป็นเพราะแชมพูที่เราใช้มันไม่เวิร์ค แต่ก็เปลื่ยนมาหลายยี่ห้อแล้วนะ ยาสระผมแก้หัวเหม็น ทั้งสูตรบำรุง และสูตรธรรมชาติก็แล้ว ปัญหาหัวเหม็นก็ไม่หายซักที
หัวเหม็น ศีรษะเหม็น ผมมีกลิ่น ผมเหม็นอับ เกิดจากหนังศีรษะสกปรก
สาเหตุที่หนังศีรษะ หัวมีกลิ่นเหม็น หรือกลิ่นแปลกๆ ก็เพราะหนังศีรษะของเราผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากเกินไป ทำให้เป็นอาหารของแบคทีเรีย เกิดเชื้อราสะสม หัวเหม็น หนังศีรษะเกิดเชื้อรา คัน รังแค แถมผมร่วง แต่บางคนก็ไม่มีกลิ่นนะ อาจมีอาการคันหนังศีรษะร่วมด้วย เชื้อราที่ลงลึกไปถึงรูขุมขนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการคัน จนทำให้ผมร่วงได้ สาวๆต้องระวังจ้ะ
ทำไมหนังศีรษะมันเยิ้ม หนังหัวมันง่ายจัง
- ไม่ชอบสระผม
- ใช้ครีมนวดบ่อยเกินไป
- พันธุ์กรรม
- อากาศร้อน เหงื่อออกมาก
- เครียด
- ฝุ่น ควัน มลพิษ
7 เคล็ดลับธรรมชาติ เสกให้ “หัวเหม็น เป็นหัวหอมฟุ้ง” จนแฟนดมต้องติดใจ
- ทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil)
- น้ำมะนาวสด (Lemon)
- น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น (Cold Pressed Garlic Oil)
- น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล หรือแอปเปิ้ลไซเดอร์ ( Apple Cider Vinger)
- น้ำมะเขือเทศคั้นสด (Tomato Juice)
- เบกกิ้งโซดา (Baking Soda)
- ใช้ครีมนวดให้น้อยที่สุด
1.ทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil)
ทำไมวิธีนี้ถึงได้ผล
กลิ่นหอมของทีทรีออยล์จะทำให้หนังศีรษะของสาวๆมีกลิ่นสดชื่น แถมออกฤทธิ์ยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย ช่วยฆ่าเชื้อโรค และรักษาแผลบนหนังศรีษะที่เราเกาจนเป็นแผล
เรามาเริ่มกันเลย!!!
ส่วนผสมที่ต้องมี
- ทีทรีออยล์ประมาณ 6 หยด
- โจโจ้บาออยล์ หรือ น้ำมันอัลมอนด์ 1-2 ช้อนโต๊ะ
3 ขั้นตอนที่ต้องทำ
- ผสมน้ำมันหอมระเหย + โจโจ้บาออยล์ หรือน้ำมันอัลมอนด์ คนให้เข้าด้วยกัน
- ค่อยๆชโลมลงบนหนังศีรษะ และส่วนผสมให้โดนเส้นเพียงเล็กน้อย
- หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก
ควรทำบ่อยแค่ไหน
แนะนำให้หมักทุกครั้ง หลังสระผมจ้ะ
2. น้ำมะนาวสด (Lemon Juice)
ทำไมวิธีนี้ถึงได้ผล
น้ำมะนาวจะช่วยฆ่าเชื้อโรคบนหนังศีรษะ สาเหตุที่ทำให้เกิดรังแค ทำให้เส้นผมสะอาด สดชื่น เหมาะมากกับสาวๆที่ปัญหาผมมันง่าย มีกลิ่นอับ
ส่วนผสมที่ต้องมี
- น้ำมะนาวสด 2 ช้อนชา
- น้ำอุ่น 1-2 ถ้วย
5 ขั้นตอนที่ต้องทำ
- ผสมน้ำมะนาวสด และน้ำอุ่นคนให้เข้ากัน เตรียมไว้รอขั้นตอนต่อไปจ้ะ
- ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะด้วยแชมพูเด็ก หรือยาสระผมสูตรอ่อนโยน ยังไม่ต้องเช็ดให้แห้งนะจ้ะ
- ใช้น้ำมะนาวสด + น้ำอุ่น ที่เตรียมไว้ล้างผมอีกครั้ง
- หมักไว้ประมาณ 3 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นอันว่าเสร็จในขั้นตอนสุดท้าย
ควรทำบ่อยแค่ไหน
อาทิตย์ละ 2 ครั้งก็พอจ้ะ
3. น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น (Cold Pressed Garlic Oil)
** วิธีนี้อาจทำให้ระคายเคืองหนังศีรษะ ควรทดสอบกับผิวหนังก่อนทำ
ทำไมวิธีนี้ถึงได้ผล
กระเทียม อุดมด้วยแร่ธาตุบำรุงเส้นผม เช่น ทองแดง เหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม วิตามินเอและซี แร่ธาตุเหล่านี้ประโยชน์มากต่อเส้นผมและหนังศีรษะของสาวๆช่วยให้ผมสวย เงางาม หนังศีรษะแข็งแรง รักษารูขุมขน กระตุ้นให้เกิดการงอกใหม่ของเส้นผม เหมาะสำหรับสาวๆที่มีปัญหาผมร่วงง่าย และต้องการเร่งให้ผมยาวเร็วขึ้น
ส่วนผสมที่ต้องมี
- น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
4 ขั้นตอนที่ต้องทำ
- ผสมน้ำมันกระเทียมสกัดเย็น + น้ำมันมะพร้าว คนให้เข้ากัน
- ชโลมผมโดยเริ่มจากโคนสู่ปลาย นวดด้วยปลายนิ้วเบาๆ
- หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- ล้างผมให้สะอาดด้วยแชมพูเด็ก หรือยาสระผมสูตรอ่อนโยน
ควรทำบ่อยแค่ไหน
ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็เห็นผลแล้วจ้ะ
4.น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล หรือแอปเปิ้ลไซเดอร์ ( Apple Cider Vinger)
ทำไมวิธีนี้ถึงได้ผล
แร่ธาตุในแอปเปิ้ลไซเดอร์ จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ฆ่าเชื้อ แก้อาการคัน กำจัดรังแค แก้ปัญหาผมร่วง ช่วยให้ผมสวย นุ่ม เงางาม
ส่วนผสมที่ต้องมี
- แอปเปิ้ลไซเดอร์ ½ ถ้วย
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
4 ขั้นตอนที่ต้องทำ
- ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ + น้ำเปล่าให้เข้ากัน เตรียมทิ้งไว้ รอขั้นตอนต่อไป
- ทำความสะอาดผม ด้วยแชมพูเด็ก หรือยาสระผมสูตรอ่อนโยน
- ขั้นตอนสุดท้าย ใช้ส่วนผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่เตรียมไว้ ล้างผม นวดหนังศีรษะเบาๆ
- ล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
ควรทำบ่อยแค่ไหน
แนะนำให้ทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งก็พอจ้ะ
5.น้ำมะเขือเทศคั้นสด (Tomato Juice)
ทำไมวิธีนี้ถึงได้ผล
กรดวิตามินซีในน้ำมะเขือเทศ มีสรรพคุณช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการคันของหนังศีรษะ แก้ปัญหาผมขาดร่วง ฟื้นฟูผมแห้งเสีย หมดปัญหาหนังศีรษะมัน หัวมีกลิ่น ไปได้เลย
ส่วนผสมที่ต้องมี
- น้ำมะเขือเทศคั้นสด 1 ถ้วย
3 ขั้นตอนง่ายๆ ที่ต้องทำ
- นำน้ำมะเขือเทศชโลมเส้นผม และหนังศรษะให้ทั่ว
- หมักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้สารอาหารซึมเข้าสู่หนังศีรษะ และเส้นผม
- ล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
ควรทำบ่อยแค่ไหน
อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
6.เบกกิ้งโซดา (Baking Soda)
ทำไมวิธีนี้ถึงได้ผล
เบกกิ้งโซดา สามารถขจัดสิ่งตกค้าง สิ่งอุดตันรูขุมขน บนเส้นผม และหนังศีรษะของเราอย่างหมดจด สะอาดเอี่ยมอ่อง ทำหน้าที่บำรุงหนังศรีษะได้ดีกว่าแชมพู และครีมนวดเสียอีกนะ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น นางยังทำให้ผมดูมีเทกซ์เจอร์ ไม่ลีบแบน ทำให้หนังศรีษะมันช้าลง
** แต่ผมอาจจะฟูหน่อยๆ ไม่เป็นไรจ้ะ ใช้น้ำมันมะพร้าวลูบผมเล็กน้อยก็ช่วยได้แล้วล่ะ
ส่วนผสมที่ต้องมี
- เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ ½ ถ้วย
ขั้นตอนที่ต้องทำ
- ผสมเบกกิ้งโซดา + น้ำ คนเข้าด้วยกัน
- ล้าง ทำความสะอาดผมตามปรกติ ด้วยแชมพูเด็ก หรือยาสระผมสูตรอ่อนโยน
- ใช้เบกกิ้งโซดาที่ผสมกับน้ำ ชโลมให้ทั่วหนังศรีษะ
- ล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
ควรทำบ่อยแค่ไหน
อาทิตย์ละ 1 ครั้งก็พอจ้ะ
7.ใช้ครีมนวดให้น้อยที่สุด
ครีมนวดผม หรือ ทรีทเมนท์บำรุงผม ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับเส้นผมเท่านั้นจ้ะ จึงไม่เหมาะกับหนังศีรษะของเราเลยซักนิด ถ้าสาวๆนำมาใช้กับหนังศีรษะ จะยิ่งทำให้หนังศีรษะมันง่ายขึ้น เพราะครีมนวดผมจะทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันรูขุมขน เพิ่มการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย อับชื้น เกิดกลิ่นเหม็นวีคูณ
วิธีใช้ครีมนวดผมหมักผม ให้หัวมันน้อยที่สุด
- ไม่ควรลงครีมนวดผมที่โคนผม
- ควรลงครีมนวดผมตั้งแต่กลางเส้นผมไปจนถึงปลาย
- แนะนำให้ใช้ครีมนวดผม หรือทรีทเม้นท์บำรุงผม เพียงอาทิตย์ละครั้ง เพื่อเส้นผมที่หอม นุ่มสลวย
หัวเหม็น ผมมัน จะป้องกันได้ยังไง
ใช้แชมพูเด็ก หรือยาสระผมสูตรที่อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศรีษะ
ไม่หวีผมบ่อย เพราะว่าการหวีผมจะช่วยกระตุ้นต่อมน้ำมันใต้รูขุมขนให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง
ห้ามขี้เกียจสระผม เราควรสระผมเป็นประจำ อย่าปล่อยให้หนังศีรษะสกปรก จนสะสมเชื้อโรค ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับหนังศรีษะตามมา
ถ้ามีปัญหารังแค คันอักเสบ ควรรีบรักษา หาแพทย์เฉพาะทาง
ใส่หมวก หรือใช้ผ้าคลุมผม หากสาวๆต้องออกนอกบ้าน ไปกินหมูกระทะ ชาบู หรือช็อปปิ้ง ควรหาผ้าคลุมผม หรือหมวกเก๋ๆ สวมไว้ เพื่อปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะสุดรักสุดหวงของเราไม่ให้ฝุ่น คลัน มลพิษ หรือสิ่งสกปรก
อยู่ในที่อากาศถ่ายเท อากาศบ้านเรามันร้อน ดั่งไฟเยอร์ เหงื่อออกง่ายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ควรอยู่ในห้องแอร์นะจ้ะ^^
Stay connected