ชีวิตประจำวันของซิส ทำให้ผิวพังโดยไม่ได้ตั้งใจกันหรือเปล่าเอ่ย เคยคิดไหมคะว่า ทำไมนะ ฉันดูแลผิวดีแทบตาย ทำไมยังโทรม ทำไม่สิวยังขึ้น ทำไมผิวไม่เด้งสักที บางทีสิ่งที่เราทำในชีวิตประจำวันนั่นแหละค่ะ ที่ทำให้ผิวโทรมโดยไม่รู้ตัว ซิสขอเตือนเลยว่า 6 พฤติกรรมทำร้ายผิว เหล่านี้ ถ้าคนไหนเคยทำ ต้องหยุดด่วน ๆ !

พฤติกรรมเหล่านี้ คุณหมอผิง – พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล ผู้เป็น Influencer ด้านสุขภาพ ที่มีผู้ติดตามในทวิตเตอร์มากกว่า 843,000 คน ได้แนะนำไว้ค่ะ ว่าเป็นพฤติกรรมที่จะทำร้ายผิว และทำให้ผิวเสียโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมีเหล่า Follower หลายคนไปสารภาพว่า ได้ทำพฤติกรรมเหล่านี้มาแล้วเกือบหมด เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น เราจึงควรหลีกเลี่ยง และปรับพฤติกรรมกันเสียใหม่นะคะ

 

หยุดด่วน! 6 พฤติกรรมทำร้ายผิว 

พฤติกรรมทำร้ายผิว
กด บีบ แกะสิวด้วยตัวเอง เสี่ยงทั้งหลุมสิว รอยสิว ซึ่งรักษายากกว่าสิวเยอะเลย
  • กด บีบ แกะสิว

เจ้าสิวตัวร้ายที่ขึ้นมาบนหน้า นอกจากจะเจ็บ ก่อความรำคาญแล้ว ยังทำลายความสวยอีกต่างหาก และหลายคนก็รู้สึกว่า อยากให้สิวหายไปเร็วที่สุด เลยใช้วิธีกด บีบ หรือแกะสิว เพราะเมื่อหัวสิวหลุด สิวก็จะหาย แต่วิธีการเหล่านี้ทำร้ายผิวอย่างรุนแรงเลยนะคะ ทำให้ใบหน้าเกิดหลุมสิวและรอยดำ ซึ่งใช้เวลารักษานานกว่าการรักษาสิวเสียอีก

วิธีการรักษาสิวที่ดีที่สุด คือ การรักษาความสะอาดของใบหน้า หมั่นล้างหน้า ทายาแต้มสิว และใช้แผ่นซับสิว ที่สำคัญต้องใจเย็น ๆ รอเวลาสักหน่อย ให้สิวหายไปเองค่ะ หรือถ้าไม่หายจริง ๆ ควรไปหาคุณหมอ หรือผู้เชี่ยวชาญ ให้ทำการรักษา หรือทำการกดให้ เพราะถ้าทำเอง หน้าพังจริง ๆ นะเออ

 

พฤติกรรมทำร้ายผิว
นอกจากทาครีมบำรุงผิวแล้ว อยู่บ้านก็ต้องทาครีมกันแดดด้วย กระ ฝ้า จะได้ไม่ถามหา
  • อยู่บ้านหน้าสด

เอ้า! อยู่บ้านต้องแต่งหน้าด้วยเหรอ ไม่ใช่ค่ะซิส หน้าสดที่พูดถึงก็คือ การไม่ทาครีมกันแดด ซิสอาจจะสงสัย อยู่บ้านทำไมต้องทาครีมกันแดด! แต่ซิสคะ ซิสยังต้องเผชิญแสงแดดที่ส่องมาทางหน้าต่าง อาจจะเดินออกไปรับของหน้าบ้าน และที่สำคัญ ซิสยังต้องเจอกับแสงไฟ และแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่ทำให้ผิวคล้ำ และทำร้ายผิวให้เกิดฝ้าและกระได้ ดังนั้น ถึงจะอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน นอกจากทาครีมบำรุงผิวแล้ว ซิสก็ต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดทุกเช้านะคะ

 

พฤติกรรมทำร้ายผิว
สครับผิวบ่อยเกิน จะทำให้ผิวบาง ทางที่ดี ควรสครับผิวแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
  • สครับผิวบ่อยเกินไป

การสครับผิวเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะจะได้ทำการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ใบหน้าจะดูกระจ่างใสขึ้น ลดการอุดตันของรูขุมขน จึงลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดสิวไปด้วย แต่การสครับผิวบ่อยเกินไป เช่น สครับทุกวัน หรือมากกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือสครับผิวรุนแรงเกินไป จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง ผิวบางลง เมื่อผิวระคายเคืองมาก ๆ ก็จะส่งผลให้เกิดสิวได้ง่าย และหากผิวบางลง ก็จะทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ทำให้ผิวคล้ำได้ง่ายค่ะซิส วิธีการที่ดีที่สุด ในการสครับใบหน้า จึงควรสครับเพียงสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง โดยสครับวนเป็นวงกลมเล็ก ๆ ทั่วใบหน้าอย่างเบามือ เท่านี้ก็สามารถผลัดเซลล์ผิวได้แล้วค่ะ

 

พฤติกรรมทำร้ายผิว
ทาแป้งนอน จะทำให้แป้งอุดตันรูขุมขน เกิดเป็นสิวอุดตันได้ แถมทำให้ผิวแห้งอีกต่างหาก
  • ทาแป้งนอน

ต้องโอดครวญกันแน่ ๆ เลย เพราะทาแป้งนอนแล้วรู้สึกสบายผิวนี่นา ไม่เหนอะหนะด้วย ใช่ไหมคะ แต่ซิสคะ! ผิวของเราในตอนกลางคืนนั้นจะเปิดรับสารบำรุงและออกซิเจนได้ดีนะคะ ดังนั้น หากเราทาแป้งลงไป แป้งก็จะไปอุดตันรูขุมขน เสี่ยงโอกาสในการเกิดสิวอุดตันได้ และยังไปดูซับน้ำมันใต้ผิว ทำให้ผิวหน้าแห้งอีกต่างหาก ดังนั้น อย่าทาแป้งนอนเลยนะคะ เปลี่ยนมาทาครีมบำรุงแบบจัดเต็มกันดีกว่า รับรองว่า ผิวจะเด้ง อิ่มฟู ผิวฉ่ำสดชื่น จนรู้สึกได้ตอนตื่นนอนเลยค่ะ

 

พฤติกรรมทำร้ายผิว
นอนตะแคง หรือนอนคว่ำ จะทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้ง่าย
  • นอนตะแคง นอนคว่ำ

ขัดใจอีกแล้วล่ะสิ ซิสรู้ค่ะว่า ท่านอนตะแคง หรือท่านอนคว่ำ เป็นท่าที่สบายของใครหลาย ๆ คน แต่การนอน 2 ท่านี้ ทำให้ใบหน้าของเราสัมผัสกับหมอนเต็ม ๆ เลยค่ะ เกิดเป็นรอยยับย่นบนใบหน้าของเรา แถมถ้าสัมผัสกับปลอกหมอนที่หยาบกระด้าง ยิ่งเพิ่มริ้วรอยเป็นทวีคูณอีกต่างหาก และถ้าซิสไม่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนหรือปลอกหมอนบ่อย ๆ ละก็ นอกจากจะเกิดริ้วรอยแล้ว ยังทำให้เกิดสิวและสิวอุดตันได้อีกด้วยค่ะ ทางที่ดีลองเปลี่ยนท่านอนกันดีกว่าค่ะ เปลี่ยนมาเป็นนอนหงาย จะได้ถนอมผิวหน้าของเรานะคะ

 

พฤติกรรมทำร้ายผิว
ขยี้ตาแรง ๆ จะทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาได้ง่าย
  • ขยี้ตาแรง ๆ 

เป็นพฤติกรรมที่หลาย ๆ คนเผลอทำโดยไม่รู้ตัวค่ะ โดยเฉพาะเวลาคันตา หรือระคายเคืองตา ก็จะเผลอขยี้ตาแรง ๆ เพื่อให้อาการระคายเคืองหายไป ซึ่งการขยี้ตาแรง ๆ นี่แหละค่ะ เป็นการทำร้ายผิวรอบดวงตาแบบสุด ๆ ไปเลย และทำให้ผิวรอบดวงตาเหี่ยว เกิดริ้วรอย และเกิดรอยคล้ำอีกด้วย จึงควรเลือกพฤติกรรมนี้นะคะ หากรู้สึกระคายเคือง ให้สัมผัสรอบดวงตาเบา ๆ ไม่ก็หยอดตา หรือหยอดน้ำตาเทียม เพื่อให้หายระคายเคือง แทนการขยี้ตาค่ะ

 

ตกใจไหมคะ ว่าเป็นพฤติกรรมที่เราทำในชีวิตปกติประจำวันของเรากันทั้งนั้นเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามักเผลอทำกันไป โดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้น ถ้าซิสไม่อยากมีผิวแก่ ผิวโทรมก่อนวัย หรือเป็นสิว ซิสต้องปรับพฤติกรรมด่วน ๆ เลยค่ะ เริ่มตั้งแต่วันนี้ยังไม่สาย รับรองว่า ผิวสวยจะไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ

 

Cr. Pictures from freepik , blog.livedoor.jp

Comments

comments