สวัสดีค่ะ สาว ๆ ชาว Clubsister วันนี้ เรากลับมาพร้อมเรื่องราว ที่เป็นที่น่าสนใจ ในช่วงที่ผ่านมา เราเชื่อว่า หลาย ๆ คน คงจะใช้เครื่องสำอาง กันเป็นปกติ แต่ทุกคน เคยได้ยินคำว่า Cruelty Free กันบ้างไหม แล้วรู้หรือเปล่า ว่ามันเกี่ยวกับของที่เราใช้อยู่ทุกวันยังไงบ้าง มาทำความเข้าใจ ผ่านหนังสั้น ที่มีชื่อว่า ” Save Ralph ” หนังสั้นที่เป็นเหตุของ #SaveRalph แฮชแท็ก ขึ้นติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ในหลายประเทศ วิดิโอนี้คืออะไร ทำไมถึงเป็นที่สนใจขนาดนี้ มาดูกัน

Save Ralph เป็นหนังสั้น ในรูปแบบ การ์ตูนแอนิเมชั่น ที่พยายามสื่อ ให้เห็นถึงปัญหา ในเรื่องการนำสัตว์ มาทดลองสารต่าง ๆ ก่อนจะผลิต ออกมาเป็นเครื่องสำอาง ให้มนุษย์ได้ใช้ ดำเนินเรื่อง เสมือนเป็นสารคดี ตามติดชีวิต ถ่ายทอดเรื่องราว ของกระต่ายตัวหนึ่ง ที่ชื่อว่า “ราล์ฟ” (Ralph) 

 

Save Ralph

 

ราล์ฟ เป็น กระต่ายทดลอง ในห้องทดลองแห่งหนึ่ง ได้เล่าถึงความเป็นอยู่ของตัวเอง ในปัจจุบัน  เขามีปัญหาด้านการได้ยิน มีดวงตาที่แดงอักเสบหนึ่งข้าง มีผิวหนังที่อักเสบ และเขา ก็เล่าถึงประสบการณ์ขณะทดลอง ตอนที่โดนโกนขน และ ใช้สารเคมีราด ว่ามันทรมานแค่ไหน

แต่ถึงแม้จะเจ็บปวด น้ำเสียง และ ท่าทางที่ ราล์ฟ พยายามแสดงออก สื่อให้เห็นว่า เขาคิดว่าเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องปกติมาก ๆ อีกทั้งยังบอกว่า ยังไงมันก็โอเค ที่ได้ทำเพื่อมนุษย์ ซึ่งเป็นสัตว์ที่สูงส่งกว่า และ กระต่ายทุกตัวในครอบครัว ก็ถูกกระทำ เหมือนกับเขา

 

แล้วมนุษย์นั้นสูงส่งกว่าจริง ๆ หรือพวกเราก็แค่บอกตัวเอง?

 

Save Ralph

Save Ralph

 

ถึงแม้ว่า จะเป็นเพียงวิดิโอสั้น ๆ แต่ก็ได้สะท้อน ถึงความโหดร้าย ของมนุษย์ออกมามากทีเดียว ในการจะได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เราใช้กันทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย แชมพู และ อื่น ๆ อีกมากมาย มีสัตว์ทดลองจำนวนมาก ที่ต้องสละชีวิต และ ทรมาน เพื่อความสะดวกสบาย หรือ ความสวยงามของพวกเรา

 

NO animal should suffer and die in the name of beauty.

ประโยคตอนท้าย จากหนังสั้น “Save Ralph”

 

ภายหลัง ที่คลิปนี้ ได้ถูกแชร์ออกไป ในวงกว้าง ก็มีกระแส แฮชแท็ก #SaveRalph เกิดขึ้น ในโลกโซเชี่ยล และ รณรงค์ ให้เลิกใช้สินค้า ที่มีการทดลองในสัตว์ ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ได้มีแค่กระต่ายเท่านั้น ที่เป็นสัตว์ทดลอง แต่ยังมี หนู งู ลิง และ อื่น ๆ อีกมากมาย 

 

“Save Ralph” เรียกสติ! Cruelty Free คืออะไร ความสวยต้องไม่ทรมานสัตว์สิ!

 

โดยเราสามารถสังเกตได้จาก ตราสัญลักษณ์ Cruelty Free ซึ่งหมายถึง สินค้าที่มีตรานี้ ไม่ได้มีการทดลองในสัตว์ ก่อนจะผลิตออกมา เรามาดูกันดีกว่าว่า ตรา Cruelty Free มีหน้าตาเป็นยังไง

 

Save Ralph

 

อย่างไรก็ตาม ใน แฮชแท็ก #SaveRalph เอง ก็มีชาวเน็ต ที่ได้แสดงความคิดเห็น ในแง่มุมอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นไป ในทิศทางเดียวกันกับความเห็นส่วนมาก เรียกว่า เป็นการมองในอีกแง่มุม เช่น ในปัจจุบัน การทดลองที่ใช้สัตว์ จะต้องมีการ ทำตามกระบวนการ ที่อยู่ภายใต้ หลักจริยธรรม และ บางครั้ง เทคโนโลยี ด้านอื่น ๆ เช่น การใช้เนื้อเยื่อสังเคราะห์ นั้นไม่สามารถทดแทน การใช้สัตว์ทดลองได้ ซึ่งมันก็แล้วแต่โจทย์ที่ต้องการทดลอง

 

และยังมีการกล่าวถึงประเด็น ที่ว่า มันยุติธรรมแล้วหรือไม่ สำหรับบางแบรนด์ ที่เคลมว่า ตัวเองเป็น Cruelty Free แต่ใช้สาร ที่ผ่านการทดลองในสัตว์มาแล้ว จากบริษัทอื่น หรือก็คือ เป็นการใช้ข้อมูล ที่มีอยู่แล้ว จากที่คนอื่นเคยทดลอง มาใช้

 

Save Ralph
เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น

 

แล้วถ้าหาก มนุษย์ ต้องการพัฒนาสูตร เครื่องสำอาง หรือ ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ให้สามารถนำมาใช้ ได้อย่างปลอดภัย จะมี วิธีการใด ที่มีประสิทธิภาพ และ มีจริยธรรม ไปพร้อม ๆ กันได้

เรื่องนี้ ยังเป็น เรื่องที่คงต้องถกเถียง และ ค้นคว้าเพื่อหาทางออก เพราะทั้งสองด้าน ต่างก็เป็นเรื่องจริง ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็ไม่มีผิดถูก 100% 

หากเรามองว่า แม้จะมีการควบคุม ด้านจริยธรรมแล้วก็ตาม แต่การทดลองในสัตว์นั้น ยังคงเป็นเรื่องที่สร้างความทรมาน ให้กับสัตว์อยู่ดี นั่นก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้

เป็นเรื่องจริง ที่มนุษย์ ได้เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บนโลก เพื่อให้ตัวเองสุขสบายขึ้น ดังนั้นการที่เราจะไม่สนับสนุนมัน ก็นับเป็นเรื่องที่ดี หรือ หากเราจะยอมรับ ว่าการทดลองในสัตว์ ได้สร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์จริง ๆ และ ยอมรับในความเห็นแก่ตัวของมนุษยชาติ ก็คงไม่แปลกอะไรเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญคือ ไม่ว่าจะมองมุมไหน ทั้งสองด้าน ก็ต่างเป็นเรื่องจริง

อย่างน้อยวันนี้ หนังสั้นเรื่อง Save Ralph ก็ได้สร้างความตระหนัก แก่คนจำนวนไม่น้อย ให้รับรู้ข้อเท็จจริงที่ว่า ความสวยงาม และ ความปลอดภัย ของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เราใช้ มันแลกมาด้วย ชีวิต และ ความเจ็บปวด ของสัตว์ทดลองมากมาย

 

credit :abeauticianlife , Save Ralph , Freepik

Comments

comments